บทความพิเศษ : ความจริงที่หายไปในพฤษภา’35 (ตอน10)

AFP PHOTO / FRANCIS SILVAN

ตอน 1 2 3 4 5 6 7 8 9
โดย “มือเก่า”

“มติชน” 9 พฤษภาคม 2535 หน้า 22

หัวข้อ มหาระบุ สุไม่กล้าปฏิวัติ

…ให้มันรู้ไปว่า พล.อ.สุจินดา ถูกด่ามา 5 วัน 5 คืน แล้วจะอยู่ได้อย่างไร ถ้ายืดเยื้อต่อไป เผลอๆ ตุ๋ยกับเต้ ก็จะไปด้วย

“แนวหน้า” 15 พฤษภาคม 2535

พล.ต.จำลอง ยังกล่าวถึงมาตรการเคลื่อนไหว ที่มุ่งประณาม 5 พรรคร่วมรัฐบาลที่ยอมสยบรับใช้เผด็จการ ว่าจะมีการแบ่งประชาชนเป็นกลุ่มๆ แยกย้ายเดินทางไปที่บ้านของหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 5 พรรค…พร้อมทั้งตะโกนว่า “เพราะพรรคแกทำให้บ้านเมืองไม่เป็นประชาธิปไตย ไปสนับสนุนคนนอกเป็นนายกรัฐมนตรี ขณะนี้มีเวลาขอให้กลับตัวเสียใหม่ พวกเราจะให้อภัย” จะมีการด่าอย่างนี้ทุกเช้าและเย็น ก่อนที่หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 5 พรรคจะออกจากบ้านและกลับบ้าน

ไม่จ้วงจาบ หยาบช้า! (มือเก่า)

“ข่าวสด” 12 พฤษภาคม 2535 หน้า 21

…ต่อข้อถาม ขณะนี้รัฐบาลจะคืนสื่อของรัฐ ให้กับประชาชนได้หรือยัง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า พูดกันอยู่เรื่อย ไม่มีการสั่งการใดๆ จากรัฐบาล ไปถามดูได้ว่า มีการใดๆ หรือไม่ ทั้งลายลักษณ์อักษรและวาจา…เมื่อถูกถามว่า มองอย่างไรที่สื่อมวลชนของรัฐ เสนอเฉพาะข่าวของรัฐฝ่ายเดียว พล.อ.สุจินดา กล่าวว่า ตนอยากให้สื่อมวลชนของรัฐออกข่าวว่า ในสภาเขาด่าว่าตนอย่างไร เขาแสดงกิริยาอย่างไร หรือฝ่ายที่มาชุมนุม เขาแสดงกิริยาโจมตีตนอย่างไร อยากให้เขาออกด้วยซ้ำ…เรื่องอะไรตนจะไปปิดกั้น ไม่มีความจำเป็นเลย ไปขอร้องเขาด้วยว่า ทำไมไม่ออก

รัฐบาลถูกกล่าวหาว่า ปิดกั้นสื่อ ทั้งๆ ที่สื่อมีเสรีภาพที่สุดในสมัยรัฐบาล รสช. (มือเก่า)

“ข่าวสด” 12 พฤษภาคม 2535 หน้า 21

หัวข้อ ไม่เอาผิดคนชุมนุมประท้วง

เมื่อถูกถามว่า จะเอาผิดกับผู้ชุมนุมประท้วงหรือไม่ บิ๊กสุกล่าวว่า ไม่ ในฐานะที่เป็นนายกฯ ตนมีหน้าที่ที่ต้องทำให้เกิดความรัก ความสามัคคีของคนในชาติ ทั้งๆ ที่บางสิ่งบางอย่าง เป็นการกระทำที่ไม่ถูกกฎหมาย เราก็ยินยอมอนุลโลมให้

ซึ้ง (มือเก่า)

หัวข้อ ขอรับผิด พูดกร้าวไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่คนออกมาประท้วงกันมากเพราะนายกฯ พูดแข็งกร้าวเกินไป พล.อ.สุจินดา กล่าวว่า ผมขอรับผิด เพราะผมเคยเป็นทหารมา แล้วโค้งไปทางผู้สื่อข่าว กล่าวว่า ผมเป็นคนไม่ยอมในสิ่งที่ไม่ถูกต้องมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ตั้งแต่เป็นร้อยตรี ถึง พลเอก ไปถามผู้บังคับบัญชาผมได้…สิ่งที่ผมทำแล้วถูกตhอง ผมไม่เคยท้อถอย

