บทความพิเศษ : ความจริงที่หายไปในพฤษภา’35 (ตอน25)

ตอน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24
โดย “มือเก่า”

“เดลิมิเรอร์” 5 สิงหาคม 2535 โดย สีหมอก

รายการโทรทัศน์ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม ผู้ถามเกี่ยวกับอีสานแห้งแล้ง ท่านอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่นตอบตอนหนึ่งว่า ท่านเคยพบผู้เชี่ยวชาญการเกษตรของประเทศอิสราเอล กล่าวว่า ดินแดนภาคอีสาน น่าจะปรับปรุงพัฒนาให้เป็นพื้นที่เกษตรกรรมได้ไม่ยาก เพราะอิสราเอลเป็นทะเลทรายแท้ๆ ยังสามารถพลิกพื้นทราย ให้ทำเกษตรกรรมได้ แล้วทำไมพื้นที่อีสานเป็นดินแท้ๆ จะทำไม่ได้ พร้อมกันนั้นก็สัพยอกอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่นว่า เอาแผ่นดินอีสานมาแลกกับทะเลทรายของอิสราเอล จะเอาไหม

อยู่ๆ พิธีกร ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ก็พูดสอดแทรกว่า “แล้วอย่างทหารไทยนี่ อิสราเอลไม่ต้องการแลกบ้างหรือ” คนที่เป็นทหารฟังแล้วจะรู้สึกอย่างไร ที่อยู่ๆ ก็ยกเอาสถาบันของเขาขึ้นมากล่าว คล้ายเป็นสินค้าหรือของที่ไม่มีค่า ไม่มีราคา เป็นการสบประมาทดูหมิ่นดูแคลนทหารไทยชัดๆ

ผมจึงขอยืนยันว่า รายการนี้ไม่ใช่ “มองต่างมุม” แต่เป็นการมองมุมเดียว ที่จ้องจะทำลายผู้อื่น

เสียดาย นักวิชาการหลายท่าน ที่มีสมองล้ำเลิศ แต่ไม่ค่อยมีความเป็นธรรม

เอกสาร “10 คำถามของพรรคพลังธรรม” หน้า 5-6

คำถามที่ 2 ทำไม? พล.ต.จำลอง ไม่ให้โอกาส พล.อ.สุจินดา ทดลองบริหารบ้านเมืองสักช่วงหนึ่งก่อน หากไม่ดีค่อยขับไล่…

ตอบ หากขืนให้โอกาสดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็รังแต่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเมือง เพราะ

1. พล.อ.สุจินดา ย่อมจะพยายามใช้กลไกอำนาจรัฐที่กุมอยู่ในมือ หาทางทำลายศัตรูทางการเมือง และกลุ่มประชาชนที่ต่อต้านตน อันจะนำไปสู่การละเมิดสิทธิมนุษยชน และก่อให้เกิดปัญหาความรุนแรงยืดเยื้อตามมา

เพ้อ

2. พล.อ.สุจินดา ย่อมจะพยายามทุ่มเงินคงคลังออกมาใช้จ่าย เพื่อเอาอกเอาใจประชาชนกลุ่มต่างๆ ซึ่งอาจจะลดความไม่พึงพอใจของประชาชนบางส่วนในระยะสั้น แต่การใช้จ่ายเงินคงคลังที่มีอยู่อย่างไม่มีประสิทธิภาพเช่นนี้ จะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจในระยะยาว และจะสร้างความหายนะให้เกิดขึ้นกับบ้านเมืองในกาลต่อไป

เพี้ยน

3. รัฐบาลของ พล.อ.สุจินดา จะมีการทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างมากมาย พล.อ.สุจินดา ก็ยอมรับว่า มีการใช้เงินซื้อเสียงอย่างมโหฬารในการเลือกตั้งที่ผ่านมา จึงควรให้คนกลางมาเป็นนายกฯ จะสามารถควบคุมการทุจริตคอร์รัปชั่นได้ดีที่สุด…ยิ่งรัฐบาล พล.อ.สุจินดา ถูกประชาชนต่อต้าน และขาดเสถียรภาพมากเท่าไร นักการเมืองที่ร่วมรัฐบาล ซึ่งได้ทุ่มเงินซื้อเสียง ก็ยิ่งต้องฉวยโอกาสกอบโกย ถอนทุนคืนให้มากที่สุด ในเวลาที่เร็วที่สุด ก่อนที่รัฐบาลจะถูกล้ม เมื่อเป็นเช่นนี้ แม้จะให้เวลาบริหารบ้านเมือง การทุจริตคอร์รัปชั่น ก็ยังจะเกิดขึ้นแน่นอน

จะมีนายกฯ คนกลาง เพื่อควบคุมการทุจริตคอร์รัปชั่นได้ดีที่สุด

ท่านก็ขัดขวาง

จะมีรัฐบาลที่มั่นคง มีเสถียรภาพ 4 เหล่าทัพหนุนหลัง

ท่านก็ต่อต้าน

ข้อสำคัญ สาเหตุที่ขัดขวางและต่อต้านรัฐบาล พล.อ.สุจินดา มาจากจินตนาการล้วนๆ เพราะเหตุยังไม่เคยเกิดขึ้น ยังไม่ได้บริหารประเทศให้เสียหายแต่อย่างใด เท่ากับล้มรัฐบาล จากการอ้างเท็จแท้ๆ ใช่หรือไม่?”

