จดหมาย/ฉบับประจำวันที่ 3-9 สิงหาคม 2561

จดหมาย

 

กวีตกค้าง (ข้ามเดือน)

 

สุนทรภู่ครูกลอนท่านสอนสั่ง
บทกวีมีพลังอย่างล้นเหลือ
เรื่องราวอันหลากหลายที่จุนเจือ
ทันสมัยอยู่ทุกเมื่อเอื้อ…วรรณกรรม

232 ปีชาตกาลผ่านบรรจบ
ทั้งศรัทธา ทั้งเคารพ ด้วยดื่มด่ำ
เป็นความจริง ยิ่งแท้ ความทรงจำ
เมื่อวัยเยาว์ เรียนร่ำ ลำนำกลอน

สังคมไทยวันนี้ มีปัญหา
มองทางไหน รกลูกตาดั่งภาพหลอน
เป็นสยาม(ไม่)ยิ้ม ทิ่มนาคร
เจอแต่คนปัญญาอ่อนเห็นแก่ตัว

หากวันนี้ยังมีสุนทรภู่
จิตใจท่านคงหดหู่ ลางสลัว
เรื่องราวอันมากมาย หน่ายน่ากลัว
สะท้อนภาพ คนชั่ว ปล้นแผ่นดิน

คนที่ชอบทำดีย่อมถือโกรธ
ไม่อยากให้ “มัน” ลิงโลดโคตรใจหิน
ช่างเลวร้ายเกิดมาเพื่อ… “โกงกิน”
ใครติฉินกรูไม่สนหน้าทนแท้

อยากเขียนกลอนเก่งกวีได้อย่างท่าน
แค่ มโน นึกฝัน ใช่ตอแหล
จึงเพี้ยน พ่น บ่น บ้า สาระแน
เวรแท้ๆ สะดุ้งตื่น “ขุนหมื่น” ลา
จ้อ นินจา
กวีนอกสถาบัน

จ้อ นินจา บอกว่า
เขียนมาเพื่อรำลึกวันสุนทรภู่ กวีเอกระดับโลก
26 มิถุนายน 2561
ผ่านมาร่วมเดือนแล้ว
แต่คงต้องบอกว่า
“แนวรบสยาม เหตุการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง”
จิตใจท่าน (สุนทรภู่) คงหดหู่ ลางสลัว
ต่อไป…
ป.ล. : เปิดตะกร้าจดหมาย เจอจดหมาย “ค้างปี”
ของ สมบัติ ตั้งก่อเกียรติ
เขียนมาเพื่อรำลึกวันสุนทรภู่ 26 มิถุนายน เช่นกัน
แต่เป็นปี 2560
ดูสิว่า วันนี้และวันนั้น
ที่ว่า เหตุการณ์ไม่เปลี่ยนแปลงจากปี 2561
ไม่เปลี่ยนตรงไหน

กวีตกค้าง (ข้ามปี)

ท่านผู้อ่านนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์คงทราบศึกในวงการกวีจะกระวาด อันเป็นข่าวใหญ่โตแล้วนะ
คือวันที่ 26 มิถุนายน 2560 ซึ่งเป็นวันสุนทรภู่
ปรากฏว่า “สุนทรตู่” เขียนกลอนผิดๆ ถูกๆ (ผิดฉันทลักษณ์ ไม่มีสัมผัสระหว่างบท สัมผัสใน สัมผัสซ้ำ ย้ำคำ ย้ำความวกไปวนมา ที่มิใช่เล่นคำเล่นความอื่นๆ)
(เพราะคง) ใช้เวลาเขียนรวดเร็วมาก เชื่อว่า ภิญโญ ศรีจำลอง เห็นคงถึงกับร้องไห้ก็แล้วกัน
ด้วยหน้ากระดาษที่เขียนกลอนของภิญโญ ไม่มีรอยขีดฆ่าเลย เสมือนกลอนคัดลอกมิปาน
ต่อมามีกวีเขียนให้ 3 บท พร้อมแก้ไขแนะนำ
ทำให้อีกกวีว่าไม่เหมาะสม
กวีที่สามต้องออกมาปกป้องกวีแรก
ส่วนกวีที่สี่ ก็ออกมาเป็นคู่วิวาทะกับกวีที่ 1 ชนิดวรรคต่อวรรค มันหยด
จึงขอสื่อ (ด้วยบทกวี) ดังนี้
แด่…กวีสิงห์ผู้ยิ่งใหญ่

บทกวีอ่านที่ไหนได้ทั้งนั้น
อย่าอ่านกันเปะปะข้างถนน
เห็นแล้วอาจขายหน้าประชาชน
มันสุดทน ค่ำชำเรา เช้าชำรุด

พิศวง “วงกวีกระวาด” วิ่น
ชอบอ้างฟ้าหากินไม่สิ้นสุด
เสียศักดิ์ศรีที่เกิดมาเป็นมนุษย์
ข้าขอทุดสักคำให้หนำใจ

บทกวีชี้ทางข้างคนผิด
พันธมิตรกวีสิงห์ผู้ยิ่งใหญ่
พฤติกรรมสำแดงเปลี่ยนแปลงไป
ล้ม “ประชาธิปไตย” ได้ลงคอ

เกิดอะไรขึ้นหรือช่วยสื่อสาร
ไยรับใช้เผด็จการวานบอกต่อ
เหมือนอดอยากปากแห้งแกล้งสอพลอ
น้ำลายสอลื่นไหลจนใจลอย

กับเศษเงินเอ็นจีโอโอ้อนาถ
ทำกวีแห่งชาติเป็นทาสถ่อย
หักหาญใจไทยทั่วหล้าน้ำตาปรอย
กวีเล็กกวีน้อยพลอยอาดูร

มีปัญญาน่าจะรู้อยู่เต็มอก
ขุมนรกตรงหน้าจักหาสูญ
แม้วันนี้มีทรัพย์นับพอกพูน
คือกองกูณฑ์กิเลสถมเศษคน
สมบัติ ตั้งก่อเกียรติ
กวี ศรีอยุธยา

ขอย้ำว่า นี่เป็นจดหมายที่สมบัติ ตั้งก่อเกียรติ
เขียนไว้ตั้งแต่ปี 2560
ถูกเก็บไว้ในตะกร้า เพราะไม่อยากไป “สุมฟืน” ให้กวี (ขอสงวนชื่อ) กระตื้บกันหนักหน่วงยิ่งขึ้นไปอีก (ฮา)
เพราะ สุนทร “ตู่” แท้ (ฮา-ฮา)
และท่านผู้นี้แหละ ยังมีบทบาทสำคัญในปี 2561 และคงจะต่อไปอีกนาน
ซึ่งก็เพราะความต้องการอยู่ “นานๆ” นี้แหละ
คงจะไม่ใช่วงการกวี หากแต่นำไปสู่การวิวาทในอีกหลายวงการ?!?
โดยเฉพาะเมื่อยิ่งใกล้การเลือกตั้ง
คงชุลมุนพอสมควร
แต่เลือกตั้ง ดีกว่าไม่เลือกตั้งนะจ๊ะ (ไม่ฮา)
ด้วยอย่างน้อยยังเป็นความหวังเลือนๆ ว่า
การเลือกตั้งที่มีขึ้น จะทำให้ “จ้อ นินจา”
ไม่ต้องย้อนกลับมาเขียนกวีในวันสุนทรภู่ในปี 2562 หรือต่อๆ ไปอีกว่า
“หากวันนี้ยังมีสุนทรภู่
จิตใจท่านคงหดหู่ ลางสลัว”