พูดกร้าว แต่มีน้ำใจ คิดให้อภัย

ดีกว่า พูดเพราะ แต่น้ำใจเชือดคอ (มือเก่า)

“ไทยรัฐ” 12 พฤษภาคม 2535 หัวข้อ ไม่ขัดข้องแก้รัฐธรรมนูญ

ผู้สื่อข่าวถามว่า สนับสนุนให้แก้ รธน. หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่เคยขัดข้องในเรื่องแก้ รธน. เลย…เมื่อถามว่า หากสภามีมติให้แก้ไขอย่างไร ก็จะรับตามนั้นใช่หรือไม่ นายกฯ ตอบว่า ก็รับไปตามนั้น “ไม่ได้เสียดายตำแหน่งนี้เลย ไม่มีความเสียดายเลย” พล.อ.สุจินดา ย้ำ และกล่าวว่า ตนยืนบนหลักการ ถ้าเสียงในสภาให้ออก ผมออกทันที ไม่มีอะไรดึงได้เลย เมื่อถามว่า หากออกไปแล้วจะลงเลือกตั้งหรือไม่ นายกฯ ยืนยันว่าไม่ลง บอกแล้วว่าไม่เล่นการเมือง

หัวข้อ ไม่มีชัยชนะ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองกันว่าชัยชนะครั้งนี้เป็นของรัฐบาล ใช่หรือไม่ พล.อ.อ.เกษตร ตอบว่า ตนไม่รู้ว่าชัยชนะอะไร ไม่รู้เลย รู้แต่ว่า ประชาชนชาวกรุงเทพฯ มีความสุขก็พอแล้ว ชัยชนะอะไรไม่มี เราไม่มีการรบกัน จะได้มีชัยชนะอะไรกัน

ซึ้ง (มือเก่า)

“ข่าวสด” 13 พฤษภาคม 2535 หน้า 21 หัวข้อ “สุ” ออกทีวีขอบคุณ

19.30 น. โทรทัศน์ทุกสถานี เผยแพร่คำปราศรัยของ พล.อ.สุจินดา มีสาระสำคัญว่า

ขณะนี้มี ส.ส. ได้เสนอญัตติแก้ไข รธน. ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล กระผมรับทราบความริเริ่มนี้ด้วยความยินดี และหวังว่า การชุมนุมของพี่น้องประชาชน ที่ดำเนินติดต่อมาหลายวัน และได้ยุติลงด้วยความเรียบร้อย น่าจะได้ยุติลงอย่างสิ้นเชิง เพื่อให้กลับคืนสู่ภาวะปกติเรียบร้อย

…ส่วนตัวได้เคยยืนยันหลายครั้งว่า มิได้ปรารถนาตำแหน่งทางการเมืองใดๆ…ความริเริ่มของ ส.ส. ที่จะแก้ไข รธน. กระผมมีแต่ความยินดี แม้ว่าจะทำให้ต้องพ้นจากตำแหน่งก็ตาม…

…ขอขอบคุณประชาชน ที่ใช้วิจารณญาณตั้งอยู่ในความสงบ ไม่ออกมาก่อความเดือดร้อน แสดงว่าประชาชนทั้งหลายไม่นิยมให้กฎหมู่อยู่เหนือกฎหมาย และความชอบธรรม สำหรับผู้ที่เข้าร่วมชุมนุม หรือเข้าสมทบเพราะความอยากรู้ อยากเห็น แต่เมื่อเข้าใจในสิ่งที่ถูกที่ควร และกลับไปสู่ความสงบ ก็ขอได้รับความขอบคุณจากรัฐบาลเช่นกัน

“มติชนสุดสัปดาห์” 8 พฤษภาคม 2535 ฉบับที่ 611 หน้า 12

…ฟังให้ดีนะครับ นี่คือคำประกาศ ผมจะอดอาหารจนกว่า พล.อ.สุจินดา จะลาออก หรือผมตายไป…การคัดค้านของผมนั้น ผมไม่ได้หวังอำนาจ หากการคัดค้านครั้งนี้ ทำให้ผมมีโอกาสเป็นรัฐมนตรี เป็นรองนายกฯ หรือเป็นนายกรัฐมนตรี ผมจะไม่ยอมรับตำแหน่งใดๆ ทั้งสิ้น ผมจะไม่ยอมเสียสัตย์เป็นอันขาด เราสู้ไม่ได้หวังอำนาจ เราสู้เพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง (ปรบมือ)

