บทความพิเศษ : ความจริงที่หายไปในพฤษภา’35 (ตอน14)

ตอน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13
โดย “มือเก่า”

“ข่าวไท” ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 25 พฤษภาคม 2535 หน้า 25

สถานการณ์พอสรุปได้ว่า (เช้าวันที่ 18 พฤษภาคม 2535)

1. สถานการณ์ค่อยเบาบางลงแล้ว ตั้งแต่เวลาประมาณ 4 โมงเช้า มีการยื่นอาหาร น้ำ จากประชาชนที่ประจันหน้ากับตำรวจ และมีการคืนกระบอง โล่ และข้าวของซึ่งเป็นของตำรวจ ซึ่งประชาชนได้มาจากเหตุการณ์ชุลมุน เมื่อตอนกลางคืนให้กับตำรวจด้วย

2. มีทหารจากกองทัพภาคที่ 1 มาเจรจา ว่าทหารจะไม่เข้าเคลียร์ แต่จะดูแลไว้เท่านั้น สำหรับประชาชนที่อยู่ในวงล้อมประมาณ 15,000 คน ถึง 20,000 คนนั้น ถ้าหากประสงค์จะออกจากพื้นที่ ก็ไม่ต้องทำอะไร เพียงแต่ชู 2 มือขึ้นมา แล้วเดินออกมาเท่านั้น ก็จะมีการเปิดทางให้

พาย้ายออกจากสนามหลวง ก็ไม่สมควรอยู่แล้ว ยังย้ายในเวลากลางคืนอีกด้วย ยิ่งผู้ชุมนุมมากมาย อันตรายก็ยิ่งเกิด เพราะดูแลไม่ทั่วถึง มิหนำซ้ำประกาศว่าจะไปทำเนียบ ซึ่งต้องฝ่าด่านที่ผ่านฟ้า แล้วก็เกิดเรื่องจริงๆ พอเช้า สว่าง เหตุการณ์ก็สงบ แสดงว่า ถ้าเคลื่อนขบวนเวลาเช้า อาจไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น (มือเก่า)

“ข่าวพิเศษ” 24-30 กรกฎาคม 2535 หน้า 31

สัมภาษณ์ คุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์ ส.ส.ปชป.

…ถ้าถามว่า ทำไมเราไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อน ก็เพราะเรารู้แน่ว่า ต้องมีการตายเกิดขึ้น ถ้าเคลื่อนไปราชดำเนิน มันก่อให้เกิดการปราบปรามขึ้น…หนังสือพิมพ์เขาไม่รู้จะช่วยได้อย่างไร เพราะว่ามันเป็นกลางคืน ถ้าเป็นกลางวัน น.ส.พ. ต้องด่าแล้ว ว่าคุณปิดกั้นเอง คนเขาจะไปยื่นหนังสือ

แสดงว่า มีผู้คัดค้านการย้ายออกจากสนามหลวงในเวลากลางคืน เช่น ดร.เกษียร เตชะพีระ และพรรคประชาธิปัตย์ แต่ประชาชนก็ถูกพาออกมาเสี่ยงอันตรายจนได้ (มือเก่า)

“ไทยรัฐ” 16 สิงหาคม 2535

หัวข้อ ถาม “จำลอง” รู้ว่าทหารจะยิงทำไมไม่บอก

…ในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ มีประชาชนมากมายถามว่า พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ผู้นำการชุมนุม รู้หรือไม่ว่า ทหารจะปราบปรามประชาชนอย่างเด็ดขาด ด้วยการยิง เรื่องนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เคยถาม พล.ต.จำลอง ว่าทหารจะปราบปรามประชาชนหรือไม่ ซึ่ง พล.ต.จำลอง ตอบว่า หากจะปราบต้องประกาศภาวะฉุกเฉินก่อน

ดังนั้น เมื่อทหารประกาศภาวะฉุกเฉิน เมื่อเที่ยงคืนครึ่ง วันที่ 17 พฤษภาคม ก็แสดงว่า พล.ต.จำลอง ก็ทราบดีว่า ทหารจะใช้กำลังปราบประชาชนแน่ คุณหญิงแอ๋ว แฉ

