ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 19 - 25 เมษายน 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | หลักศิลากลางน้ำเชี่ยว |
ผู้เขียน | มุกดา สุวรรณชาติ |
เผยแพร่ |
นางสงกรานต์ปีนี้ ทรงนามว่า มโหธรเทวี พระหัตถ์ขวาทรงจักร พระหัตถ์ซ้ายทรงตรีศูล คำทำนายช่วงท้ายบอกว่า บ้านเมืองจะเกิดยุทธสงคราม จะฆ่าฟันกัน จะนิราศจากกัน จะฉิบหายเป็นอันมากแล
ดูแล้วก็คงจะเป็นจริงเพราะสงครามที่เกิดขึ้น 3 แห่ง ยังไม่มีท่าทีว่าจะสงบ ดูจากอาวุธที่ใช้ในยุคนี้แสดงว่าพระหัตถ์ขวาที่ทรงจักรนั้นก็คือโดรน และพระหัตถ์ซ้ายก็คือขีปนาวุธ
สงครามแรกคือการที่รัสเซียบุกเข้ายึดยูเครนแต่ทำไม่สำเร็จในระยะสั้น กลายเป็นสงครามยืดเยื้อ ถ้าไม่ยอมเจรจากันให้ยุติ เกมแบบนี้สามารถยืดเยื้อได้ยาวนานแบบสงครามเวียดนาม
อีกสงครามหนึ่งก็คือที่ฉนวนกาซาซึ่งปัจจุบันไม่ใช่เฉพาะอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสแล้ว แต่มีท่าทีว่าจะขยายไปยังประเทศรอบข้าง
และสงครามที่ 3 ก็คือสงครามภายในประเทศพม่า ซึ่งรัฐบาลเผด็จการทหารต้องต่อสู้กับกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ และกลุ่มผู้รักประชาธิปไตยซึ่งไปตั้งกองกำลังต่อสู้ด้วยอาวุธ
ทั้ง 3 สงครามสร้างผลกระทบกับประชาชน โดยเฉพาะสงครามที่มีผลต่อราคาน้ำมัน สำหรับประเทศไทยได้รับผลกระทบทั้ง 3 สงคราม
ผู้นิราศ ซึ่งคงหมายถึงผู้ลี้ภัยจากสงครามจะมีมากมาย
สงครามในพม่าจะจบจริงหรือ?
ภาพฝันที่วาดกันไว้ก็คือฝ่ายรัฐบาลเผด็จการทหารพม่าแพ้และมีการตั้งรัฐบาลใหม่ คล้ายกับที่ออง ซาน ซูจี ชนะเลือกตั้ง แต่ทีมวิเคราะห์ของเราคาดว่าอาจจะไม่เป็นไปแบบนั้น
จากภาพรวมสถานการณ์ปัจจุบัน ประเมินได้สองรูปแแบบ
1. ถ้าไม่มีการแทรกแซงจากประเทศมหาอำนาจ ฝ่ายรัฐบาลทหารพม่าซึ่งมีประชาชนสนับสนุนน้อยมากจะต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในระยะเวลา 1-2 ปี สงครามแม้จะยืดออกไปแต่ก็จะไม่ขยายขนาดและความรุนแรง แต่ที่อาจจะต้องช้าเล็กน้อยก็เพราะว่าฝ่ายต่อต้านรัฐบาลไม่มีอาวุธที่จะเข้าไปเผด็จศึก
2. ถ้ามีการแทรกแซงโดยมีมหาอำนาจสนับสนุน การสู้รบจะรุนแรงขึ้นและไม่จบลงง่ายๆ
แต่ทั้งสงครามสองรูปแบบจะจบลง โดยมีพื้นที่ยึดครองถูกแบ่งเป็นส่วนๆ ใหญ่เล็กตามความเข้มแข็งของแต่ละกองกำลัง ไม่ว่าจะจบแบบเร็วหรือช้า
ล่าสุดเมืองเมียวดีก็ถูกตีแตกจากกำลังผสมของฝ่ายต่อต้านสภาพการรบแบบนี้ทำให้หลายคนคาดการณ์ไว้ว่าสงครามอาจจะสิ้นสุดลงในเร็ววัน โดยทหารพม่าจะพ่ายแพ้
แต่นั่นยังเร็วเกินไปที่จะประเมินแบบนั้น
เพราะการยึดเมืองต่างๆ ได้ แต่จะรักษาในระยะยาวได้หรือไม่? จะบริหารอย่างไร? มิฉะนั้นจะกลายเป็นการเสียกำลังในการยึดพื้นที่ชั่วคราว การผลัดกันยึดทำให้ประชาชนจะต้องอยู่อย่างยากลำบาก
