เวิลด์คัพฝ่ายหญิงมาแล้ว อัพเกรดทุกด้านแต่ขาด ‘ชบาแก้ว’

เวิลด์คัพฝ่ายหญิงมาแล้ว

อัพเกรดทุกด้านแต่ขาด ‘ชบาแก้ว’

 

ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2023 กำลังจะเปิดฉากในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้แล้ว ในปีนี้ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 20 กรกฎาคม-20 สิงหาคม นับเป็นครั้งแรกที่เวิลด์คัพฝ่ายหญิงมีทีมที่แข่งขันในรอบสุดท้าย 32 ชาติ

ที่ผ่านมาฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลกเพิ่มทีมในรอบสุดท้ายมากขึ้นเรื่อยๆ การแข่งขันครั้งแรกในปี 1991 มีเพียง 12 ทีม จนถึงปี 1999 เพิ่มเป็น 16 ทีม และ 24 ทีม ในปี 2015 กับปี 2019 นับเป็นครั้งแรกที่มีชาติเจ้าภาพมากกว่า 1 ประเทศ

เวิลด์คัพครั้งนี้อาจจะดูเงียบเชียบไปหน่อยที่ไทย เพราะ “ชบาแก้ว” ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย พลาดตั๋วไปแข่งขัน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไปเตะรอบสุดท้ายมาแล้ว 2 ครั้งติดต่อกันทั้งที่แคนาดาและฝรั่งเศส

ครั้งนี้มี 2 ทีมจากอาเซียนที่ได้ไปโม่แข้ง คือ เวียดนามและฟิลิปปินส์ ลุ้นว่าจะได้เป็นทีมแรกจากอาเซียนที่ได้ผ่านเข้ารอบสองหรือไม่

 

8กลุ่มประกอบด้วย กลุ่มเอ นิวซีแลนด์, นอร์เวย์, ฟิลิปปินส์, สวิตเซอร์แลนด์ / กลุ่มบี ออสเตรเลีย, ไอร์แลนด์, ไนจีเรีย, แคนาดา / กลุ่มซี สเปน, คอสตาริกา, แซมเบีย, ญี่ปุ่น / กลุ่มดี อังกฤษ, เฮติ, เดนมาร์ก, จีน

กลุ่มอี สหรัฐอเมริกา, เวียดนาม, เนเธอร์แลนด์, โปรตุเกส / กลุ่มเอฟ ฝรั่งเศส, จาเมกา, บราซิล, ปานามา / กลุ่มจี สวีเดน, แอฟริกาใต้, อิตาลี, อาร์เจนตินา / เยอรมนี, โมร็อกโก, โคลอมเบีย, เกาหลีใต้

เรียกได้ว่าแชมป์ทั้ง 8 ครั้งของฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลกมาอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาในหนนี้ สหรัฐ 4 สมัย, เยอรมนี 2 สมัย ญี่ปุ่น, นอร์เวย์ ที่เคยได้ลิ้มรสแชมป์โลกทีมละ 1 สมัย

ว่ากันถึงทีมเต็ง สหรัฐอเมริกา แชมป์เก่า 2 สมัยหลังสุด ถือเป็นทีมที่มีโอกาสมากที่สุดในครั้งนี้ และถ้าพวกเธอทำได้ ก็จะกลายเป็นชาติแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้ 3 สมัยติดต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิง ขนาดที่ว่าบราซิล ทีมชาย แชมป์โลก 5 สมัย ยังไม่เคยเป็นแชมป์ 3 สมัยติดต่อมาก่อนเลย

อังกฤษก็เป็นอีกหนึ่งทีมเต็ง หลังจากเพิ่งคว้าแชมป์ยูโรหญิงมาไม่นาน แต่การที่ไม่มี เบธ เมียด, เลอาห์ วิลเลียมสัน ที่เจ็บเอ็นร้อยหวาย ไม่สามารถช่วยทีมได้ รวมทั้ง ฟาน เคอร์บี้ ที่เจ็บเข่าอีกคน ทำให้อังกฤษอันตรายน้อยลงไปแน่นอน

ออสเตรเลียที่มี แซม เคอร์ ยอดกองหน้าของเชลซีนำทัพในบ้าน มีความได้เปรียบตรงที่ได้เล่นท่ามกลางเสียงเชียร์ของคนบ้านเดียวกัน แต่ถ้ามองถึงผลงานที่ผ่านมา สาวออสซี่ไม่เคยไปได้ไกลกว่ารอบ 8 ทีมของฟุตบอลโลกเลย

ก็ต้องดูว่าความเป็นเจ้าภาพจะสร้างความได้เปรียบได้มากขนาดไหน

 

เรื่องเงินรางวัล เมื่อทีมเพิ่มขึ้น เงินก็ต้องเพิ่มตามไปด้วย ครั้งนี้สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) เตรียมไว้ที่ 110 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มจากเมื่อ 4 ปีที่แล้ว 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้ง 32 ทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย จะได้รับ 1.56 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตกรอบสองได้รับ 1.87 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตกรอบ 8 ทีม ได้รับ 2.18 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทีมอันดับ 4 ได้ 2.455 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทีมอันดับ 3 ได้รับ 2.61 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทีมรองแชมป์ได้รับ 3.015 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และทีมแชมป์จะได้รับ 4.29 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

อีกไม่กี่วันก็จะฟาดแข้งกันแล้ว ถึงแม้ว่าปีนี้กระแสอาจจะไม่หวือหวา แต่ก็เป็นทัวร์นาเมนต์ที่น่าติดตาม เพราะมองกันถึงความพยายามที่ฟีฟ่าจะสร้างให้ฟุตบอลหญิงได้รับความนิยมเทียบเคียงผู้ชายมากขึ้น

ที่สำคัญเมื่อเตะแถบโอเชียเนีย เวลาเร็วกว่าไทย ช่วงบ่ายๆ ก็ได้ดูกันแล้ว แต่อาจจะหาดูยากพอสมควร อยู่ที่ความสามารถของแต่ละคนแล้วขอรับ •

 

Technical Time-Out | จริงตนาการ

[email protected]