กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งสูบน้ำช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วม ภาคใต้

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมทรัพยากรน้ำ โดยนายอธิวัฒน์ สุคนธประดิษฐ รองอธิบดีฯ นางสาวอมรรัตน์ พุ่มศรีพักตร์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรม และนายสุทัศน์ นุ้ยเล็ก ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 8 ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าในการสูบน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังชุมชนและพื้นที่เศรษฐกิจ  อ.เมืองสงขลา อ.กระแสสินธุ์  จ.สงขลา และ อ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง (4 ธันวาคม 2563)
นายอธิวัฒน์ สุคนธประดิษฐ รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำเปิดเผยว่า นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีความห่วงใยประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมภาคใต้ และมอบหมายให้หน่วยงานในพื้นที่เร่งช่วยเหลือประชาชน การช่วยเหลือประชาชนในครั้งนี้กรมทรัพยากรน้ำ ได้บูรณาการร่วมกับทาฝง จ.สงขลา จ.พัทลุง และจ.นครศรีธรรมราช ในพื้นที่ จ สงขลานั้น สามารถบรรเทาภาวะน้ำท่วมช่วยเหลือประชาชนได้กว่า 300 ครัวเรือน โดยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 12 นิ้ว สูบน้ำได้ประมาณ 500 คิวต่อชั่วโมง ซึ่งดำเนินการติดตั้งและเริ่มเดินเครื่องตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2563 จนถึงปัจจุบัน
นายสุทัศน์ นุ้ยเล็ก ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 8 ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่าในพื้นที่ อ.กระแสสินธุ์  จ.สงขลา กรมทรัพยากรน้ำ ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 12 นิ้ว จำนวน 2 เครื่อง เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่บ้านทุ่งบัว บ้านทุ่งเมรุ บ้านคลองโหน บ้านม่วงงาม และบ้านโตนดด้วน กว่า 1,000 ครัวเรือน  โดยได้ดำเนินการสูบน้ำล้นตลิ่งจากคลองโหนลงสู่ทะเลหลวงตอนบน (ทะเลสาบสงขลา) รวมทั้งสูบน้ำช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ จ.พัทลุง อ.เมือง บริเวณชุมชนวังเนียง ถนนไชยบุรี เทศบาลเมืองพัทลุ ต.คูหาสวรรค์ 427 ครัวเรือน และบ้านดอนเค็ด ถนนไชยบุรี ต.เขาเจียด 2,472 ครัวเรือน สำหรับพื้นที่จ.นครศรีธรรมราช กรมทรัพยากรน้ำได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ต.ปากพูน อ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อป้องกันน้ำท่วมท่าอากาศยาน
ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ นายอธิวัฒน์ สุคนธประดิษฐ ได้กล่าวเสริมว่า กรมทรัพยากรน้ำ ได้มีระบบแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าในพื้นที่ลาดชันและพื้นที่ราบเชิงเขา ซึ่งระบบ Early Warning  จะช่วยเตือนและแจ้งเหตุประชาชนในพื้นที่ เช่นในวันที่ 2 ธันวาคม 2563 นั้น มีการแจ้งเตือน ถึง 193 ครั้งโดยมีการแจ้งเตือนให้อพยพถึง 137 ครั้ง การแจ้งเตือนล่วงหน้านี้จะช่วยให้ประชาชนปลอดภัยจากการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งนี้ที่ผ่านมา กรมทรัพยากรน้ำได้มีการพัฒนาและปรับปรุง ซ่อมแซมระบบให้มีความพร้อมใช้งานตลอดเวลา และขอให้ประชาชนทุกคนติดตามการแจ้งเหตุ สถานการณ์น้ำ และการพยากรณ์อากาศ จากหน่วยงานภาครัฐอย่างใกล้ชิด