เบื้องลึกที่มาของ “โจ๊กหวานเจี๊ยบ” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ขึ้นสู่ยศ พล.ต.ท.ตั้งแต่อายุ 48

กลับมาสู่กระแสความสนใจของสังคมอีกครั้ง สำหรับอดีตนายตำรวจคนดังที่รู้จักกันดีในนามของ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล

หลังเมื่อเวลา 12.50 น. วันที่ 9 มี.ค.64 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีมีข่าวว่านายกฯ ลงนามในคำสั่งโอนย้ายพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กลับเข้ารับราชการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ว่า

ไม่ใช่การลงนาม แต่เป็นเรื่องของการทำงานที่โยกมา เมื่อสอบแล้วยังไม่ได้ข้อยุติก็ส่งกลับไป และไปสอบต่อที่นั่น

ผู้สื่อข่าวถามว่าพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เคยฟ้องนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็เรื่องของเขา ทางกฎหมายว่าอย่างไร ไม่เกี่ยวกัน เมื่อถามว่าแสดงว่าเรื่องในสตช.เรียบร้อยดีใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า จะมีปัญหาอะไรล่ะ ไม่มีปัญหา

ก่อนหน้านี้ บิ๊กโจ๊ก เป็นที่รู้จัก และเป็นดาวรุ่งพุ่งพรวดในชีวิตข้าราชการตำรวจใช้เวลาเพียง 5 ปีก็กระโดดจากยศ พ.ต.อ.ขึ้นเป็น พล.ต.ท.

เป็นผู้บัญชาการด้วยอายุเพียง 48 ปีเท่านั้น

แต่แล้วก็เกิดเหตุไม่คาดฝัน ถูกโยกย้ายพ้นสีกากี ไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกฯ

เก็บตัวเงียบมาตลอด จนเป็นข่าวครึกโครมเมื่อรถเลกซัสหรูถูกคนร้ายขี่จักรยานยนต์รัวยิง 8 นัด หน้าร้านนวดเจ้าประจำแถวบางรัก

ออกมาระบุทันทีว่าเป็นเพราะต้องการข่มขู่จากการเปิดโปงปัญหาจัดซื้อจัดจ้าง พร้อมใช้คำว่า “วงในเขารู้ว่าใครทำ”

พร้อมโยนความรับผิดชอบให้ ผบ.ตร.ณ ขณะนั้น (พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา) หากไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้

โดยยืนยันถูกจ้องทำร้ายจริง ไม่ใช่สร้างเรื่องเองแต่อย่างใด

ซึ่งเหตุดังกล่าวเมื่อช่วงเกือบ 4 ทุ่มของวันที่ 6 มกราคม 2563 โดยพนักงานสอบสวน สน.บางรัก รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้ปืนยิงใส่รถที่จอดอยู่ตรงลานจอดรถของบริษัท สุรวงศ์ สาริกา จำกัด เลขที่ 37 ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กทม.เมื่อไปตรวจสอบพบรถยนต์ยี่ห้อเลกซัส รุ่นอาร์เอ็กซ์ 270 สีขาว ทะเบียน 9 กจ 351 กทม. มีรอยกระสุนปืนที่บริเวณประตูหน้าด้านซ้าย 1 นัด และประตูหลังด้านซ้าย 7 นัด รวม 8 นัด และตรวจสอบทราบว่ารถคันดังกล่าวเป็นของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีต ผบช.สตม.

สอบสวน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ให้การว่า รถเป็นของภรรยา โดยก่อนเกิดเหตุขับรถมากินข้าวและแวะทำธุระ โดยจอดรถไว้ที่ลานจอดรถ กระทั่งเวลากลับก็เห็นว่ารถมีร่องรอยถูกยิงจึงแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ ดูจากวิถีร่องรอยกระสุน เชื่อว่าประสงค์ต่อชีวิต พร้อมจี้ให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวคนร้ายมาให้ได้โดยเร็ว เพราะลงมือใจกลางเมืองที่มีคนพลุกพล่าน เป็นการกระทำอุกอาจ

เปิดประวัติอดีต ตร.คนดัง

สําหรับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยก่อนหน้านี้ถือเป็นนายตำรวจคนดัง เป็นที่รู้จักในสังคมอย่างกว้างขวาง ด้วยผลงานแถลงข่าวจับกุมคดีสำคัญทั่วประเทศ

โดย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เกิดเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2513 ที่ จ.สงขลาเรียนมัธยมที่โรงเรียนมหาวชิราวุธ จ.สงขลา  เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 31 โรงเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 47 เป็นประธาน นรต.47

