พยากรณ์ดวงชะตาโลก ดวงชะตาประเทศไทย เมษายน-พฤษภาคม 2563

ดวงอาทิตย์ยกเข้าสู่ราศีเมษ ทางโหราศาสตร์สากลและโหราศาสตร์ยูเรเนียน เป็นโหราศาสตร์ที่อ้างอิงกับฤดูกาล (Tropical Zodiac) ราศีเมษถือว่าเป็นราศีแรกในจักรราศี ดวงอาทิตย์จะย้ายเข้าสู่ราศีเมษประมาณวันที่ 20 หรือ 21 มีนาคมของทุกปี

ในปีนี้ดวงอาทิตย์ย้ายเข้าสู่ราศีเมษวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ.2563 เวลา 10:49:29 น. ตามเวลามาตรฐานประเทศไทย (105E) ตำแหน่งดวงอาทิตย์ 00 องศา 00 ลิปดา 00 พิลิปดา ราศีเมษ

หลังจากนั้นเพียง 4 วันก็เป็นวันพระจันทร์ดับ (New Moon) ตรงกับวันที่ 24 มีนาคม พ.ศ.2563 เวลา 16:28:04 น. ตามเวลามาตรฐานประเทศไทย (105E) ตำแหน่งดวงอาทิตย์กุมจันทร์ สถิต 04 องศา 12 ลิปดา ราศีเมษ

ดังนั้น ดวงชะตาประเทศไทยในรอบไตรมาสนี้จะมีเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นซึ่งส่งผลต่อเนื่องไปถึงรอบไตรมาสต่อไป

โควิด-19 วิกฤตไวรัสทั่วโลก

สถานการณ์ความรุนแรงของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาซึ่งเป็นสายพันธุ์ใหม่ ส่งผลต่อวิกฤตโควิด-19 (COVID-19) สร้าง หวาดกลัวและวิตกกังวลไปทั่วโลกในขณะนี้ จากรายงานยอดผู้เสียชีวิตและติดเชื้อยิ่งเพิ่มมากขึ้นทุกๆ วัน การเกิดโรคระบาดในครั้งนี้ เคยเขียนไว้ในรายงานพิเศษแล้ว

จากดวงชะตาโลกและดวงชะตาประเทศไทย มีเรื่องราวเกี่ยวกับการอุบัติของการเกิดโรคระบาด ตามคำพยากรณ์ดวงชะตาโลกและประเทศไทย พ.ศ.2563 ที่ตีพิมพ์ในมติชนสุดสัปดาห์ https://www.matichonweekly.com/column/article_265811) แต่ผลของโรคระบาด ซึ่งเป็นเชื้อโรคไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ทำให้ไม่สามารถคาดการณ์ถึงความรุนแรงในการแพร่กระจายเชื้อโรคได้อย่างกว้างขวางทั่วโลก ส่งผลให้เกิดการคร่าชีวิตของผู้คนจำนวนมาก

ดังนั้น จากกรณีนี้ทำให้นักโหราศาสตร์สนใจติดตามวิกฤตโควิด-19 (COVID-19) เพื่อนำมาเป็นกรณีศึกษา และจะเขียนรายงานพิเศษให้ผู้อ่านได้ติดตามกันต่อไป

ประเด็นสำคัญไตรมาสนี้ยังคงเป็นเรื่องวิกฤตโควิด-19 (COVID-19) แม้ว่าบางประเทศนั้นยังไม่มีข่าวการรายงานข้อมูลที่ยังไม่เปิดเผยว่าเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสนี้ก็ตาม ในอีกไม่นานภายในรอบไตรมาสนี้จะส่งผลมากยิ่งขึ้น

จากการพิจารณาดวงชะตาประเทศที่น่าจับตามองอย่างยิ่งคือประเทศอินเดียและอัฟกานิสถาน

ตลอดจนบางเมืองที่ยังไม่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสนี้เข้าไปถึง ก็จะเริ่มมีรายงานข่าวการติดเชื้อและยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นด้วยอย่างทวีคูณ

