เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างกระทรวงสาธารณสุขแคนาดาแถลงว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ในประเทศแคนาดา ไหลเกิน 5,000 รายแล้วในวันอังคาร ( 12 พ.ค.) ที่ผ่านมา โดยมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 2.9 เปอร์เซ็นต์ มาอยู่ที่ 5,049 ราย จากเมื่อวันจันทร์ (11 พ.ค.) ที่ยอดผู้เสียชีวีตอยู่ที่ 4,906 ราย แต่ยังถือเป็นจำนวนผู้เสียชีวิตรายวันที่น้อยที่สุดของแคนาดา ที่นับเป็นชาติที่ 11 ที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 เกินกว่า 5,000 ราย

ด้านนายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดากล่าวเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถานดูแลผู้สูงอายุในประเทศครั้งใหญ่ หลังจากผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในแคนาดามากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ เป็นผู้ที่อยู่ในสถานดูแลผู้สูงอายุ รวมถึงสถานดูแลผู้สูงอายุในรัฐออนแทรีโอและรัฐควิเบกที่พบการระบาดหนักของโควิด-19

นายกรัฐมนตรีแคนาดากล่าวว่า เป็นโศกนาฏกรรมอันน่าเศร้าที่ในสถานดูแลผู้สูงอายุทั่วประเทศ เจ้าหน้าที่ต้องทำงานหนักมากจนเกินไปและบุคลากรยังไม่เพียงพอ ซึ่งเป็นความท้าทายรุนแรงที่สถานดูแลผู้สูงอายุเหล่านี้กำลังเผชิญ รัฐบาลกลางจะต้องให้ความช่วยเหลือแต่ละรัฐในการแก้ปัญหาท้าทายต่างๆ เหล่านี้อย่างยั่งยืน

นายกรัฐมนตรีแคนาดากล่าวอีกว่า แคนาดากำลังมองหามาตรการที่เข้มข้นขึ้นเพื่อความมั่นใจว่าไวรัสโคโรนาจะไม่แพร่ระบาดจากผู้คนที่เดินทางข้ามแดนไปมากับประเทศสหรัฐอเมริกาด้วย แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ ทั้งนี้แคนาดาและสหรัฐได้ทำข้อตกลงในการห้ามการเดินทางข้ามแดนที่ไม่จำเป็นระหว่างกันเป็นการชั่วคราว ซึ่งกำลังจะสิ้นสุดลงในวันที่ 21 พฤษภาคมนี้

รายงานล่าสุดระบุว่าแคนาดามีจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมอยู่ที่ 71,157 ราย และมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 5,169 ราย