อิกัวซู (Iguazu) เมืองท่องเที่ยวริมน้ำ ขนาบน้ำตกชื่อก้องโลก

คนพื้นเมืองอาร์เจนติเนียนและพวกฮิสปานิกออกเสียงชื่อแม่น้ำและน้ำตกนี้ว่า “อิกัวซู” (Iguazu) แต่นักท่องเที่ยวและคนต่างชาติออกเสียงตามตัวสะกดว่า “อิกวาซู” ชื่อเต็มของเมืองริมแม่น้ำนี้คือ Puerto Iguazu

กลับจากโรงละครแทงโก้คืนนั้นต้องมาจัดกระเป๋ากันอีก มีเวลานอนไม่ถึง 3 ชั่วโมง ก็ต้องรีบตื่นเตรียมตัวเดินทางไปสนามบินตอนตีห้าครึ่ง กะให้ไปถึงสนามบินตอนหกโมงเช้า เพื่อขึ้นเครื่อง 8 โมงไปเมืองอิกัวซู Iguazu (IGR) ทางเหนือของอาร์เจนตินา

เอากระเป๋าใหญ่ฝากไว้ที่โรงแรม Boca Juniors Hotel เราจะไปค้างที่อิกัวซูแค่ 2 คืน จึงลากกระเป๋าใบเล็กไปอย่างเดียว จะต้องกลับมาที่บัวโนสไอเรสอีก

ยังไม่มีอาหารเช้าใส่กล่องจากโรงแรม เพราะเช้าเกินไป นอกจากครัวซองต์ให้หยิบใส่ถุงไปเป็นอาหารเช้าได้มากชิ้นตามต้องการ

แท็กซี่ป้ายดำมารับตามนัดหมาย ค่ารถไปสนามบิน 900 เปโซ คิดถูกแล้วที่เผื่อเวลาที่สนามบิน EZE สำหรับสายในประเทศไว้ 2 ชั่วโมง เพราะช่องตรวจเอ็กซเรย์ของสายในประเทศมีแค่ช่องเดียว แต่มีเครื่องออกหลายลำ ดังนั้น คิวผู้โดยสารรอเข้าช่องตรวจจึงยาวเหยียด ขนาดต้องมีเจ้าหน้าที่มาเรียกคนโดยสารที่เครื่องกำลังจะออกให้ได้ลัดคิวเข้าตรวจเอ็กซเรย์ก่อน

ถ้าเลือกเดินทางโดยรถทัวร์ไปอิกัวซูคงไม่ค่อยไหวสำหรับวัยขนาดเรา เพราะรถวิ่งนานถึง 18 ชั่วโมง เครื่องบินใช้เวลา 1 ชั่วโมง 55 นาที ไกลเกือบพอๆ กับกรุงเทพฯ-สิงคโปร์ ค่าตั๋วแพงใช่ย่อย ไป-กลับคราวนั้นเล่นไปเกือบ $ 400 บินด้วยสายการบิน Austral Airways สายการบินในเครือของ Aerolineas Argentinas

พอขึ้นไปนั่งบนเครื่อง รัดเข็มขัดแล้วผมก็หลับเลย ไม่สนใจว่านักบินจะนำเครื่องขึ้นเมื่อใด มาตื่นตอนที่แอร์โฮสเตสเสิร์ฟกาแฟกับครัวซองต์เป็นอาหารเช้า

แล้วหลับต่อจนเครื่องแลนดิ้ง

ไปอิกัวซูคราวนั้นเป็นการเดินทางแบบ “ไปตายดาบหน้า” เพราะจองโรงแรมผ่าน Agoda.com ไม่สำเร็จ รวมทั้งเว็บไซต์แลกไมล์สะสมจากบัตรเครดิตก็จองไม่ได้ หวังไว้ว่าจะไปจองโรงแรมที่เคาน์เตอร์ท่องเที่ยวที่สนามบินที่นั่น

เป็นครั้งแรกที่เดินทางถึงเมืองปลายทางโดยไม่มีโรงแรมอยู่ในมือ

แต่สนามบิน IGR เล็กนิดเดียว ไม่มีเคาน์เตอร์จองโรงแรม มีโต๊ะรับจองทัวร์ที่เดียว ไม่รับจองโรงแรม เจ้าของพอพูดอังกฤษได้ เขาแนะนำให้เราเข้าเมืองกับชัตเติลบัสแล้วไปติดต่อหาโรงแรมที่สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวในเมือง

จ่ายค่ารถชัตเติลไปคนละ 200 เปโซ นับว่าถูกมากกับระยะทางวิ่งเกินครึ่งชั่วโมงบนถนนที่ตัดผ่านเนินเขาขึ้น-ลงสูงต่ำไปตามราวป่าไม้เขียวขจี สองข้างทางมีป้ายบอกให้ขับรถระวังสัตว์ป่าชนิดต่างๆ ที่ติดรูปไว้ตลอดทาง และมีรีสอร์ตประเภทซาฟารีอยู่หลายแห่ง พอใกล้ถึงตัวเมืองจึงเป็นรีสอร์ตและโรงแรมขนาดเล็กใหญ่เรียงรายกันไป นักท่องเที่ยวเดินชมเมืองอยู่ขวักไขว่

ผ่านสถานีรถบัสประจำเมือง เป็นท่ารถทัวร์จากบัวโนสไอเรส รถที่วิ่งระหว่างประเทศไปบราซิล ไปปารากวัย และรถบัสวิ่งไปน้ำตกอิกัวซู ค่ารถไป-กลับคนละ 170 เปโซ ออกทุก 20 นาที

