ลุ้น”คิงส์เกตฯ”ขายเหมืองอัคราให้เอกชนไทย ยุติฟ้องอนุญาโตฯ

ลุ้น”คิงส์เกตฯ”ขายเหมืองอัคราให้เอกชนไทย ยุติฟ้องอนุญาโตฯ

รายงานข่าวจากอุตสหากรรมเหมืองแร่ แจ้งว่า ขณะนี้มีกระแสข่าวว่า บริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดตเต็ด ลิมิเต็ด ประเทศออสเตรเลีย บริษัทแม่ของบริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด(มหาชน) ผู้ประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำชาตรี มีความต้องการขายกิจการเหมืองแร่ทองคำชาตรี ในพื้นที่รอยต่อจ.พิจิตร จ.พิษณุโลก และจ.เพชรบูรณ์ หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตามม.44 สั่งระงับการประกอบการกิจการเหมืองแร่ทองคำทั่วประเทศ ทำให้เหมืองแร่ทองคำชาตรี ต้องระงับการประกอบกิจการไปตั้งแต่ปี 2560 จนนำมาสู่การฟ้องร้องรัฐบาลไทย และขั้นตอนอยู่ระหว่างการเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของอนุญาโตตุลาการในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ที่ประเทศสิงคโปร์ ล่าสุดมีนักลงทุนไทยที่อยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมพลังงานรายหนึ่ง สนใจที่จะซื้อกิจการเหมืองแร่ทองคำชาตรี ต้องติดตามต่อไปว่า การเจรจาซื้อขายครั้งนี้สำเร็จหรือไม่

“ที่คิงส์เกตต้องการขายเหมืองแร่ทองคำชาตรี เพราะต้องการจบปัญหาในเรื่องนี้ ถ้าทำธุรกิจต่อไป ตามพระราชบัญญัติแร่ใหม่ ก็อาจถูกต่อต้านจากคนในพื้นที่อีก ตอนนี้ก็ต้องวัดใจทางคิงส์เกตดูว่า ถ้ามีคนสนใจซื้อจริง จะตัดสินใจขายหรือไม่ ถ้าขายได้แล้ว  จะเดินหน้าฟ้องร้องรัฐบาลไทยต่อหรือเปล่า”รายงานข่าวระบุ

รายงานข่าวแจ้งว่า มีความเป็นได้ว่าถ้าขายได้แล้ว ทุกอย่างอาจจะจบ ไม่มีการฟ้องร้องต่อ ส่วนราคาตอนนี้ยังไม่มีการเปิดเผยออกมาว่า ราคาขายประมาณเท่าไร หากมีการซื้อขายกันแล้ว ตามขั้นตอนถ้าทางผู้ประอบการรายใหม่ซื้อไปจะเข้าสู่กระบวนการขอประกบกิจการตามพ.ร.บ.แร่ฉบับใหม่ ซึ่งมีความเข้มงวดในเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ถ้าได้รับอนุญาตสามารถประกอบกิจการต่อได้ทันที

รายงานข่าวระบุว่า ที่ผ่านมาทางบริษัท อัครา รีซอร์สเซสฯ ได้ประเมินตัวเลขความเสียโอกาสของเหมืองอัครา โดยวัดจากปริมาณสำรองแร่ทอง 8.9 แสนออนซ์ คิดเป็นวงเงินปริมาณ 37,020 ล้านบาท และเงิน 8.3 ล้านออนซ์ คิดเป็นวงเงินประมาณ 3,984 ล้านบาท ซึ่งสามารถผลิตได้ในช่วง 8-10 ปีข้างหน้า รวมมูลค่าทั้งสิ้น 41,004 ล้านบาท  แต่ไม่ได้เป็นตัวเลขที่จะมีการฟ้องร้องรัฐบาลแต่อย่างใด เป็นการชี้ให้เห็นว่า ทางบมจ.อัคราฯ ยังมั่นใจว่า พื้นที่นี้ยังมีแร่ทองคำเหลือยู่ที่ยังไม่ขุดขึ้นมา

แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสหากรรม กล่าวว่า ขณะนี้กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.)  อยู่ระหว่างการเตรียมตัวเข้าสู่กระบวนการพิจารณาเบิกความต่อหน้าคณะอนุญาโตตุลาการ ที่สิงคโปร์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งการไต่สวนมีหลายประเด็น คาดว่าจะมีการเบิกความอีกครั้งในเดือนพฤษภาคม 2563 และตามกระบวนการไต่สวนต่างๆ ต้องใช้เวลาระยะหนึ่งกว่าจะได้ผลสรุป ระหว่างนี้จึงมีเวลาเจรจากับคิงส์เกตฯ สำหรับข้อมูลที่ต้องเตรียมไปแก้ต่างกับคณะอนุญาโตตุลาการ อาทิ รายละเอียดข้อกฎหมายของไทย รายละเอียดขั้นตอนการดำเนินการที่ผ่านมาของไทย หลังที่ผ่านมาทั้ง 2 ฝ่ายส่งข้อมูลไปให้คณะอนุญาโตฯแล้วตามขั้นตอนและมีการแก้ต่างกันจนครบ 2 ครั้ง ขั้นตอนต่อไปจึงเข้าสู่กระบวนการเบิกความต่อหน้าคณะอนุญาโตฯ