ความน่าสะพรึงกลัวของวิกฤตโควิด-19 (COVID-19) เป็นการสูญเสียครั้งสำคัญของมวลมนุษย์โลก แม้ว่าแพทย์และผู้เชี่ยวชาญกำลังพยายามควบคุมและหาวิธีการในการระงับการแพร่เชื้อโรคไวรัสนี้

แต่กว่าจะควบคุมและระงับการแพร่ระบาดได้

คาดว่าประมาณเริ่มต้นไตรมาส 2 (ช่วงเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป) ที่สถานการณ์ทั่วโลกและประเทศไทยจะคลี่คลายในการระงับ รักษาชีวิตผู้ที่ติดเชื้อและลดการระบาดแพร่เชื้อนี้ได้

ส่วนการควบคุมและงานวิจัยเพื่อการรักษาโรคโควิด-19 (COVID-19) ยังต้องดำเนินต่อไปเพื่อให้โรคนี้ไม่สามารถแพร่ระบาดและเป็นโรคที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้จริงๆ เมื่อวิกฤตโควิด-19 (COVID-19) เริ่มคลี่คลายและควบคุมได้แล้ว

ผลของวิกฤตดังกล่าวที่ได้กระทบต่อการสูญเสียทรัพยากรมนุษย์ เศรษฐกิจ การสาธารณสุข การเมือง และการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ จะเป็นภารกิจที่สำคัญต่อไป ที่ต้องดำเนินการแก้ไขและมีมาตรการที่ชัดเจนต่อการฟื้นฟูในทุกๆ ด้าน

สภาพเศรษฐกิจโลกจากที่เคยถดถอยก็ต้องพยายามฟื้นฟูเพื่อให้ทุกอย่างกลับมาสู่สภาพปกติ ในระหว่างการเกิดวิกฤตโควิด-19 (COVID-19) จะมีการปิดกิจการต่อเนื่องไปจนถึงขั้นเลิกกิจการ ล้มละลาย

ส่วนธุรกิจที่รองรับกับสถานการณ์นี้ก็จะมีช่องทางในการขยายผลิตภัณฑ์และช่องทางการตลาดได้กว้างขึ้น

ช่องทางการค้าขายออนไลน์ ธุรกิจส่งอาหาร และสินค้า รวมถึงระบบการขนส่งจะมีทิศทางที่เติบโตขึ้นทั่วโลก

สภาวะตลาดเงินและตลาดทุนของโลกก็จะขยับตัวและปรับตัวไปในทิศทางที่จะสร้างความมั่นคงต่อระบบการเงินและการคลังของโลก

ปัญหาผู้ลี้ภัยยังคงรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ยังไม่มีมาตรการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง จะเกิดการลักลอบเข้าเมือง สร้างปัญหาด้านการสาธารณสุข และเป็นแหล่งการเกิดโรคภัยและโรคระบาดร้ายแรงในอนาคต

ปัญหาสิ่งแวดล้อมโลก อากาศของโลกแปรปรวน ไฟไหม้ น้ำท่วม และพายุลม ฝนในรอบไตรมาสนี้จะเริ่มเกิดปัญหาที่เด่นชัดขึ้น

วิกฤตโควิด-19 (COVID-19)ต่อดวงชะตาประเทศไทย

สถานการณ์โควิด-19 (COVID-19) ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความเชื่อมั่นและเสถียรภาพของคณะรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนายกรัฐมนตรีเอง ที่รวมอำนาจการแก้ไขวิกฤตนี้เอาไว้

การออกมาตรการหลายๆ อย่างของรัฐบาลเพื่อให้เกิดการควบคุมต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ทุกอย่างค่อยเป็นค่อยไป ยังไม่เห็นผลชัดเจน

และต่อๆ ไปจะมีมาตรการที่เข้มงวดกวดขันทยอยออกมาเรื่อยๆ เพื่อให้รัฐบาลพยายามควบคุมวิกฤตในครั้งนี้ให้ได้

