บทความพิเศษ : ความจริงที่หายไปในพฤษภา’35 (ตอน6)

ตอน 1 2 3 4 5

โดย มือเก่า

“ร่วมกันสู้” หน้า 99-100

(วันที่ 7) … ยิ่งค่ำ ประชาชนก็ไปชุมนุมเพิ่มมากขึ้นๆ หนึ่งทุ่ม แทบไม่มีที่จะยืน ร้อนอบอ้าว อากาศแทบไม่พอหายใจ

…พรรคฝ่ายค้านมีความเห็นว่า ควรจะเคลื่อนออกจากหน้ารัฐสภาไปสนามหลวง เนื่องจากสถานที่แออัด และอึดอัด ล้อมปราบได้ง่าย… 2 ทุ่มพื้นที่ก็แออัดมากจนรับไม่ได้อีก ประชาธิปไตยเลือด หน้า 30

20.00 น. พล.ต.จำลอง เขียนจดหมายมอบให้ นางประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ เพื่อขอย้ายที่ชุมนุมจากหน้าสภาไปสนามหลวง การย้ายมวลชนเป็นไปอย่างมีระเบียบมาก โดยหัวขบวนเป็นนักศึกษา ประสานมือกันเป็นหน้ากระดาน ตามด้วยขบวนประชาชนหลายหมื่นคน และมีขบวนจักรยานยนต์ปิดท้าย

“แนวหน้า” 8 พฤษภาคม “35 หน้า 16 หัวข้อ “เคลื่อนพลสนามหลวง”

20.30 น. พล.ต.จำลอง ก็ได้นำขบวนเคลื่อนสู่สนามหลวง โดย พล.ต.จำลอง กับ ร.ต.ฉลาด นายประพันธ์ศักดิ์ ผู้อดอาหาร แยกกันขึ้นรถโรงพยาบาลไป

ย้ายครั้งแรก มีการแจ้งก่อน การย้ายเลยเป็นไปด้วยความเรียบร้อย (มือเก่า)

“ร่วมกันสู้” หน้า 102-103

ไปถึงสนามหลวงได้ไม่นาน เจ้าหน้าที่สำนักราชเลขาธิการก็เดินทางไปพบผม ส่งเอกสารให้ผมลงนามรับไว้ ในหนังสือนั้น ท่านราชเลขาธิการมีถึงหัวหน้าพรรคการเมืองทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ถามความเห็นว่าแต่ละพรรคเห็นด้วยหรือไม่ กับข้อเสนอของนายแพทย์ประเวศ วะสี ที่ได้ถวายฎีกา ถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอให้มีการยุบสภา

“แนวหน้า” 8 พฤษภาคม’35 หน้า 16 หัวข้อ ฎีกา “ลาออก”

เวลา 22.30 น. พรรคฝ่ายค้าน (โดย นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ และ พ.อ.ศรชัย มนตริวัต) เดินทางออกจากรัฐสภา ไปยังสำนักพระราชวัง ถวายคำแนะนำว่าไม่ควรยุบสภา

“ดอกเบี้ยรายสัปดาห์” ฉบับพิเศษ” หน้า 30.1

22.10 น. พล.ต.จำลอง ได้เขียน จ.ม.ถึงประชาชนที่ชุมนุมว่า “ขณะนี้พลเอกสุจินดา ยังไม่ลาออก ตามที่ 4 พรรคฝ่ายค้านนำความขึ้นกราบบังคมทูล ดังนั้น ขอให้ประชาชนค้างคืนกับผมให้มากๆ เพราะหากมีกำลังน้อย ตำรวจจะเอาตัวผมไป และวันพรุ่งนี้ (8 พ.ค.) จะได้ข่าวพลเอกสุจินดาออก

“แนวหน้า” 8 พฤษภาคม’35 หัวข้อ “ระวังตุ๋ยสั่งบุก”

พล.ต.จำลองได้เขียนหนังสือ และประกาศที่ท้องสนามหลวงว่า “พลเอกสุจินดายังไม่ลาออก คืนนี้เวลา 02.00 น. พลเอกอิสระพงศ์ จะให้ตำรวจ ทหาร กวาดล้างประชาชน ให้ระวังด้วย และขอให้ประชาชนอดทนอีกสักหน่อย พ้นวันนี้แล้ว ชัยชนะจะเป็นของทุกคน

หลอกไปเรื่อยๆ (มือเก่า)

“ข่าวสด” 9 พฤษภาคม “35 หน้า 3

พล.ต.จำลอง ให้คนมาเชิญผู้สื่อข่าวไปที่เต็นท์ และเขียนข้อความให้ทราบว่า “พรรคพลังธรรม โดย ส.ส.พีรพงษ์ ถนอมพงษ์พันธุ์ และ ส.ส.สุเทพ อัตถากร จะฟ้องร้องรัฐบาลทำผิด พ.ร.บ.รักษาความสะอาด ทั้งในวันที่ 7 และ 8 พ.ค. รัฐบาลใช้เครื่องบินโปรยใบปลิวลงมา ทำให้ท้องสนามหลวงสกปรก”

ชอบกล! (มือเก่า)

