หมอชลน่าน ชี้ “ธรรมนัส” จะประกาศกวาดเก้าอี้ก็ประกาศได้ เพราะพท.ก็ประกาศจะแลนด์สไลต์ แต่พท.จะไม่ประมาท

วันที่ 30 ธันวาคม 2564 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ประกาศจะกวาดที่นั่งส.ส.ในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เข้มแข็งของพรรคพท. พร้อมระบุจะไม่มีการเกรงใจผู้ใหญ่คนใดทั้งสิ้น ว่า ในการประกาศทิศทางของการเมืองหรือการเลือกตั้งเป็นเรื่องธรรมดาที่ใครจะประกาศก็ประกาศได้ พท.เรายังประกาศ แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดินเลย

อย่างไรก็ตาม การที่ ร.อ.ธรรมนัสประกาศว่าจะกวาด ส.ส.ภาคเหนือ ถามว่ากระทบ พท.ไหม ก็ต้องยอมรับว่ากระทบแน่นอน เพราะเป็นพื้นที่ที่เรามีความเข้มแข็งอยู่ ขนาดการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ด้วยการเลือกตั้งแบบนั้น ระบบการเลือกตั้งแบบนั้นจะทำให้คะแนนเราลดลง แต่ก็ถือว่าได้สัดส่วนผู้แทนเมื่อเทียบกับจำนวนที่นั่งแล้วถือว่าเยอะที่สุดอยู่

“ทั้งนี้ พท.เราไม่ได้ประมาทในสิ่งที่เขาได้ประกาศ และยิ่งทำให้พวกเราต้องทำงานหนักมากยิ่งขึ้นในการที่จะบอกกับพี่น้องภาคเหนือว่า พท.เท่านั้นที่จะเป็นความหวัง และเป็นโอกาสของพี่น้องภาคเหนือในการมีชีวิตใหม่ และบุคคลกรที่ทำงานในพื้นที่ของเราเองก็เป็นคนที่ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจ และเข้าถึงพี่น้องประชาชนได้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว ต่อมาคือ ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป พี่น้องประชาชนเขาหวังว่าชีวิตเขาต้องฟื้น เขาต้องมีสิ่งที่ดีกว่า 7 ปีที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลจากฝั่ง ร.อ.ธรรมนัสย่อมมีข้อเปรียบเทียบที่ชัด ดังนั้น การที่เขาจะไปคะแนนให้ ร.อ.ธรรมนัส เขาก็คงคิดหนัก ว่าจะได้ จะอยู่ และจะเป็นอย่างไร” นพ.ชลน่านกล่าว

นพ.ชลน่าน กล่าาวอีกว่า ในการเลือกตั้ง พท. เรายึดมั่นในวิถีทางของประชาธิปไตย เราไม่มีอำนาจรัฐ ไ่มีอำนาจการจัดการ ไม่มีอำนาจเงินเหมือนกับพรรคอื่นๆเขา เราก็ต้องทำให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นในวิถีประชาธิปไตยให้ได้ แล้วก็แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่เขานำมาแลกเปลี่ยนเพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนนั้นแก้ปัญหา หรือเป็นโอกาส เป็นความหวัง รวมถึงเป็นชีวิตใหม่ของพี่น้องประชาชนได้จริงหรือไม่ อย่างไร เป็นสิ่งที่เราต้องชี้ให้เห็น

นอกจากนี้ เราจะทำอย่างไรเพื่อป้องกันกลโกง และการใช้อำนาจรัฐ อำนาจเงินที่ไม่ชอบ ทั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าเขาจะโกง แต่หมายความว่า เราจะทำอย่างไรให้ไม่เกิดกระบวนการเหล่านี้เพื่อให้คะแนนที่ออกมาบริสุทธิ์ยุติธรรมอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องทำงานอย่างเข้มขึ้นด้วย