ประเทศไทยนับว่าโชคดีกว่าประเทศอื่นๆ ต่อการเกิดสถานการณ์นี้ ยอดผู้ติดเชื้อไม่สูงติดอันดับโลก ด้วยความเชี่ยวชาญและความสามารถของบุคลากรทางการแพทย์ การควบคุมการแพร่ระบาดของโรคนี้ ระดับความรุนแรงของการแพร่กระจายเชื้อโรคนี้

จากดวงชะตาประเทศไทยคาดการณ์ว่าจะเริ่มควบคุมสถานการณ์โควิด-19 (COVID-19) โดยเริ่มเห็นผลชัดเจนในช่วงเดือนมิถุนายนนี้เป็นต้นไป

แม้ว่ารัฐบาลให้ความช่วยเหลือประชาชนในด้านการเยียวยาในรูปแบบต่างๆ เช่น โครงการเราไม่ทิ้งกัน การคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า และจะมีอีกหลายๆ โครงการที่กำลังจะพิจารณาอนุมัติเพื่อการสร้างความอบอุ่นใจต่อประชาชนในด้านการรักษาภาพลักษณ์และเสถียรภาพของรัฐบาลเอาไว้ช่วงภาวะวิกฤตในครั้งนี้

สิ่งที่ควรเฝ้าระวังคือ หลังจากการเกิดปัญหาวิกฤตในครั้งนี้ จะส่งผลต่อปัญหาด้านการเงินอย่างมาก

ภาวะการเงินของประเทศอยู่ในสภาพไม่คล่อง ขาดแคลนเงินอย่างหนัก ราวกับโดนชะตากรรมรังแกจากผลการกระทำต่างๆ ที่ใช้เงินสะพัด ต้องหาแหล่งเงินทุนจากทั้งภายในและภายนอกประเทศ หาวิธีการชักชวนต่างชาติมาร่วมการลงทุนเพื่อให้ประเทศได้รับประโยชน์ ตลาดหุ้น การลงทุนที่ผันผวน ส่งผลต่อระบบตลาดเงินและตลาดทุนของประเทศ

ค่าเงินบาทจะเกิดความผันผวน แต่ทิศทางก็ยังเป็นไปตามกลไกของเศรษฐกิจ

นับจากนี้ต่อไปรัฐบาลควรรอบคอบในการดำเนินการทุกด้าน ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม การศึกษา การสาธารณสุข และด้านอื่นๆ ที่ประดังเข้ามาเป็นโจทย์ใหญ่ที่ถาโถมราวกับพายุกระหน่ำต่อนายกรัฐมนตรีและทีมงานคณะรัฐบาลอย่างหนัก

การก่อสร้างโครงการใหญ่ๆ ที่สำคัญๆ ระดับโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การคมนาคม การขนส่ง สะพาน ถนน ทางเชื่อมสำคัญ ต่างๆ หลายๆ โครงการก่อสร้าง รัฐบาลจะเริ่มมีปัญหาในการควบคุมงบประมาณและค่าใช้จ่าย ตลอดจนผู้ที่จะเข้ามาดำเนินการในโครงการต่างๆ เพื่อลดต้นทุน ในขณะเดียวกันประเทศชาติและรัฐบาลจะได้รับผลประโยชน์มากขึ้นด้วย

จันทร์ดับคราวนี้นำความยุ่งยากหรือความคับขันมาสู่รัฐบาลในการแก้ไขวิกฤตสถานการณ์โควิด-19 (COVID-19) ต่อไป

ประชาชนกำลังเดือดร้อนอย่างหนัก ต้องอดทนเพื่อร่วมรับมือกับวิกฤตตามประกาศและการขอความร่วมมือจากรัฐบาล ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองรอการปะทุหากรัฐบาลมีช่องว่างให้ฝ่ายตรงข้ามนำมาเป็นประเด็นในการโจมตีได้

กว่าที่ทุกอย่างจะฟื้นเพื่อการพัฒนาประเทศต่อไป ต้องใช้เวลาและพิสูจน์ความสามารถของการบริหารประเทศของฝ่ายรัฐบาล

ฟ้าหลังฝนคราวนี้อาจจะไม่สดใสอย่างที่คิด