เอกสาร “10 คำถามของพรรคพลังธรรม” หน้า 24

ค) ถ้าจะกล่าวหา พล.ต.จำลอง …พาประชาชนไปตาย ก็เป็นเรื่องสุดวิสัย เกินกว่าที่ใครจะคาดคิดถึง

“ไม่ใช่เรื่องสุดวิสัยหรอก เพราะ พล.ต.จำลอง รู้ดีว่าทางการประกาศภาวะฉุกเฉินแล้ว ทหารมีสิทธิ์ปราบปรามขั้นเด็ดขาดได้ เมื่อทหารขอให้ย้ายกลับสนามหลวง กลับเกลี้ยกล่อมให้ประชาชนอยู่ต่อ มิหนำซ้ำยังให้ชวนคนมาชุมนุมเพิ่มอีก แปลว่า เรียกประชาชนออกมาเสี่ยงอันตราย ใช่หรือไม่

การเคลื่อนย้ายฝูงชน บนเส้นทางเดียวกันนี้ ไม่ใช่เพิ่งกระทำครั้งแรก แต่ได้มีการเคลื่อนย้ายมาแล้ว 2 ครั้ง และทุกอย่างก็เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย

พูดไม่จริงอีก เส้นทางเดิม แต่มีทั้งขาไปและขากลับ ครั้งแรก ย้ายจากรัฐสภาไปสนามหลวง ไม่มีปัญหา

ครั้งที่ 2 ย้ายออกจากสนามหลวง โดยไม่ยอมบอกจุดหมายปลายทาง แต่ถูกสกัดที่ “ผ่านฟ้า” จนเกือบปะทะกับเจ้าหน้าที่ ฉะนั้น ย้ายครั้งที่ 2 ไม่ได้สงบเรียบร้อยเลย

ใครบ้างจะคาดคิดว่า รัฐบาลที่เป็นชาวไทยด้วยกัน จะสั่งการให้ใช้อาวุธสงคราม และกระสุนจริง เข้าปราบปรามประชาชนที่มีแต่มือเปล่าๆ

มือเปล่าๆ แต่ก็เผาบ้านเผาเมืองได้ และดูเหมือนฝ่ายผู้ชุมนุมเอง จะเป็นฝ่ายยั่วยุให้ทางการใช้ความรุนแรง โดยการชุมนุมครั้งแรก 6-12 พฤษภาคม มีการยั่วยุให้มาสลายการชุมนุม และผิดหวังที่รัฐบาลไม่ประกาศภาวะฉุกเฉิน ส่วนคืนวันที่ 18 ก็มีการจลาจล ใช้ความหายนะของบ้านเมือง บีบบังคับให้รัฐบาลต้องใช้ความรุนแรง

ใครบ้างจะคาดคิดว่า คนไทยด้วยกัน รัฐบาลไม่ได้สั่งให้ใช้กระบอง แก๊สน้ำตา หรือกระสุนยาง ในการสลายการชุมนุมที่เป็นไปอย่างสันติ

คืนวันที่ 17 พฤษภาคม ตำรวจไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้อาวุธปืน มีแต่กระบอง ส่วนกระสุนยาง และแก๊สน้ำตา ก็มีรายงานจากสื่อ ดังนี้ :-

“ข่าวสด” 18 พฤษภาคม 2535 หน้า 22 หัวข้อ “ตีกัน ตร.เจ็บ”

ขบวนผู้ชุมนุมประท้วง ฮือฝ่าแนวป้องกัน มุ่งหน้าไป สน.นางเลิ้ง ตำรวจตัดสินใจยิ่งแก๊สน้ำตาเข้าใส่ ทำให้ประชาชนแตกฮือ แต่กลับมารวมตัวกันใหม่ และกรูเข้าใส่ตำรวจ ตำรวจส่วนหนึ่งต้องงัดกระบองขึ้นมา ไล่ตีประชาชนที่ฮือเข้าใส่

“มติชน” 18 พฤษภาคม 2535

23.35 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน เจ้าหน้าที่ยิงแก๊สน้ำตาตรงบริเวณหน้ากรมโยธาธิการเป็นระยะๆ

23.37 น. กลุ่มผู้ชุมนุมใช้ขวดใส่น้ำมัน และจุดไฟ ขว้างปาใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งพากันวิ่งหลบชุลมุน

“ผู้จัดการ” ฉบับพฤษภาคมทมิฬ หน้า 149

วันนั้น เสียงปืนดังขึ้นแล้ว ทหารยิงปืนขึ้นฟ้า กระสุนที่ใช้ยิง เป็นกระสุนซ้อม คืนวันที่ 18 ที่เกิดเสียงปืนปราบ

