กายวิภาคโครงกระดูกฝูงปลานิล | ปรัชญา พงษ์พานิช : ประกวดเรื่องสั้นมติชนอวอร์ด 2024

ประกวดเรื่องสั้นมติชนอวอร์ด 2024

กายวิภาคโครงกระดูกฝูงปลานิล | ปรัชญา พงษ์พานิช

 

เขาก้าวขึ้นไปยืนหน้าเสาธง เอื้อมมือถอดด้ามไมโครโฟนจากขาตั้ง ลำโพงกรีดเสียงหวีดหอน คุณครูห้องคอมพิวเตอร์กุลีกุลอเข้ามาจัดการแก้ปัญหา เขาอดทนรอจนเสียงรบกวนเงียบหาย รับไมโครโฟนคืนจากคุณครูห้องคอมพิวเตอร์ เขาสูดลมหายใจ จ่อไมโครโฟนใกล้ริมฝีปาก กระแอมไอทดสอบระบบเสียง มุมปากของเขาหยักยิ้ม วางอำนาจ ทว่า เสี้ยววินาทีถัดมา แววตาเขากลับวูบสลด คำสั่งโยกย้าย อาจสร้างเสียงซุบซิบนินทา หากไร้ซึ่งมลทิน มัวหมอง คณะกรรมการสอบสวนพิจารณาความผิดทางวินัยจะมีคำสั่งโยกย้ายเขาจากโรงเรียนขนาดใหญ่ใจกลางตัวเมือง ด้วยเหตุผลใด

หลังจากทีมเซปักตะกร้อของเขาคว้าแชมป์เยาวชนระดับประเทศได้เพียงสัปดาห์เศษ คณะกรรมการสอบสวนมีมติเอกฉันท์ ความใกล้ชิดกับเด็กนักเรียนหญิงบางคน ทำให้ผู้ปกครองรู้สึกไม่สบายใจ ผู้บังคับบัญชามีคำสั่งโยกย้ายเขาไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนขนาดเล็กห่างไกลต่างอำเภอ ซึ่งเขารู้ดี ทั้งหมดคือแผนการกลั่นแกล้ง สร้างอุปสรรคขัดขวางความรุ่งโรจน์ในอาชีพการงานของเขาเสียมากกว่า

ความใกล้ชิดผูกพันกับเด็กนักเรียนหญิงซึ่งกำลังเติบโตเป็นสาวเต็มตัว ใครๆ ก็ทำกัน แต่ไม่เคยมีใครต้องได้รับบทลงโทษรุนแรงเช่นนี้มาก่อน

เขาก้มหน้าเซ็นเอกสารน้อมรับคำบัญชา สู้ไปก็เปล่าประโยชน์ อำนาจเบื้องบนคล้ายลมมรสุม อิทธิพลผลักดันซึ่งกันและกันตลอดเวลา ไม่มีใครแพ้ ใครชนะอย่างยั่งยืน อนาคตของเขาอาจถูกแช่แข็งเนิ่นนานกว่าที่ควร ยินยอมเดินทางไกลไปรับตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนขยายโอกาสขนาดเล็ก เพื่อเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ เสียยังดีกว่าจมปลักอยู่กับความผิดหวัง

เขาสูดลมหายใจอีกครั้ง ตั้งสติ เผยอริมฝีปากเปล่งเสียงผ่านไม่โครโฟน ลำโพงถ่ายทอดเสียงกึกก้อง ชัดถ้อยชัดคำ แววตาเขามุ่งมั่นทอประกาย

กีฬาเซปักตะกร้อ จะต้องกลายเป็นศาสนาประจำโรงเรียนแห่งนี้ แปลงปลูกพืชผักด้านหลังโรงเรียนจะต้องถูกรื้อทิ้ง บ่อเลี้ยงปลาจะต้องถูกกลบฝัง โครงการอาหารกลางวันมีงบประมาณสนับสนุนอย่างเพียงพอ แหล่งวัตถุดิบสำหรับประกอบอาหารในรั้วโรงเรียนไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป พื้นที่บริเวณหลังโรงเรียนทุกตารางนิ้วจะต้องปรับเปลี่ยนเป็นสนามฝึกซ้อมเซปักตะกร้ออย่างน้อยสองสนาม