ทั้งๆ ที่รู้ดีว่า ทหารประกาศภาวะฉุกเฉินแล้วมีสิทธิ์ปราบปรามขั้นเด็ดขาดได้ เช้าวันที่ 18 ทหารมาเจรจาขอให้ย้ายกลับสนามหลวง ถ้าท่านไม่อยากให้ประชาชนเสี่ยงอันตราย เพื่อชัยชนะของท่าน ท่านก็น่าจะปล่อยประชาชนกลับบ้าน หรือยอมย้ายกลับไปสนามหลวง (มือเก่า)

“ข่าวพิเศษ” 5-11 มิถุนายน 2535 หน้า 26

บันทึกคำให้การของ พ.ท.ไพบูลย์ คุ้มฉายา

สำหรับกลุ่มชนที่ชุมนุมกันอยู่ ผมก็ทราบว่ามีมาตั้งแต่กลางวันแล้วที่สนามหลวง แต่ตามเงื่อนไข เขาจะอยู่ที่สนามหลวง ซึ่งผู้บังคับบัญชาก็บอกแล้ว ว่าไม่ต้องไปยุ่งกับเขา ทุกคนก็ตกใจเหมือนกัน ว่าทำไมไม่เป็นไปตามที่เขาขอไว้ ว่าจะชุมนุมอย่างสันติที่สนามหลวง แล้วทำไมถึงเคลื่อนเข้ามา ซึ่งล่อแหลมมาก

พล.ต.จำลอง ก็เคยประกาศไว้ ว่าจะไม่มีการนำขบวนผู้ประท้วงออกจากสนามหลวงอย่างเด็ดขาด แล้วก็ผิดคำพูด แปลว่า เสียสัตย์ ใช่ไหมเอ่ย (มือเก่า)

จนกระทั่งตี 4 ผมได้รับคำสั่งให้เคลื่อนไป…พอโผล่เข้าไปเท่านั้น โอ้โห รถมอเตอร์ไซค์เต็มไปหมด ผมก็ตกใจเหมือนกัน…ขณะที่ตรึงกัน ก็คิดว่าเอายังไง ในที่สุดก็สั่งให้ยิงขึ้นฟ้า คนจะได้ตกใจ ประมาณ 20-30 คนยิง จากนั้นก็เข้าไปยึดพื้นที่เลย…ถ้าตั้งใจยิงกันแล้ว ผมว่าตำรวจต้องโดนด้วย เพราะตรึงอยู่แถวหน้ากับกลุ่มชนนั่นแหละ

…มีการส่งตัวแทนไปเจรจา…ตัวแทนกลับมา ผมฟังจากที่เล่ามาว่า เราถามว่าทำไมต้องเคลื่อนมาที่นี่ ถ้าอยู่ที่สนามหลวงเราจะไม่ยุ่งเลย ขนาดที่รัฐสภาเราก็ไม่ได้ยุ่ง ที่เข้ามาเผาอะไรกันให้วุ่นวายไปหมด…เราขอร้องเขาว่า ถ้าเขาย้ายคนกลับไปสนามหลวง เราจะถอนกลับหมด เขาบอกว่าเขาตัดสินใจอะไรไม่ได้ ต้องไปปรึกษาสมาพันธ์ประชาธิปไตยก่อน หายไปได้ 2 ช.ม. ปรากฏว่า ได้ยินประกาศว่า เราจะอยู่ที่นี่ เราจะไม่ไปไหน เหตุการณ์มันกำลังจะดีแล้ว ประชาชนก็มีการส่งน้ำ ส่งดอกไม้กัน เพราะเงื่อนไขที่เราขอ ขอให้ไปที่สนามหลวงเท่านั้น คราวนี้เหตุการณ์เริ่มเครียดอีกแล้ว มีการปลุกเร้าว่าเราไม่ถอย เราจะอยู่ที่นี่ เราจะสู้กันตรงนี้

ยังไม่บรรลุจุดประสงค์ ถอยได้อย่างไร (มือเก่า)