ประกาศต่อหน้าสาธารณชน วันที่ 4 พฤษภาคม 2535

“มติชน” 17 พฤษภาคม 2535 หน้า 22 หัวข้อ “ยันไม่เป็นนายกฯ แน่นอน”

ผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันได้หรือไม่ ว่า ถ้าได้รับชัยชนะแล้ว ประชาชนให้เป็นนายกฯ จะไม่เป็น พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ตนยืนยัน ณ จุดนี้ ว่าการต่อสู้ถ้าแม้เป็นผลสำเร็จ และทำให้ตนมีโอกาสที่จะเป็นรัฐมนตรี รองนายกฯ หรือนายกฯ จะไม่เป็น การต่อสู้ครั้งนี้ ไม่ใช่ต่อสู้เพื่อเป็นใหญ่เป็นโต หัวหน้าพรรคพลังธรรมก็ลาออกแล้ว ขอยืนยันว่า การลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค ไม่ใช่เล่นละคร ลาออกแล้วก็ลาออกเลย เป็นเพียงสมาชิกพรรคพลังธรรม

“ข่าวสด” 2 มิถุนายน 2538 หน้า 26

นายบุญชู โรจนเสถียร ร่ายยาวถึง “ชีวิต” ช่วงที่อยู่ในพรรคพลังธรรม ว่าตั้งแต่ย่างเท้าเข้าไปเมื่อกันยายน 2535 จนถึงวันที่ระเห็จออกมา ว่าเต็มไปด้วยความขมขื่น ขมขื่นตลอดเวลา ที่อยู่กับระบบการเมืองแบบลมเพลมพัด

พล.ต.จำลอง บอกว่า พรรคพลังธรรมไม่ได้เกี่ยวข้องกับสำนักสันติอโศก ผมมั่นใจในวาจาของ พล.ต.จำลอง ว่าคงไม่โกหกมดเท็จ ครั้นเมื่อ พล.ต.จำลอง กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคตามเดิม หลังจากบีบให้ผมพ้นทางไปแล้ว ได้ประกาศอย่างเปิดเผยว่า ต่อไปจะร่วมมือกับเจ้าสำนักสันติอโศก ทำงานทั้งการเมืองและศาสนาควบคู่กันไป

คำประกาศของ พล.ต.จำลอง ทำให้ประชาชนชาวพุทธ รวมทั้งผมด้วย หูตาสว่าง ว่าที่ผ่านมา พล.ต.จำลอง เพียงแสดงละครตบตาประชาชน ฉากหนึ่งเท่านั้น

พล.ต.จำลอง เคยยืนยันว่า การลาออกจากหัวหน้าพรรค ไม่ใช่เล่นละคร ลาออกแล้วก็ลาออกเลย แล้วก็ “ผิดคำพูด” (มือเก่า)

“เดลิมิเรอร์” 17 สิงหาคม 2535 “กระจกเงาบานใหญ่”

…แพลมออกมาให้เห็นแล้วไหมล่ะ ที่อวดอ้างสรรพคุณมาเสมอ ว่าไม่ต้องการตำแหน่งใดๆ บัดนี้ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ลืมคำพูดตัวเองไปแล้ว…

ถ้าพลาดนายกฯ ก็ขอเป็นรัฐมนตรีว่าการมหาดไทย เอาไว้คุมผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ แต่ถ้าเก้าอี้มหาดไทยไม่ว่าง ก็ขอเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ก็ยังได้ นี่แหละครับ คนไม่กระสันเป็นใหญ่

ไม่น่าเป็นไปได้

กล่าวหา กล่าวโทษ พล.อ.สุจินดา อยู่หยกๆ ว่าไม่รักษาวาจาสัตย์ ปลุกระดมต่อต้านจนบ้านเมืองพังทลาย แล้วท่านก็มาเป็นเสียเอง ประกาศจะไม่รับตำแหน่งนายกฯ หรือรองนายกฯ หรือรัฐมนตรี แล้วท่านก็ขึ้นดำรงตำแหน่งรองนายกฯ ในสมัยรัฐบาลชวน ตุลาคม 2535

ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ (มือเก่า)