เพราะฉะนั้น เขาเปล่งเสียงประกาศ นับจากนี้ ขอให้พวกเรา บุคลากรทุกคน จงร่วมแรงร่วมใจ สมัครสมานสามัคคี ช่วยกันนำพาโรงเรียนแห่งนี้ และเหล่านักเรียนทั้งหลายของเรา ทะยานไกลสู่แชมป์เยาวชนกีฬาเซปักตะกร้อระดับประเทศให้จงได้

เสียงปรบมือจากบุคลากรทั้งโรงเรียนกึกก้อง พร้อมเพรียง เขายิ้มปลาบปลื้ม

 

แปดนาฬิกาสามสิบนาที เขาออกคำสั่งปล่อยแถว และประกาศเรียกตัวนักการภารโรงให้ไปพบที่บริเวณหลังโรงเรียนทันทีผ่านลำโพงขยายเสียง

คุณครูวิชานาฏศิลป์บรรจุใหม่คอยตามติดเขาทุกฝีก้าว ขณะเดินสำรวจบริเวณแปลงพืชผักสวนครัว และบ่อเลี้ยงปลากว้างใหญ่ สายตาเขาจ้องผิวน้ำราบเรียบสีเขียวปี๋สกปรก จินตนาการวาดฝัน นักการภารโรงแรงงานฟรีจากภาษีประชาชนกำลังขะมักเขม้นรื้อแปลงปลูกพืชผัก ปรับหน้าดินให้เรียบเสมอ รถสิบล้อบรรทุกดินคันแล้วคันเล่า แล่นผ่านประตูโรงเรียนเทถมดินจนหลุมลึกบ่อเลี้ยงปลาปลาสนาการ เขายิ้มมีความสุข เสาเข็มค่อยๆ ปักลงในเนื้อดินทีละต้น คอนกรีตเหลวไหลบ่าเติมเต็มทั่วอาณาบริเวณหลังโรงเรียน เสาปูนตั้งตระหง่าน รับน้ำหนักโครงหลังคาสอดประสาน แผ่นหลังคาค่อยๆ ครอบทับทีละแผ่น ทีละแผ่น

ภาพฝันกำลังเติมเต็มครบสมบูรณ์ เขาเคลิบเคลิ้มฝันหวาน จนกระทั่งคุณครูวิชานาฏศิลป์เข้ามากระซิบแผ่วเบา รายงานการมาถึงของนักการภารโรงวัยใกล้เกษียณ เขาเหลียวมองพร้อมกวักมือเรียก นักการภารโรงวัยใกล้เกษียณเร่งฝีเท้าเข้ามายืนนิ่งสงบนอบน้อม เขาถามถึงขนาดและความลึกของบ่อเลี้ยงปลาเบื้องหน้า เพื่อคิดคำนวณปริมาตรดินที่ต้องเติมเต็มลงไป

ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เงินเก็บสะสมในบัญชีโรงเรียนช่างน้อยนิด คงต้องรีบระดมทุนจัดงานทอดผ้าป่าสามัคคี และประกาศขอรับบริจาคสนับสนุนจากเครือข่ายผู้บังคับบัญชาซึ่งยังหวังให้เขากลับมาสร้างผลงานอันเอกอุอีกครั้ง

เขาใคร่ครวญวางแผนการ พลางชี้นิ้วสั่งการให้นักการภารโรงจัดการปราบแปลงปลูกพืชผักให้เหี้ยนเตียน ทำงานเท่าที่ทำได้เสียก่อน