“ไทยรัฐ” 19 พฤษภาคม 2535 หัวข้อ ฟ้าสางเปิดเจรจา

จนกระทั่งเวลา 06.00 น. เศษ พ.อ.ฐิติพงษ์ เจนนุวัฒน์ ผบ.พล 1 พร้อมด้วยตัวแทนฝ่ายทหารอีกนายหนึ่ง ได้ร้องขอเจรจากับตัวแทนแกนนำม็อบ โดยมี นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ได้เป็นผู้เดินเข้าไปหา พูดคุยกันครู่ใหญ่ จากนั้น นายไชยวัฒน์ได้กลับเข้าไปปรึกษากับแกนนำสมาพันธ์ประชาธิปไตย ขณะนั้น พล.ต.จำลอง ได้หายหน้าไป ไม่อยู่บริเวณนั้น แต่หลังจากการปรึกษาหารือกันเป็นเวลานาน ก็ไม่อาจหาข้อยุติได้ จนกระทั่งเวลา 06.30 น. พล.ต.จำลอง ก็ได้โผล่ตัวออกมา พร้อมกับเข้าไปพูดคุยกับแกนนำม็อบ ด้วยบรรยากาศที่เคร่งเครียด

“ดอกเบี้ย” ฉบับประชาธิปไตยเลือด หน้า 69-70

06.21 น. ฝ่ายทหารขอให้ไปชุมนุมที่ท้องสนามหลวง กรรมการสมาพันธ์ฯ กำลังไปเจรจากับ พล.ต.จำลอง อยู่

06.39 น. พล.ต.จำลอง พูดโทรโข่งให้ประชาชนอยู่ชุมนุมถึง 9 โมงเช้า

แสดงว่า การตัดสินใจ อยู่ที่ใคร ฉะนั้น อย่าอ้างสมาพันธ์ฯ (มือเก่า)

“ข่าวสด” 19 พฤษภาคม 2535 หน้า 3

06.30 น. พล.ต.จำลอง พูดทางเครื่องขยายเสียงกับประชาชนที่มาร่วมชุมนุมว่า ขอให้ชุมนุมกันอยู่ อย่าหนีไปไหน จะชนะอยู่แล้ว อดทนกันมาได้ตลอดทั้งคืน เหลือแค่ 3 ช.ม. ก็ชนะอยู่แล้ว…

พล.ต.จำลอง ได้เดินมาหยุดที่บริเวณหน้าโรงแรมมาเจสติค นั่งลงพูดโทรศัพท์มือถือ จากนั้นได้พูดทางเครื่องขยายเสียงว่า หนังสือพิมพ์ ทีวี เดี๋ยวนี้ลงข่าวบิดเบือนกันหมดแล้ว หาว่าประชาชนของ พล.ต.จำลอง เผารถตำรวจ เผาสถานที่ราชการ ทั้งๆ ที่พวกเขาเหล่านั้นก็เป็นยุวชนตำรวจ ที่ทางตำรวจเตรียมมานั่นเอง เพื่อใช้สร้างสถานการณ์ขึ้น ตนได้ห้ามแล้ว แต่ห้ามไม่ได้ เพราะคนของเขาเผารถของพวกเขาเอง

เหลือแค่ 3 ช.ม. ก็ชนะอยู่แล้ว

ท่านหลอกประชาชนหรือเปล่า

สื่อต่างๆ จะบิดเบือนได้อย่างไร เพราะรายงานตรงกันหมด ว่าผู้ชุมนุมมี “กองหน้า” ไว้ก่อเหตุ (มือเก่า)

