4 นัดแรกในลาลีก้าของ ‘จู๊ด’ ทำเอาลืม ‘เบนเซม่า’ ไปเลย

จู๊ด เบลลิ่งแฮม เป็นนักเตะที่เติบโตและพิสูจน์ตัวเองได้เร็วมากในโลกฟุตบอล เพราะใน 3 ปีที่ผ่านมา จากทีมในลีกรองของอังกฤษ ตอนนี้ได้กลายเป็นความหวังสูงสุดของรีล มาดริด ทีมยักษ์ใหญ่แห่งยุโรปไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แดนกลางวัย 20 ปี เพิ่งย้ายจากดอร์ตมุนด์ไปอยู่กับรีล มาดริด เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา ถึงแม้จะรู้ดีว่าเด็กคนนี้มีพรสวรรค์สูงขนาดไหน แต่การเป็นมิดฟิลด์ก็ย่อมต้องคาดหวังจากสิ่งที่กองกลางจะให้กับทีมได้ ซึ่งเบลลิ่งแฮมสร้างความประหลาดใจด้วยการทำได้มากกว่านั้น

รีล มาดริดคว้าชัยชนะในลาลีก้า สเปน 4 เกมรวด และกองกลางอังกฤษยิงไปแล้ว 5 ประตู จาก 4 นัดแรกที่ลงสนาม และ 2 เกมหลังสุด ประตูที่เขายิงได้เป็นประตูชัยให้กับทีมได้ด้วย 8 ประตูที่ทีมราชันชุดขาวยิงได้ใน 5 นัดแรก เกินครึ่งมาจากเบลลิ่งแฮม และเป็นนักเตะคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์สโมสร ที่ยิง 4 เกมแรกของฤดูกาลติดต่อกันได้ ต่อจาก เปปิโย่ เมื่อปี 1960 และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เมื่อปี 2009

ผลงานในสนามทำให้เบลลิ่งแฮมได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนของลาลีก้า นับเป็นการแกรนด์ โอเพนนิ่ง ที่อลังการทีเดียว

 

ทีมราชันชุดขาวไม่สามารถหากองหน้าระดับเวิลด์คลาสมาทดแทน คาเรม เบนเซม่า ที่เลือกย้ายไปเล่นในซาอุดี โปรลีกได้ คีเลียง เอ็มบัปเป้ ที่ถูกคาดหมายว่าจะมาทำหน้าที่แทน ก็ยังคงอยู่กับปารีส แซงต์แชร์แมง ถึงแม้ว่าจะมี โฆเซลู และ บราฮิม ดิอาซ ที่เสริมเข้ามา แต่ชื่อชั้นก็ไม่ถึงระดับที่มาดริดติสต้าจะหวังสูงได้ วินิซิอุส จูเนียร์ และ โรดริโก้ สองดาวยิงบราซิเลียนที่อยู่มาก่อนแล้ว ก็ต้องทำหน้าที่ผลิตสกอร์ให้ได้มากกว่าเดิม

คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือรีล มาดริด ไม่ได้มองว่าหน้าที่ยิงประตูเป็นของกองหน้าเท่านั้น เพราะเขามองว่าเบลลิ่งแฮมก็มีดีในเกมรุก และจมูกไวในการจบสกอร์ จึงให้อิสระในการเล่น เคลื่อนที่ได้ตลอดแผงกลาง และพาบอลเข้าไปลุ้นประตูในกรอบเขตโทษ ซึ่งได้ผลอย่างมาก

จากการที่แผงมิดฟิลด์ของรีล มาดริด มีทั้ง ลูก้า โมดริช, โทนี่ โครส, เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้, ออเรเลียง ชูอาเมี่, เอดูอาร์โด้ คามาแว็งก้า ที่เป็นกองกลางชั้นยอดทั้งสิ้น เบลลิ่งแฮมจึงไม่ต้องกังวลกับการยืนสูงนัก เพราะมีพี่ๆ เพื่อนๆ คอยเก็บกวาดให้อยู่แล้ว จึงขยับขึ้นสูงได้อยู่ตลอด

สถิติในเกมล่าสุดที่ชนะเคตาเฟ่ เบลลิ่งแฮมจับบอล 58 ครั้ง และ 49 ครั้งอยู่ในแดนของคู่แข่ง

หลังจากนี้เบลลิ่งแฮมคงยังต้องทำหน้าที่เดิมของตัวเองตามที่อันเช่วางแผนเอาไว้ แต่คงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะคู่แข่งต้องระมัดระวังกับเรื่องนี้มากขึ้น ดังนั้น การคาดหวังว่าเบลลิ่งแฮมจะยิงประตูถล่มทลายแบบที่โรนัลโด้เคยทำไว้ คงเป็นเรื่องยากมาก แต่ก็ย่อมคาดหวังได้มากกว่าการอยู่กับทีมเล็กกว่านี้ เพราะรีล มาดริด มีขุมกำลังที่พร้อมปั้น พร้อมป้อนให้เขาทำผลงานได้อลังการไปเรื่อยๆ

น่าคิดว่าหลังจบฤดูกาลนี้ อันเชล็อตติจะลาทีมไปคุมทีมชาติบราซิล การเปลี่ยนแปลงกุนซือจะทำให้เบลลิ่งแฮมเป็นอย่างไร หรือเขาอาจจะลดความกดดันลง เพราะในวันนั้นเอ็มบัปเป้ก็น่าจะมาทำหน้าที่ผลิตสกอร์ให้ทีมแล้ว

แต่กว่าจะถึงวันนั้น มารอนับประตูที่เบลลิ่งแฮมจะยิงทั้งหมดในฤดูกาลนี้ก่อนดีกว่า อาจจะทำให้แฟนบอลเอ่ยปากว่า ไม่มีเบนเซม่า ไม่ใช่ปัญหาเลยสักนิด •

 

Technical Time-Out | จริงตนาการ

[email protected]