แทนที่จะก้มหน้าก้มตาน้อมรับคำบัญชา นักการภารโรงกลับพรั่งพรูเสนอความคิดเห็น อันดับแรกควรสูบน้ำออกจากบ่อเลี้ยงปลาเสียก่อน สำรวจจำนวนประชากรปลานิลที่ยังหลงเหลือ แปลงปลูกพืชผักนั้นเป็นงานง่าย จะทำเมื่อไรก็ได้ ทำงานยากให้ผ่านพ้นไปก่อนเสียดีกว่า เขาขมวดคิ้วไม่สบอารมณ์ เมื่อคุณครูวิชานาฏศิลป์พยักหน้าคล้อยตาม สองเสียงโหวตเอาชนะเขาตามครรลองประชาธิปไตย เขาพยายามสะกดอารมณ์เดือดพล่านไม่ให้แย้มพรายออกมาทางสีหน้า

ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้เตรียมเครื่องสูบน้ำมาได้เลย เขากัดกรามแน่นเสแสร้งน้อมรับมติเสียงส่วนใหญ่ นักการภารโรงก้มหน้ารับคำสั่ง เขาจดบันทึกกิริยาแข็งข้อกระด้างกระเดื่องทดไว้ในใจ

 

เช้าวันรุ่งขึ้น เขาแล่นรถเข้าไปในโรงจอดประจำตำแหน่ง คุณครูวิชานาฏศิลป์ก้าวเข้ามาเอื้อมมือเปิดประตูรถบริการ กิริยาเพรียบพร้อมสมเป็นกุลสตรี เขาเอ่ยคำทักทาย และถามหานักการภารโรง คุณครูวิชานาฏศิลป์ยิ้มสวยบอกกล่าว นักการภารโรงกำลังรอเขาอยู่ที่ริมขอบบ่อเลี้ยงปลา เขาลงจากรถรีบเร่งฝีเท้าตรงไปยังอาณาบริเวณหลังโรงเรียน โดยมีคุณครูวิชานาฏศิลป์คอยติดตามไม่ห่าง

เครื่องสูบน้ำประจำตำแหน่งอยู่ก่อนแล้ว นักการภารโรงกระมิดกระเมี้ยนขอเบิกเงินสำหรับน้ำมันเชื้อเพลิง เขาล้วงกระเป๋ากางเกง หยิบเงินสดส่วนตัวยื่นส่งให้ เสียงเครื่องยนต์มอเตอร์ไซค์เก่าแก่แผดลั่นไกลห่าง เขายืนกอดอกกวาดสายตาวาดภาพสนามฝึกซ้อมเซปักตะกร้อในฝัน ซึ่งกำลังจะกลายเป็นจริงในอีกไม่ช้า คุณครูวิชานาฏศิลป์ขยับขึ้นมายืนขนาบเคียงข้าง เขาเหลียวมองคมสันจมูกรับเรียวปากบาง กลิ่นน้ำหอมแผ่วเบาเจือจางในอากาศ

คุณครูวิชานาฏศิลป์หันมาสบตา ลักยิ้มปรากฏเขินอาย

 

เขาอดใจรอเพียงไม่นาน เสียงเครื่องยนต์สูบน้ำก็คำรามดังก้อง ควันสีดำพวยพุ่งจากท่อระบายไอเสีย สายน้ำเขียวปี๋ทะลักพรั่งพรู เจิ่งนองท้องทุ่งนาแห้งแล้งหลังฤดูเก็บเกี่ยว ซึ่งมีอาณาบริเวณกว้างใหญ่ติดกับรั้วลวดหนามโรงเรียน ภาพฝันค่อยๆ ปะติดปะต่อชิ้นส่วน ไม่นานนักหรอก เขาจะได้หวนคืนสู่สถานะอันคู่ควร เขาพลิกข้อมือจับจ้องหน้าปัดนาฬิกา จวนเจียนเวลาเคารพธงชาติเข้ามาทุกขณะ เขากำชับให้นักการภารโรงอยู่เฝ้าคอยจนกว่าบ่อเลี้ยงปลาจะแห้งขอด ก่อนผละจากไปพร้อมคุณครูวิชานาฏศิลป์