“ผู้จัดการ” ฉบับ พฤษภาทมิฬ หน้า 71

เวลา 06.51 น. พล.ต.จำลอง ได้โทรศัพท์ถึงบุตรสาวสมุหนายก เพื่อชี้แจงให้ทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น…เหตการณ์ทั้งหมด เป็นการสร้างสถานการณ์ของคนกลุ่มหนึ่ง ที่กองกำลังทหาร-ตำรวจ เปิดสิ่งกีดขวางให้ทะลัก ข้ามสะพานผ่านฟ้าเข้าไป โดยคนกลุ่มนี้ เชื่อว่า เป็นกลุ่มที่มีการจัดตั้ง ให้มาแทรกซึมในกลุ่มผู้ประท้วง เมื่อผ่านสะพานไปได้ คนกลุ่มนี้ได้เผาทำลายทรัพย์สินในบริเวณถนนราชดำเนินนอก-ใน ถนนผ่านฟ้า เพื่อสร้างความชอบธรรมในการเข้ากวาดล้างกลุ่มผู้ชุมนุม

เวลา 07.40 น. …พล.ต.จำลอง ได้ขึ้นชี้แจงกับผู้ชุมนุม ที่ยังเหลืออยู่นับหมื่นคน ว่าขณะนี้ ผู้ใหญ่ในประเทศอยู่ระหว่างการเจรจา เพื่อแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

ทางการไม่จำเป็นต้องสร้างสถานการณ์ เพื่อหาเหตุปราบปราม เพราะจนเย็นวันที่ 18 ก็ยังไม่มีการปราบปราม (มือเก่า)

“ร่วมกันสู้” หน้า 164

“ป๋าครับ มีมือที่สามมาก่อความวุ่นวาย ประชาชนชุมนุมอย่างสันติ ตั้งแต่กลางคืนจนถึงเช้ามืด ทหารยิงเข้าใส่ประชาชนถึง 4 ครั้ง สุดแท้แต่ป๋าจะกรุณา ไม่อย่างนั้นวันนี้คงใช้กำลังบุกเราแน่ เพราะเขาล้อมทุกด้านหมดแล้ว” ผมรายงานสถานการณ์ย่อๆ พร้อมกับขอให้ท่านช่วยประชาชน

“ตอนนี้มีคนอยู่เท่าไหร่” ท่านถาม

“ประมาณ 7 หมื่นครับ เมื่อคืนนี้ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมียังไม่ทันจบ ทหารก็ยิงกราดเข้าใส่ประชาชน คงมีผู้เสียชีวิต แต่ผมไม่ทราบจำนวน ที่ผมเห็นด้วยตาตนเองนั้นบาดเจ็บ 4 คนครับ ป๋าครับ ป๋าช่วยดำเนินการสุดแท้แต่ป๋าจะเห็นสมควรครับ”

ดูเหมือนจะมีผู้ให้ฉายาท่านว่า “จอมสร้างภาพ” (มือเก่า)

“มติชน” 19 พฤษภาคม 2535 หน้า 2

06.50 น. พล.ต.จำลอง ได้พูดโทรศัพท์มือถือ แล้วประกาศผ่านโทรโข่งว่า ได้พูดคุยกับบุตรสาวของ พล.อ.ดำรง สิกขมณฑล สมุหราชองครักษ์ ตนได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องของมือที่ 3 บางคน ที่รัฐบาลเป็นผู้จ้างมา … ทหารเลวๆ ชั่วๆ มาปราบประชาชน ทั้งที่เราไม่มีแม้แต่ไม้ มีแต่ตัว พวกเขามีหน้ากาก มีปืน

หัวข้อ จำลองโทรศัพท์คุยกับ พล.อ.เปรม

พล.ต.จำลอง กล่าวผ่านโทรโข่งว่า ได้โทรศัพท์คุยกับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ องคมนตรี เพื่อเรียนให้ท่านทราบว่า ประชาชนกำลังตกอยู่ในวงล้อมของทหาร และขอร้องให้ผู้ชุมนุมโทรศัพท์ติดต่อคนให้มาชุมนุมกันให้มาก

ทหารเลวๆ ชั่วๆ แต่ท่านก็เป็นทหาร! และเป็นถึงท่านนายพล ทำไมท่านจึงยังชักชวนประชาชนให้ทำผิดกฎหมาย ในเมื่อทางการประกาศภาวะฉุกเฉินแล้ว และยังประกาศห้ามชุมนุมเกิน 10 คนอีกด้วย (มือเก่า)