แม้วส่งสัญญาณชัด ‘รีฟอร์ม’ ไม่ใช่อนุรักษนิยมใหม่ ส่งต่อดีเอ็นเอให้ ‘ลูกสาว’ ‘เศรษฐา-อิ๊ง’ นำทัพเพื่อไทยทวงคืน No.1

เวทีประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 ของพรรคเพื่อไทย (พท.) เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา แกนนำพรรคคนสำคัญตบเท้าเข้าร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง นำโดย ‘อุ๊งอิ๊ง’ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค

ขณะที่ ‘นายเศรษฐา ทวีสิน’ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ขอลาราชการครึ่งวันเพื่อมาร่วมประชุมในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทย (พท.)

เช่นเดียวกับรัฐมนตรีสัดส่วนพรรคเพื่อไทย ส.ส., แกนนำ, สมาชิกพรรค และตัวแทนพรรคประจำจังหวัด เดินทางเข้ามาร่วมประชุมที่พรรคเพื่อไทยกันอย่างคับคั่ง

ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักและอบอุ่น

โดยการประชุมเริ่มด้วยการฉายวีดิทัศน์ปลุกใจสมาชิก เนื้อหาเล่าถึงจุดเริ่มต้นของพรรคเพื่อไทย (พท.) รวมทั้งบอกเล่าวิสัยทัศน์ การทำงาน ฉายให้เห็นผลงาน ความศรัทธาของประชาชน ความสำเร็จของนโยบายของพรรคเพื่อไทย (พท.) ที่ต่อยอดมาจากพรรคไทยรักไทย (ทรท.) ผ่านการสัมภาษณ์นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย

เรียกได้ว่าเป็นการสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับผู้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้เลยก็ว่าได้

 

เนื้อหาบางส่วนในคลิป ช่วงหนึ่งนายทักษิณ ชินวัตร ระบุว่า พรรคเพื่อไทยถูกกล่าวหาว่าเป็นพรรคอนุรักษนิยมใหม่ บอกได้เลยว่าไม่ได้อยู่ในดีเอ็นเอของพรรคเพื่อไทยหรือไทยรักไทย

แต่พรรคเพื่อไทยจริงๆ สร้างมาจากไทยรักไทย เป็นพรรคที่รีฟอร์มหรือเป็นพรรคผู้นำในการเปลี่ยนแปลง ระบบทุนนิยมที่ไร้ความเมตตาธรรม จะไม่สามารถทำให้ประชาชนมีความสุขได้ ต้องเข้าใจว่าสังคมเปลี่ยนไปแล้ว

นายทักษิณย้ำด้วยว่า การเข้าถึงประชาชนเป็นหัวใจสำคัญทั้งทางกายภาพหรือทางสื่อ ฉะนั้น อยากให้ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยเข้าถึงประชาชน การทำงานในสภาให้เข้มแข็ง และหัวใจคือต้องเป็นนักการเมืองที่รักประชาชน

ขณะที่ตอนหนึ่ง นายทักษิณกล่าวถึงความมั่นใจว่านายเศรษฐาสามารถนำพาประเทศได้ เพราะเป็นนักบริหาร มีประสบการณ์มาก นายเศรษฐาเหมาะที่จะลงไปในช่วงที่เปลี่ยนผ่านระหว่างการเมืองที่มีหลายพรรค

อีกหนึ่งไฮไลต์ คือการกล่าวถึงบุตรสาวคนเล็ก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนปัจจุบัน โดยมั่นใจว่าจะสามารนำทีมพลิกเกมได้ไม่ยาก เป็นดีเอ็นเอระหว่างคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ กับตนเอง ผสมกันเชื่อว่าเขาเป็นผู้นำที่ดีได้ ไม่ใช่มาเชียร์ลูก

แต่เมื่อตนเองทำได้ ดีเอ็นเอของตนก็ต้องทำได้และทำได้ดีกว่าด้วย

 

จากนั้น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษ ในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทย และในฐานะน้องใหม่ที่เข้ามาที่นี่ 13 เดือน ว่า เป็นเวลาอันสั้นที่ต้องเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ ตอนอายุ 60 ปีไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อมาแล้วก็ต้องทำต่อไป ได้รับการต้อนรับที่อบอุ่น การเลือกตั้งที่ผ่านมาเราแพ้เลือกตั้ง ฟังแล้วบีบหัวใจ แต่มันคือความจริง 141 เสียง จาก 500 เสียง ตนในฐานะสมาชิกพรรค เป็นแคนดิเดตนายกฯ ก็มีความเจ็บปวด

“ขอเรียนว่าผมเป็นคนไม่แพ้ตลอดกาล ท่านทักษิณบอกว่าผมเป็นนายกฯ ช่วงการเปลี่ยนผ่าน ผมไม่ใช่คนอายุน้อย ถ้าได้เห็นประวัติ ทุกท่านทราบชีวิตผมครบทุกอย่าง แต่ที่ก้าวเข้ามาตรงนี้ เรื่องเดียวที่ตนปรารถนาในชีวิตต้องนำการเปลี่ยนผ่านที่เป็นบวก และนำชัยชนะกลับมาให้พรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งต่อไป”

“ขอให้มั่นใจนายกฯ คนนี้ ตลอดเวลา 3 ปีครึ่งไม่ว่าต่างจังหวัดหรือที่ไหน เราจะทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อประชาชนคนไทยทุกคน”

 

ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่า ขอขอบคุณทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้นำพรรคในอดีต ผู้บริหารพรรคชุดปัจจุบัน พี่น้อง ส.ส.และผู้ยังเชื่อมั่นในพรรคทุกกำลังใจ ทุกการทำงาน ทุกความทุ่มเทของทุกคน ทำให้พรรคยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้