เสียงสัญญาณหมดคาบเรียนแว่วดังเข้ามาภายในห้องผู้อำนายการ เขาเหลือบมองนาฬิกาลูกตุ้มโบราณ ยืดเหยียดบิดขี้เกียจ อ้าปากหาวหวอด ก่อนทรงตัวลุกจากเก้าอี้ผู้บริหาร หยิบรีโมตปิดเครื่องปรับอากาศ ก้าวออกจากห้องผู้อำนวยการเย็นเฉียบ ลัดเลาะไปตามระเบียงไม้หน้าชั้นเรียน แว่วเสียงนักเรียนเจื้อยแจ้วแข็งขันท่องบทอาขยาน บันไดไม้พาไต่ลงไปยังโรงครัว คุณครูผู้ไม่มีคาบสอนกำลังขะมักเขม้นตระเตรียมอาหารกลางวันสำหรับเด็กนักเรียน เขาหยิบถาดหลุมพร้อมช้อนส้อมจากชั้นวาง กาแฟดำเข้มข้นยามเช้าจากบ้านพักในตัวเมืองไม่เพียงพอให้อิ่มท้อง เขาหยิบขนมจีนใส่ถาดหลุมห้าจับ คุณครูวิชาประวัติศาสตร์เปิดหม้อตักแกงเขียวหวานร้อนระอุราดรด

ท่านผู้อำนวยการไม่จำเป็นต้องลงมาด้วยตัวเองเลย เสร็จจากงานตรงนี้ ดิฉันจะนำอาหารกลางวันขึ้นไปให้อยู่แล้ว น้ำเสียงคล้ายน้อยเนื้อต่ำใจ

เขาแอบลอบอมยิ้ม ภาคภูมิ อำนาจและวาสนายังคงอยู่ แม้แต่ในโรงเรียนขยายโอกาส ทุรกันดาร และห่างไกลจากความเจริญ

 

หลังจากอิ่มหนำมื้อกลางวัน เขาเดินทอดน่องผ่อนคลายกลับไปยังบริเวณหลังโรงเรียน สายตาของเขาทอดมอง ระดับน้ำลดลงไปเพียงน้อยนิด กว่าบ่อเลี้ยงปลากว้างใหญ่จะตื้นเขิน อาจต้องผ่านเวลาล่วงเลยจนมืดค่ำ เขาล้วงสองมือในกระเป๋ากางเกงขายาวสีกากี ใคร่ครวญ ก่อนตัดสินใจพิมพ์ข้อความส่งในไลน์กลุ่มบุคลากรโรงเรียน ขอแรงคุณครูผู้ชายทุกคน สละเวลาช่วยกันอยู่เฝ้าบ่อเลี้ยงปลาร่วมกันหลังโรงเรียนเลิก คุณครูวิชาพลศึกษาเรียกร้องให้บุคลากรทั้งหมดร่วมแรงร่วมใจจัดงานสังสรรค์ต้อนรับผู้อำนวยการโรงเรียนคนใหม่เสียเลยในคราวเดียว บุคลากรทุกคนต่างส่งข้อความพร้อมสนับสนุน มติเป็นเอกฉันท์ตามครรลองประชาธิปไตย

เขาพริ้มตาหลับ ปลาบปลื้ม ภาพฝันของเขากำลังเป็นรูปเป็นร่างทีละนิด โดยไร้ซึ่งแรงเสียดทานขัดขวาง

บ่อเลี้ยงปลาตื้นเขินลงเรื่อยๆ แสงฟ้าโพล้เพล้ริบหรี่ นักการภารโรงขะมักเขม้นจัดการโยงสายไฟจากตัวอาคารเรียนไม้เสื่อมเก่า เชื่อมต่อหลอดไฟให้ความสว่างริมขอบบ่อเลี้ยงปลา คุณครูวิทยาศาสตร์กุลีกุจอต่อราวดวงไฟประดับประดาระยิบระยับลานสังสรรค์ โต๊ะเรียนหนังสือกลายเป็นภาพต่อจิ๊กซอว์ขยายภาพโต๊ะร่วมรับประทานอาหารขนาดใหญ่

