เกาะพะงันเดินหน้าจับกุมต่างชาติแย่งอาชีพพี่น้องคนไทยอย่างต่อเนื่อง

ฝ่ายปกครองอำเภอเกาะพะงัน ร่วมกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และตำรวจท่องเที่ยว ผนึกกำลังกวาดล้างคนต่างชาติลักลอบทำงานแย่งอาชีพคนไทยในพื้นที่อำเภอเกาะพะงัน รวบสองพี่น้องเลบานอนหัวใส ขับรถส่งขายน้ำแย่งงานคนไทยอย่างผิดกฎหมายในช่วงฤดูแล้งนี้

วันนี้ (20 เม.ย. 67) นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่าตนได้สั่งการให้นายนพดล ขาวมะลิ นายอำเภอเกาะพะงัน ให้นำชุดจับกุมนำโดย มว.ต.อัครพล พูลผล ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง ผช.ผบ.ร้อย อส.อ.เกาะพะงันเจ้าพนักงานฝ่ายปกครองอำเภอเกาะพะงัน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง นำโดย ร.ต.อ.สิริวัฒน์ สมหวังและเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวเกาะพะงัน นำโดย ด.ต.สายัณห์ สุทธิมาศ ได้ร่วมจับกุม MR.JEAN ASFOUR อายุ 45 ปี สัญชาติ เลบานอน ​พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์กระบะ ในข้อกล่าวหาว่า “เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ (ขับรถส่งน้ำ)”และ MR.ROY ASFOUR อายุ 36 ปี สัญชาติ เลบานอน ในข้อกล่าวหาว่า “เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (อยู่เกินกำหนด 4 วัน) และเป็นบุคคลต่างด้าวทำงาน โดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน”

นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ดำเนินการตามมาตรการจัดระเบียบสังคมและปราบปรามผู้มีอิทธิพลอย่างต่อเนื่องร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคง และภาคีเครือข่ายในพื้นที่ โดยเฉพาะการบูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและตำรวจท่องเที่ยว ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.6, พล.ต.ต.ภพพล จักกะพาก ผบก.ทท.3 โดยเมื่อวันที่ 19 เม.ย. 67 โดยชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองอำเภอเกาะพะงันได้ร่วมกันจับกุม MR.JEAN ASFOUR อายุ 45 ปี สัญชาติ เลบานอน ​ พร้อมด้วยของกลาง รถยนต์กระบะ ยี่ห้อ มิตซูบิชิ รุ่น สตาร์ด้า สีดำ ในข้อกล่าวหาว่า “เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ (ขับรถส่งน้ำ)” และ MR.ROY ASFOUR อายุ 36 ปี สัญชาติ เลบานอน ในข้อกล่าวหาว่า “เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (อยู่เกินกำหนด 4 วัน) และเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน”

นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวต่อว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับการร้องเรียนจากพลเมืองดีว่ามีคนต่างชาติลักลอบทำงานแย่งอาชีพคนไทยโดยขับรถส่งน้ำอยู่ในพื้นที่ อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและสืบสวนหาข่าว พบว่า มีรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ มิตซูบิชิ รุ่นสตาร์ด้า สีดำ บรรทุกแท็งก์น้ำอยู่ท้ายกระบะ โดยมีสติ๊กเกอร์สีขาว ติดอยู่ที่แท็งก์น้ำและด้านข้างรถยนต์กระบะทั้งสองข้าง ระบุข้อความว่า “Water service 2,000 Litters. Saijai.099-4727331(Thai) Jean.+66 642080321(English)” จอดอยู่ริมถนนท้องศาลา – มะเดื่อหวาน ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี และพบโบชัวร์ ระบุข้อความ “บริการส่งน้ำ 2,000 ลิตร 500 บาท สนใจติดต่อ สายใจ 0894727331 2000L QUICK SERVICE

นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เฝ้าสังเกต จนกระทั่งพบ บุคคลลักษณะเป็นบุคคลต่างด้าว กำลังขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าว ซึ่งบรรทุกแท็งก์น้ำอยู่ท้ายกระบะ อยู่บนถนนสายท้องศาลา-มะเดื่อหวาน ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี โดยมีบุคคลลักษณะเป็นบุคคลต่างด้าว นั่งโดยสารอยู่ภายในแคปข้างคนขับมาด้วย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงติดตามไปตรวจสอบ พบว่า บุคคลลักษณะเป็นบุคคลต่างด้าว ได้ขับรถยนต์กระบะเข้าไปซื้อน้ำเติมแท็งก์น้ำท้ายกระบะที่บริเวณร้านขายน้ำ หมู่ที่ 2 ต.เกาะพะงัน จากนั้นได้ขับรถยนต์กระบะ บรรทุกน้ำ ไปส่งให้กับลูกค้าที่บ้านไม่ทราบเลขที่ หมู่ที่ 5 ต.เกาะพะงัน โดยบุคคลลักษณะเป็นบุคคลต่างด้าว ซึ่งเป็นคนขับรถได้ลงจากรถ และได้นำน้ำซึ่งบรรทุกมาท้ายกระบะ รดต้นไม้ให้กับลูกค้าภายในบริเวณบ้านหลังดังกล่าว โดยมีบุคคลลักษณะเป็นบุคคลต่างด้าวอีกคนซึ่งนั่งโดยสารมาด้วยกัน ทำงานเป็นผู้ช่วยดึงสายยาง, รดน้ำ และเก็บสายยางไว้ท้ายรถ เมื่อบุคคลลักษณะเป็นบุคคลต่างด้าวทั้งสองได้ช่วยกันนำน้ำส่งให้กับลูกค้าเสร็จเรียบร้อย จึงได้ขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวออกจากบ้านลูกค้า เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้ติดตามไป และได้ส่งสัญญาณให้หยุดรถ แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อตรวจสอบเอกสารประจำตัวและใบอนุญาตทำงานจากบุคคลลักษณะเป็นบุคคลต่างด้าว ซึ่งเป็นผู้ขับขี่จากการตรวจสอบ พบว่า บุคคลดังกล่าวเป็นบุคคลต่างด้าว มีสัญชาติ เลบานอน เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 17 ม.ค. 66 ได้รับการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว (NON-RE) ล่าสุดได้ขออยู่ต่อในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวด้วยเหตุผลมีเหตุจำเป็นทางธุรกิจที่ ตม.จว.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 67 อยู่ระหว่างฟังผลการพิจารณา ซึ่งครบกำหนดอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรวันที่ 19 เม.ย. 67 และแสดงใบอนุญาต ที่บริษัท พี.อาร์.คอรซัลติ้ง จำกัด ในตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ ครบกำหนดอนุญาตทำงานวันที่ 25 ต.ค. 67 สอบถาม MR.JEAN ASFOUR ผู้ถูกจับ รับว่า ได้ทำงานขับรถยนต์กระบะส่งน้ำให้กับลูกค้าจริง โดยได้ซื้อน้ำจากร้านขายน้ำ จำนวน 4,000 ลิตร ราคา 200 บาท โดยตกลงจะจ่ายให้ร้านขายน้ำในภายหลัง และได้ตกลงบรรทุกน้ำ จำนวน 4,000 ลิตร ไปส่งให้กับลูกค้า คิดค่าบริการ จำนวน 1,000 บาท โดยตนได้บรรทุกน้ำไปส่งให้กับลูกค้ามาแล้วจำนวน 2 รอบ รอบละ 1,000 ลิตร รวม 2,000 ลิตร แต่ยังไม่ได้รับเงินจากลูกค้าแต่อย่างใด เนื่องจากยังไปส่งน้ำให้ไม่ครบตามจำนวน ส่วนรถกระบะคันเกิดเหตุตนได้ประมูลมาจาก บริษัท สหเครน อ็อกชั่น จำกัด ซึ่งอยู่ที่จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 67 ในราคา 45,334 บาท แต่ยังไม่ได้โอนเป็นชื่อของตนแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงตรวจยึดรถยนต์กระบะคันดังกล่าว ซึ่งใช้ในการกระทำผิดไว้เป็นของกลาง และได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ MR.JEAN ASFOUR ผู้ถูกจับทราบว่า “เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้ (ขับรถส่งน้ำ)” ส่วน MR.ROY ASFOUR เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด(อยู่เกินกำหนด 4 วัน) และ“เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต ”พร้อมทั้งแจ้งสิทธิของผู้ต้องหาและพฤติการณ์การจับกุมให้ผู้ถูกจับทราบดีโดยตลอดแล้ว จึงนำตัวผู้ถูกจับพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

“หากพี่น้องประชาชนพบการกระทำผิดทุกรูปแบบ ขอให้เเจ้งเบาะแสได้ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองในพื้นที่ หรือที่สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 และขอให้ช่วยกันใส่ใจคนในครอบครัว ชุมชน และสังคม เพื่อทำให้บ้านเมืองของเราเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข และอยู่ภายใต้กฎหมาย ทั้งนี้ ขอให้มั่นใจในการดำเนินการของหน่วยงานภาครัฐ หากมีการเเจ้งเบาะแส เจ้าหน้าที่จะดำเนินการรักษาความลับ และจะป้องกันไม่ให้ผู้แจ้งเบาะแสได้รับทุกข์ภัยจากการร้องเรียนใด ๆ ทั้งสิ้น” นายเจษฎา จิตรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย
.
กองสารนิเทศ สป.มท.
ครั้งที่ /2567
วันที่ 20 เม.ย. 67