มีชื่อเสียงโด่งดังสมัยเป็น ผกก.สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ในสมัยที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เป็น ผบช.ภาค 9 เมื่อปี 2551 ก่อนขึ้นเป็นรอง ผบก. และขึ้นเป็นรอง ผบก.ภ.จว.สงขลา และยังเป็นผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธร จ.สงขลา ส่วนหน้า ดูแลพื้นที่ อ.จะนะ นาทวี สะบ้าย้อย และเทพา จ.สงขลา 4 อำเภอ พื้นที่ไฟใต้ จนได้รับนับอายุราชการทวีคูณ

ต่อมาวันที่ 23 กรกฎาคม 2558 ดำรงตำแหน่ง ผบก.ประจำสำนักงาน ผบ.ตร. ทำหน้าที่ประสานนายกรัฐมนตรี ในสมัยที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เป็น ผบ.ตร. ปีเดียวกันขึ้นเป็น ผบก.ท่องเที่ยว

ปี 2559 ย้ายมาเป็น ผบก.สปพ. ถัดมาเพียงปีเดียวได้รับแต่งตั้งเป็นรอง ผบช.น. ก่อนโยกมาเป็นรอง ผบช.ท่องเที่ยว แล้วขึ้นเป็น ผบช.สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ถือเป็นผู้บัญชาการที่อายุน้อยที่สุดในวงการสีกากี คือ 48 ปี

นอกจากนี้ยังเคยเป็นคณะทำงานศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ มีอำนาจจับกุมทั่วประเทศ ซึ่งช่วงนี้คดีที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์แถลงจับกุมถือว่ามากเป็นประวัติการณ์

ในแวดวงการเมือง ยังเคยป็นผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนั้นคือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

ทำงานใกล้ชิดกันอย่างยิ่ง

แต่อนาคตที่กำลังสุกใสกาววาว ก็มีคำสั่งฟ้าผ่าเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2562 ให้ไปปฏิบัติราชการที่ ศปก.ตร. โดยขาดจากตำแหน่งเดิม ก่อนไปเป็นที่ปรึกษาพิเศษสำนักนายกฯ

 

สำหรับที่มาของ นามเรียกขาน บิ๊กโจ๊ก หรือ โจ๊ก หวานเจี๊ยบ เกิดขึ้นตั้งแต่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พี่ใหญ่แห่ง คสช. รับบทบาททางการเมือง “เดอะโจ๊ก” คือเงาตามตัว เป็นนายตำรวจข้างกาย เห็น พล.อ.ประวิตรที่ไหน เจอ “โจ๊ก” ที่นั่น

โปรไฟล์ส่วนตัว พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ชื่อเล่น “โจ๊ก” แต่ในวงการตำรวจเรียกแบบบุคคลที่ 3 ว่า “โจ๊กหวานเจี๊ยบ”

ด้วยบุคลิก ลีลาการพูด ปฏิสัมพันธ์กับผู้ใหญ่-ผู้น้อยในลักษณะสไตล์เฉพาะตัว เป็นที่มาของฉายา

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“บิ๊กโจ๊ก” ใช้จ่าย “หลักล้าน/เดือน” เงินมีที่มา “งบลับ” คืออะไร? ใช้ในกรณีอะไรบ้าง?
เช็กโปรไฟล์-เส้นทางเติบโต “บิ๊กโจ๊ก” ผู้ใกล้ชิด “บิ๊กป้อม” และ อดีตที่เคยผูกพัน”บ้านดามาพงศ์”
สื่อสาวจีนหอกข้างแคร่ ‘บิ๊กโจ๊ก’ อ้างชื่อไถ 33 ล้าน แก๊งอุ้มบุญจีนเทา
ย้อนประวัติ-เส้นทาง “บิ๊กโจ๊ก” ก่อนเงียบหาย แล้วกลับกลายมาเป็นข่าวใหญ่อีกหน
ปฏิรูปตำรวจไปไม่ถึงฝั่ง แก้วิ่งเต้นซื้อเก้าอี้ล้มเหลว คสช.รัฐประหารเสียของ?
อาณาจักรโล่เงินยุค ‘บิ๊กเด่น’ วิกฤตขาด ‘นักสืบพันธุ์แท้’ เชื่อ ‘บิ๊กโจ๊ก’ คุมหน้างานอยู่
บิ๊กตู่ ลุ้น! จัดโผ 154 นายพลสีกากี 6 ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิคุมเกมแต่งตั้งโยกย้าย