“ข่าวไท” 25 พฤษภาคม 2535 หน้า 24

ตี 5 เศษ มีการใช้ปืนยิงเข้าใส่ฝูงชนที่จะข้ามสะพานผ่านฟ้า มีคนได้รับบาดเจ็บเพราะกระสุนยาง จำนวนหลายสิบคน

“แพรวเฉพาะกิจ” หน้า 47-48 โดย ลัดดาวัลย์ รัตนดิลกชัย

มีประชาชนประมาณ 20 คน เผชิญหน้ากับทหารอยู่ ประชาชนก็ร้องเพลงกันใหญ่ เพลงที่ร้องคือ ต.ช.ด. ย่อมาจาก “ตำรวจชายแดน…” และตบท้ายว่า แล้วพวกมึง (หมายถึงทหาร) มาอยู่กรุงเทพฯ ทำไม น่านับถือทหารอยู่จุดหนึ่ง เขาพยายามรักษาอารมณ์ และบอกว่า “กลับไปเถอะ กล้บบ้านไป อย่าออกมา” แต่ไม่มีใครเชื่อ

…มีผู้ชายออกสำเนียงทางใต้ ตะโกนบอกทหารว่า “เรามาต่อสู้ เพื่อให้ได้ประชาธิปไตยของเราคืนมา” ทหารตะโกนโต้ตอบอย่างเผ็ดร้อนว่า “พวกเอ็งทำไม่ถูก ให้ไปทำในสภา มาทำนอกสภาทำไม”

…บนรถกระบะ มีคนคนหนึ่ง ถือโทรโข่งประกาศขอวิงวอนให้พี่น้องอยู่ในความสงบ เพื่อประชาธิปไตยของเรา ขอให้ไปสู้กันในสภา สารพัดจะพูดต่างๆ นานา จากฝ่ายทหาร

“พฤษภาทมิฬ” เล่มเล็ก หน้า 29

20.45 น. …ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ได้กล่าวขอร้องผ่านทางเครื่องขยายเสียงว่า อย่าทำลายทรัพย์สินของบ้านเมือง และกล่าวหว่านล้อมให้ทุกคนกลับบ้าน

หน้า 43

กลุ่มผู้ประท้วงจำนวนหนึ่ง ถูกต้อนจนมุมที่บริเวณหน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ ยังมีประชาชนที่เดินทางมาอีกจำนวนหนึ่ง แต่ไม่สามารถเข้าไปได้ โดยทหารประกาศว่า ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องขอให้เดินทางกลับบ้าน หรือจำเป็นต้องผ่านบริเวณดังกล่าว ให้อ้อมไปทางอื่น มิฉะนั้น จะเป็นอันตรายถึงชีวิต

เวลาใกล้เคียงกัน ทีวีได้ประกาศแจ้งว่า ประชาชนได้เผารถขยะ 2 คัน และกระถางต้นไม้ รวมถึงรถกระบะอย่างน้อย 1 คัน ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการสลาย เพื่อให้กลับคืนสู่ความสงบโดยเร็ว

“ผู้จัดการ” พฤษภาคมทมิฬ หน้า 79

ทหารได้ประกาศให้ประชาชนทราบว่า ทหารรักประชาธิปไตยเหมือนกัน อย่าใช้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย หากมีการชุมนุมอยู่ หลัง 18.00 น. ทางราชการจะไม่รับประกันความปลอดภัยใดๆ ทั้งสิ้น

“ข่าวไท” 25 พฤษภาคม 2535 หน้า 30

มีประกาศทางทีวี ช่อง 5 ประมาณ 02.00 น. ให้ประชาชนออกจากที่ชุมนุม บริเวณกรมประชาสัมพันธ์ และที่สนามหลวง เพราะจะมีการใช้กำลังปราบปรามเด็ดขาด

ประกาศภาวะฉุกเฉินก็แล้ว ห้ามชุมนุมเกิน 10 คนก็แล้ว ยังมีผู้ชุมนุมเต็มท้องถนน แต่ทหารก็ไม่ได้คิดจะใช้กำลังเพียงอย่างเดียว แต่พยายามเจรจา ขอความร่วมมืออยู่ตลอดเวลา ทั้งทางโทรทัศน์ วิทยุ และตามถนน ตรอก ซอก ซอย ผ่านเครื่องกระจายเสียง ทั้งวิงวอน ขอร้อง ตะโกนคอแทบแตก ขอให้ผู้ชุมนุมกลับบ้าน บ้านเมืองจะได้กลับสู่ความสงบ ทั้งแจ้งให้ทราบว่า ถ้าไม่กลับจะถูกปราบปรามขั้นเด็ดขาด ก็มีผู้ไม่กลับ

ถ้าท่านเป็นทหาร ซึ่งเหนื่อย ร้อน หิว อดนอน และถูกด่ามาทั้งวัน มาพบเหตุการณ์ “ไม่ฟังกันเลย” แบบนี้

ท่านจะรู้สึกอย่างไร?