นักท่องเที่ยวเต็มตลอด

ที่สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งอิกัวซู สองสาวที่ทำหน้าที่ต้อนรับสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี เธอกุลีกุจอต่อโทรศัพท์หาห้องตามโรงแรมใจกลางเมืองหลายต่อหลายแห่ง จนมาได้เอาห้องสุดท้ายของโรงแรมริมแม่น้ำอิกัวซู เหลือว่างอยู่ห้องเดียว เป็นห้องด้านที่ไม่เห็นวิวแม่น้ำ คืนละ $134 ราว 4,000 กว่าบาท รวมอาหารเช้าด้วย โรงแรมที่บัวโนสไอเรสก็ราคาประมาณนี้

เธอให้บริการโทร.เรียกแท็กซี่ไปส่งที่โรงแรม ค่ารถ 500 เปโซ

สบายใจได้ที่นอนในอิกัวซูแล้ว

รถแท็กซี่พาวิ่งผ่านใจกลางเมืองอิกัวซู บริเวณนี้เป็นถนนตัดกัน 7 สาย เป็น “7 แยกวัดใจ” เพราะไม่มีไฟสัญญาณจราจร รถที่วิ่งผ่าน 7 แยกจะต้องให้ทางกันเอง

เห็นแล้วต้องชื่นชมชาวอาร์เจนติเนียนแห่งอิกัวซู ที่ขับรถดี มีวัฒนธรรม ขนาดแยก 7 แยกยังไม่ต้องมีสัญญาณไฟจราจร

เช็กอินที่โรงแรม กินมื้อกลางวันเป็นชาอาร์เจนติเนียนกับครัวซองต์ที่หอบหิ้วมาจากบัวโนสไอเรส แล้วนอนให้คุ้มกับที่ต้องอดหลับอดนอนกับเที่ยวบินเมื่อเช้า

ตื่นมาตอนตะวันจะตกดิน แต่งตัวเรียกแท็กซี่ไปดินเนอร์ร้านที่มีชื่อเสียงที่สุดในอิกัวซู ตามคำแนะนำของเอเย่นต์ทัวร์ที่สนามบิน ชื่อร้าน Aqva ป้ายหน้าร้านเขียนชื่อ AQVA เป็นร้านที่คนที่มาอิกัวซูจะพลาดไม่ได้

สั่งอาหารปลาจานชื่อ Surubim Grelhado หรือ Grilled Surubi (Surubi เป็นชื่อปลา Local River Fish ที่นี่) ปลาตัวนี้แล่ถอดก้างแล้วย่างมาทั้งตัวราดด้วยน้ำซอส Guacamole สีเขียวเพราะทำจาก Avocado มีผักโขมเป็นเครื่องเคียง

อร่อยจนต้องฝันถึง

คนข้างกายสั่ง Lamb เธอไม่ประทับใจนัก

ดินเนอร์เสร็จ เดินชมร้านรวงแถวนั้น ทุกร้านเป็นร้านอาหารที่ประดับประดาไฟไว้งดงาม บางร้านมีดนตรีบรรเลงกล่อมด้วยจังหวะแทงโก้ แทบทุกร้านค่อนข้างเต็มด้วยนักท่องเที่ยว

อิกัวซูเป็นเมืองท่องเที่ยวโด่งดังของอาร์เจนตินา

เดินอ้อมไปอีกถนนที่ไต่ขึ้นไปตามความสูงของเนิน ซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ที่สุดของเมืองอยู่ที่นี่ เจ้าของร้านเป็นชายจีนสูงวัย มาดูแลกิจการกับลูกสาวเป็นลูกครึ่งไชนิสอาร์เจนติเนียนและลูกเขยฮิสปานิก ช่วยกันทำมาหากิน ต้องซื้อน้ำดื่มจากที่นี่กลับไปที่ห้องโรงแรม เพราะทุกโรงแรมในอาร์เจนตินาไม่มีบริการ

มาไกลสุดขอบฟ้าถึงอิกัวซูก็หนีไม่พ้นคนจีน

ขากลับ ลูกเขยร้านซูเปอร์มาร์เก็ตจีนให้บริการโทร.เรียกแท็กซี่ ที่เมืองนี้ไม่มีรถแท็กซี่วิ่งหาลูกค้า ต้องโทร.เรียกอย่างเดียว

แวะถ่ายรูปยามราตรีที่ 7 แยกวัดใจเป็นที่ระลึก

ราตรีนี้ยังเยาว์นัก

ตอนกลับมาที่โรงแรมจึงเดินเลี้ยวเข้าไปที่ห้องกาสิโน ทดสอบดวงว่าจะสู้ในบ่อนใหญ่ได้ไหม มีลูกค้าหลายคนในบ่อนแล้ว ที่นี่ไม่เหมือนที่อื่นที่เคยเห็นมาที่จะตรวจตราให้เฉพาะนักท่องเที่ยวเข้ามาเล่น คนพื้นเมืองห้ามเข้า แต่กาสิโนที่อิกัวซูแห่งนี้ฟรีสไตล์ จึงมีคนอาร์เจนติเนียนมาเล่นกันตรึมตลอดตั้งแต่หนึ่งทุ่มจนถึงบ่อนปิดตอน 7 โมงเช้า

ลงทุนแลกชิปไป 2,000 เปโซ นั่งโยกสล็อตอยู่เกือบหนึ่งชั่วโมง ได้กำไรมา 1,000 เปโซ

เอาชนะบ่อนอาร์เจนตินาได้แล้ว ขอเลิก ไปนอนดีกว่า