เขานั่งบนเก้าอี้นักเรียนหัวโต๊ะ คุณครูนาฏศิลป์ยิ้มหวานประคองแก้วเบียร์เย็นเฉียบนำมาบริการ บุคลากรทุกคนพร้อมหน้า คุณครูวิชาภาษาไทยและคุณครูวิชาประวัติศาสตร์เข้ามานำเสนอรายการอาหารสำหรับค่ำคืนนี้ ต้มยำหัวปลานิล ปลานิลทอดกระเทียม และปลานิลนึ่งมะนาว เขาพยักหน้ารับทราบ น้ำลายแตกสอในช่องปาก

นักการภารโรงนำคุณครูผู้ชายลงลุยโคลนเลนจับปลา เสียงปลานิลดึกดำบรรพ์ดีดสะบัดหางดิ้นพล่านอลเวง สายน้ำกระเซ็นเหม็นกลิ่นสาบโคลน เขาหยักยิ้มมุมปาก มีความสุข ยกแก้วเบียร์ขึ้นจิบ สายตาพิจารณาเรียวขาคุณครูวิชานาฏศิลป์ไล่สูง จนกระทั่งสบสายตาเขินอาย

นักการภารโรงตะเกียกตะกายกลับขึ้นมารายงาน จากการคาดคะเนยังคงมีปลานิลเหลืออยู่มากกว่าห้าสิบตัว ขนาดแต่ละตัวล้วนใหญ่ยักษ์ ก่อนขอตัวไปรับปลานิลบางส่วนขึ้นจากริมขอบบ่อ เพื่อนำมาเป็นวัตถุดิบประกอบอาหาร เขาประคองวางแก้วเบียร์แผ่วเบา พลางครุ่นคิด ควรใช้วิธีการใดกำจัดปลานิลไร้ประโยชน์เหล่านี้ดี

คุณครูวิชาหน้าที่พลเมืองหนุ่มใหญ่รับช่วงแบกภาระหน้าที่เพชฌฆาตสังหาร สันมีดอีโต้ทุบหัว ปลานิลดิ้นพล่านขาดใจตาย ตัวแล้วตัวเล่า คุณครูสุขศึกษารวบรวมซากปลานำไปล้างทำความสะอาด ละเมียดละไมขอดเกล็ด คมมีดเฉือนผ่าท้องควักไส้ ตัดครีบ ตัดหาง ตัดหัว เลือดแดงฉานไหลนองสะท้อนแสงระยิบระยับ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงเรียนฝ่ายปกครอง ควบคุมนักการภารโรงก่อไฟติดเตา

เขายกแก้วเบียร์ขึ้นจิบ เพลิดเพลินจับตาผู้ใต้บังคับบัญชากรำงานขะมักเขม้นแข็งขัน อย่างมีความสุข

 

รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการกล่าวต้อนรับเขาอย่างเป็นทางการ หลังจากรายการอาหารพร้อมวางบนโต๊ะ ทุกคนร่วมยกแก้วจิบดื่มเฉลิมฉลอง เขาซาบซึ้งกล่าวคำขอบคุณ พรุ่งนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาอนุญาตให้ทุกคนดื่มกินตามอัธยาศัย พร้อมควักเงินส่วนตัวสำหรับเบียร์อีกสองลังส่งให้นักการภารโรงไปจัดหา

ปลานิลนึ่งมะนาวเปิดเผยธาตุแท้ฝีมือการปรุงอาหารของคุณครูวิชาประวัติศาสตร์ ปลานิลทอดกระเทียมหอมกรุ่นร้อนระอุภายใน เนื้อสีขาวสดฉ่ำหวานไม่หยาบกระด้างแห้งกร้านอย่างที่คิด น้ำซุปต้มยำหัวปลาเรียกฟื้นคืนชีวิต กับแกล้มเลิศรส พร้อมเครื่องดื่มเข้าสังคม เหมาะสมกับบรรยากาศซึ่งอวลอุ่นไปด้วยมิตรภาพเช่นนี้