09.30 น. แพทย์หญิงฟ้ารัตน์ ทัตติยธรรม ขึ้นอ่าน จ.ม.ของ พล.ต.จำลอง … ผมเห็นใจท่านที่หวังดีต่อผม …มาพูดกับผมว่า อย่าเอาชีวิตเข้าแลกอย่างนี้ ผมก็ได้แต่บอกเขาว่า แล้วมีวิธีอื่นอีกมั้ย ที่จะทำให้พลเอกสุจินดาลาออกอย่างรวดเร็ว…ถ้าผมฟุบเมื่อไหร่ ก็ให้ผมตายไปต่อหน้าต่อตา และหากพาผมไปโรงพยาบาล ผมจะมีความเศร้าใจตลอดชีวิต เพราะผิดคำพูดที่ว่า จะไม่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล หรือ กินอาหารทุกชนิด

โถ งั้นเวลานี้ ท่านคงกำลังเศร้าใจอยู่ (มือเก่า)

“ร่วมกันสู้” หน้า 68-69

…ขอให้ประชาชนมาร่วมเป็นจำนวนมากๆ ใครๆ ก็หยุดยั้งพลังมหาชนไม่ได้

เรือนอากาศตรีฉลาด ครูประทีป ครป. สนนท. กลุ่มคณาจารย์มหาวิทยาลัยต่างๆ และกลุ่มบุคคลอื่นๆ ที่ร่วมกันสู้เป็นลำดับมานั้น ยังไม่ได้รับความร่วมมือจากประชาชนมากเท่าที่ควร ไม่มากพอที่พลเอกสุจินดาจะยอมปฏิบัติตามคำเรียกร้องได้…

ผมคิดถึงเรื่องนี้อยู่เป็นอาทิตย์ อยากจะเอาตัวเองเข้าเสี่ยงร่วมต่อสู้ให้รู้ผล เห็นดำเห็นแดงกันในเร็ววัน แทนที่จะปล่อยให้ยืดเยื้อมาแรมเดือน แล้วไม่มีทีท่าว่าจะสำเร็จ

“ร่วมกันสู้” หน้า 71

ถ้าครั้งนี้ต่อสู้เหยาะๆ แหยะๆ ละก็ ไม่สำเร็จแน่

“ร่วมกันสู้” หน้า 73

ต้องใช้วิธีเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ในระยะเวลาอันรวดเร็วภายใน 2-3 วันนี้ จึงจะได้ผล

ที่แท้ การประกาศอดข้าว ก็คือ แผนการต่อสู้ที่คิดว่าจะได้ผลในเวลาอันรวดเร็ว (มือเก่า)

“ไทยรัฐ” 8 พฤษภาคม “35 หัวข้อ “จำลองสู้ตาย”

…ได้มีการอ่านเจตนารมณ์ พล.ต.จำลองว่า… ขอให้พี่น้องประชาชนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า นายกฯ ต้องลาออก นายกฯ ต้องลาออก หรือจำลองต้องตายภายใน 10 พ.ค.นี้ อย่าเอาเรื่องแก้ รธน. มาเบี่ยงเบน …ขอร้องอย่าเอาอะไรมาให้กิน ไม่มีทาง จะอดอาหารอย่างเคร่งครัดอย่างนี้ไปจนตาย

“พฤษภาทมิฬ” หน้า 7 คำพูดของ พล.ต.จำลอง

เรื่องนี้ต้องแข็งใจ อย่าให้พลเอกสุจินดา เอาเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาเบี่ยงเบนประเด็น

“แนวหน้า” 18 พฤษภาคม “35 หัวข้อ ประสงค์ย้ำ สุต้องออก

น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ กล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้น่าห่วงมาก… ต้องการให้พลเอกสุจินดาลาออกเท่านั้น การแก้ไข รธน. เป็นการเบี่ยงเบนประเด็นเพื่อซื้อเวลา แก้ปัญหาไม่ตรงจุด เหมือนกางเกงคับ ไปแก้เสื้อ

ไม่ต้องการแก้ รธน. (มือเก่า)

“ร่วมกันสู้” หน้า 105

มีการเสนอว่า หากเปลี่ยนเป็นแก้ไข รธน. แทนการเรียกร้องให้พลเอกสุจินดาลาออก ผมจะเห็นเป็นอย่างไร ผมเขียนให้พันเอกวินัย สมพงษ์ อ่านให้ ส.ส.ฟังว่า พลเอกสุจินดาต้องมีหนังสือกราบบังคมทูล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า

1. จะรีบแก้ไข รธน. ให้เป็นประชาธิปไตยทุกประการ ให้เสร็จสิ้นภายใน 1 เดือน

2. รธน. มีผลบังคับใช้ทันที ไม่มีบทเฉพาะกาล

3. หากไม่ทำตามข้อ 1 และ 2 พลเอกสุจินดาต้องขอรับพระราชทานโทษ

พลตรี “บังคับ” พลเอก (มือเก่า)

“ข่าวสด” 10 พฤษภาคม “35 หัวข้อ “ย้ำแก้ รธน.แล้ว สุต้องออกทันที”

…ผู้สื่อข่าวถามว่า ตามกฎหมายต้องมีรัฐบาลรักษาการไม่ใช่หรือ พลตรีจำลองกล่าวว่า ก็ต้องมี แต่เราอยากให้นายกฯ หมดอำนาจในวันนั้นเลย…

“แนวหน้า” 10 พ.ค. “35 หัวข้อ “มหาย้ำ สุต้องออก”

…นายกรัฐมนตรีจะต้องลาออกทันที เมื่อ รธน. มีผลบังคับใช้ ไม่ใช่นายกฯ รักษาการ ท่านจะต้องหมดอำนาจในวันนั้น มิฉะนั้นก็จะมีอำนาจไป 3 เดือน

ใหญ่จัง! ส.ส.บังคับนายกฯ (มือเก่า)