เรากำลังเปลี่ยนแปลงจากข้างในด้วยการเติมคนใหม่เข้ามาทำงานกับเรา เติมองค์ความรู้ใหม่ให้เราพร้อมทำงานมากขึ้น เราตั้งใจเปลี่ยนแปลงพรรคครั้งใหญ่ตั้งแต่รากฐาน เพื่อให้พรรคเพื่อไทยอยู่คู่กับประเทศไทยไปตลอด ไม่ว่าหัวหน้าพรรคจะเปลี่ยนไปอีกกี่คน บริบทในอนาคตจะเป็นอย่างไร พรรคเพื่อไทยจะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ให้กับประเทศไทยได้เสมอ

เหมือนจุดเริ่มต้นตั้งแต่พรรคไทยรักไทย บางคนบอกว่าพรรคจะเป็นพรรคอนุรักษนิยมใหม่ที่เน้นคงสิ่งเดิมไว้ไม่เปลี่ยนแปลง ขอยืนยันว่า ไม่มีวันเป็นแบบนั้น เพราะ DNA ของเราคือการเปลี่ยนแปลง ทุกครั้งที่เป็นรัฐบาล จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ประเทศไทย

น.ส.แพทองธารกล่าวต่อว่า สมัยไทยรักไทยสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือ 30 บาทรักษาทุกโรค ทำให้คนไทยทุกคนเข้าถึงการรักษาพยาบาลฟรี สำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต คือการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ทุกอำเภอของประเทศไทย จะอัดฉีดเงินลงไป เมื่อมีเงินมากกว่าห้าแสนล้านบาทเข้าสู่ระบบ เศรษฐกิจทั้งประเทศจะถูกกระตุ้น

อย่างไรก็ตาม พรรคไทยรักไทยได้ส่งต่อการเปลี่ยนแปลงจนมาถึงพรรคเพื่อไทย คือพรรคปฏิรูปที่ทำให้ประเทศไทยเจริญก้าวหน้าด้วยนโยบาย โดยมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

เชื่อมั่นว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา จากที่วิ่งเร็วอยู่แล้ว จะเร็วขึ้นอีก หลายนโยบายที่เคยติดขัดเพราะงบประมาณ จากนี้จะผ่านฉลุย หลายนโยบายจะสำเร็จได้เห็นผลเร็วๆ นี้แน่นอน และพบกับการสรุปผลงานของรัฐบาลเพื่อไทยที่ไม่ต้องรอ 10 เดือนในวันที่ 3 พฤษภาคมนี้

อย่างไรก็ดี ภาพการปรากฏตัวของนายทักษิณ ชินวัตร ผ่านคลิปวิดีโอในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 พรรคเพื่อไทยนั้น กลับถูกวิพากษ์วิจารณ์และนำไปเชื่อมโยงว่าการออกมาเคลื่อนไหวครั้งนี้ มีนัยการเมืองใดหรือต้องการส่งสัญญาณใดหรือไม่

ทว่า การที่นายทักษิณตอกย้ำดีเอ็นเอความชัดเจนในตัวของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยิ่งทำให้ถูกมองว่าอนาคตหลังจากนี้ไป น.ส.แพทองธาร บุตรสาวคนเล็ก จะมีบทบาทสำคัญทางการเมือง เดินตามรอยนายทักษิณ ผู้เป็นบิดาหรือไม่

กอปรกับล่าสุด น.ส.แพทองธารได้โพสต์ภาพนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กำลังเล่นน้ำกับหลานๆ แถมโชว์ความฟิตด้วยการยกดัมเบลล์นั้น กลับถูกนำมาเชื่อมโยงและตั้งคำถามว่าหลังเทศกาลสงกรานต์จากนี้ไป นายทักษิณจะเริ่มกลับมามีบทบาทสำคัญต่อทิศทางการเมืองมากยิ่งขึ้นหรือไม่ ยิ่งช่วงหลังกระแสข่าวการปรับเก้าอี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมาอย่างต่อเนื่อง แม้แนวโน้มจะเป็นเพียงการปรับ ครม.ชุดเล็ก แต่ชื่อของนายทักษิณก็มักจะถูกนำมาโยงด้วยทุกครั้งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

แต่ทว่า คนที่มีอำนาจปรับเก้าอี้ ครม.ได้เพียงคนเดียว นั่นคือ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งเจ้าตัวย้ำว่า “การทำงานของผมตั้งแต่เป็นนักธุรกิจมา จนกระทั่งก้าวสู่เวทีการเมือง ผมให้เกียรติเพื่อนร่วมงานทุกคน ฉะนั้น การจะทำอะไรต้องมีการพูดคุยกันซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา แต่แน่นอนครับผมเป็นคนจรดปากกา เมื่อเสร็จ”

ฉะนั้น ช่วงหลังสงกรานต์และเข้าสู่การปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่ต้องจับตามองอย่างยิ่งว่า ท้ายที่สุดแล้ว “ครม.เศรษฐา” จะมีเปลี่ยนแปลงเก้าอี้รัฐมนตรีคนใดหรือไม่

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดของรัฐบาลชุดนี้ ย่อมหนีไม่พ้นการพิสูจน์ผลงาน พิสูจน์ฝีมือทางการเมือง เพื่อนำพาและบริหารประเทศให้มีประสิทธิภาพ รวมทั้งยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น เพื่อเป็นหลักประกันว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคเพื่อไทยจะสามารถเรียกศรัทธาจากประชาชน และทำให้พรรคเพื่อไทยกลับมาทวงบัลลังก์และชนะเลือกตั้งครั้งหน้า

ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ประกาศความมั่นใจไว้ให้ได้