เศษซากก้างกระดูกปลานิลถักทอสอดประสานโครงข่ายจนคล้ายภูเขากระดูกปลานิลขนาดย่อม มีปลานิลสละชีวิตไปทั้งสิ้นสิบห้าตัว เขาอิ่มเอมเกินกว่าจะกลืนอะไรได้อีก สายตาเขาจับจ้องกองกระดูกเศษซากปลา คงไม่มีใครเสนอตัวลุยโคลนเลนลงไปจับปลาที่เหลือ ความสำเร็จลุล่วงย่อมเรียกร้องความเสียสละอยู่เสมอ

เขากระดิกนิ้วเรียกนักการภารโรง สั่งกำชับ เช้าวันจันทร์ ทั่วอาณาบริเวณหลังโรงเรียนจะต้องเก็บกวาดให้เรียบร้อย โยนภูเขากระดูกฝูงปลานิลทั้งหมดลงไปที่ก้นบ่อรอการกลบฝังครั้งใหญ่

นักการภารโรงพยักหน้ารับทราบ เมามายอ้อแอ้พร่ำเพ้อถึงเรื่องบาปบุญคุณโทษไร้สาระ

เขาลุกขึ้นยืนประกาศขอตัวกลับ คุณครูวิชานาฏศิลป์เข้ามาประคองพาเขากลับไปยังรถยนต์ส่วนตัวในโรงจอดรถประจำตำแหน่ง โนมเนื้อแนบชิด

เขาหวนระลึกคิดถึงเด็กนักเรียนหญิงคนนั้น อ้อมแขนของเขาก่ายกอดเอวขอดกลมกลึง

 

หลอดนีออนขาวโพลนเหนือโรงจอดรถเพียงหลอดเดียวให้กำลังแสงสว่างสลัวราง เขาปรับพนักพิงเอนราบ คุณครูวิชานาฏศิลป์ถลกกระโปรงทรงแคบสั้นเหนือเข่าสีกากี พาร่างขึ้นคร่อม จับอวัยวะของเขาจดจ่อก่อนสอดใส่ โยกขยับเพียงห้านาที เขาล้นทะลักสุขสม

เขากระซิบเสียงแผ่วเบา คุณครูเคยเตะตะกร้อไหมครับ

คุณครูวิชานาฏศิลป์ส่ายหน้า ให้ผมไปส่งไหม คุณครูวิชานาฏศิลป์ส่ายหน้าอีกครั้ง รถของดิฉันจอดอยู่ที่สนามฟุตบอลค่ะ ท่านผู้อำนวยการขับรถกลับบ้านดีๆ นะคะ ดิฉันเป็นเป็นห่วง พบกันอีกครั้งวันจันทร์ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ ราตรีสวัสดิ์เช่นกันครับ

คุณครูวิชานาฏศิลป์โน้มร่างประทับริมฝีปากอ่อนโอนที่ริมฝีปากของเขา ก่อนเปิดประตูลงจากรถ

เขาเสียบกุญแจสตาร์ตเครื่องยนต์ คุณครูวิชานาฏศิลป์พนมมือไหว้นอบน้อม ล้อยางเบียดบดบนพื้นผิวถนนลูกรังเชื่องช้า กระจกส่องหลังยังคงฉายภาพงานเลี้ยงสังสรรค์ รื่นเริง ยืดเยื้อยาวนาน เขาเหยียบฝ่าเท้าเร่งความเร็ว ม่านฝุ่นหนาทึบฟุ้งกระจายแผ่ปกคลุมเบื้องหลัง ภาพบนกระจกส่องหลังจึงค่อยๆ เลือนหายไปในที่สุด

อีกไม่นานนักหรอก เขาจะได้กลับคืนสู่สถานะอันคู่ควร เขาคิดพลางประคองสติควบคุมรถฝ่าความมืดมิด ตรงไปบนทางเบื้องหน้า เพื่อกลับไปให้ถึงบ้านพักในตัวเมืองได้อย่างปลอดภัย… •