บทเรียนต้านเผด็จการ
บานปลายกลายเป็น สงคราม 13 ปี
เพราะมีการแทรกแซงจากต่างชาติ
ปีค.ศ.2000 บัชชาร์ อัล-อัสซาด (Bashar al-Assad)วัย 34 ปี รับตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งซีเรีย โดยแก้ไขกฎหมาย จากเดิมที่ต้องมีอายุ 40 ปี เป็น 34 ปี เพื่อเปิดทางให้ครองตำแหน่งต่อจากพ่อ คือ ฮาฟิซ อัล-อัสซาด ซึ่งเป็นประธานาธิบดี ปี 1971-2000
ปี 2011กระแสอาหรับสปริง ก็มาถึงซีเรีย มีการเรียกร้องประชาธิปไตย อัสซาดก็ใช้วิธีปราบอย่างรุนแรง
การประท้วงรัฐบาลในเดือนมีนาคม-พฤษภาคม มีผู้เสียชีวิตไปถึง 1,000 คน และถูกจับไปอีกจำนวนมาก จากนั้นการประท้วงก็เริ่มรุนแรงขึ้นเมื่อฝ่ายต่อต้านต่อสู้ด้วยอาวุธ จึงกลายเป็นสงครามกลางเมืองและมีผู้กลุ่มเข้าร่วมหลายกลุ่ม
ผู้สนับสนุนหลักของรัฐบาลซีเรียคือ รัสเซียและอิหร่าน
ขณะที่ตุรกีและชาติมหาอำนาจในโลกตะวันตกและหลายชาติอาหรับในอ่าวเปอร์เซียสนับสนุนฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย
รัสเซียใช้การโจมตีทางอากาศเพื่อสนับสนุนนายอัสซาด
กองกำลังผสมที่นำโดยสหรัฐ ก็ใช้การโจมตีทางอากาศหลายครั้งเพื่อช่วยกลุ่มชาวเคิร์ดที่เรียกว่า กองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย (SDF)
ตุรกีเป็นผู้สนับสนุนหลักของฝ่ายต่อต้าน แต่ตุรกีมุ่งเน้นไปที่การใช้กลุ่มกบฏต่างๆ
ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งต้องการที่จะต่อต้านอิทธิพลของอิหร่าน ได้ติดอาวุธและให้เงินสนับสนุนกลุ่มกบฏ
หลังจากสู้รบมา 13 ปี แทบทุกประเทศที่อยู่รอบข้างซีเรียมีส่วนร่วมในสงครามนี้ทั้งสิ้น
มีการเจรจาหยุดยิงกันไปประมาณ 10 รอบ แต่ก็ยังไม่ได้สงบจริงๆ ยังมีการปะทะกันอยู่จนทุกวันนี้ และพื้นที่ในซีเรียก็ถูกแบ่งไปครอบครอง โดยรัฐบาลซีเรียยังครองพื้นที่ส่วนใหญ่ และเมืองใหญ่เกินกว่าครึ่ง
นอกนั้นก็อยู่ในการครอบครองของกลุ่มกบฏต่างๆ เช่น กองกำลังชาวเคิร์ด กลุ่มกบฏที่หนุนโดยตุรกีกลุ่มนักรบจีฮัด และยังมีกลุ่มเล็กกลุ่มน้อยอีกนับ 10 กลุ่มซึ่งทั้งหมดก็มิได้มีอุดมการณ์เดียวกันบางกลุ่มก็ขัดแย้งกันด้วย
ถ้าเราจะเปรียบเทียบ
กับพม่าในปัจจุบันจะพบว่า…
1.เหตุการณ์ในพม่าคือ…ยังไม่มีการสนับสนุนจากประเทศมหาอำนาจหรือประเทศอื่นๆ อย่างชัดเจน ดังนั้น แม้จะสู้รบกันมานานแต่สงครามไม่ขยาย เพราะสองฝ่ายมีอาวุธจำกัด
การขยายตัวของสงครามในซีเรียถ้านำมาเปรียบเทียบจะพบว่าเนื่องจากมีการส่งอาวุธให้กันได้อย่างสะดวกสบายและประเทศที่สนับสนุนมีมาก จนคุมไม่ได้ เจรจายาก จึงมีการขยายการสู้รบจนกระทั่งเกิดคนเสียชีวิตและต้องลี้ภัยจำนวนมาก
2. หลังเหตุการณ์ที่มีการรบใหญ่ทางภาคเหนือของพม่าจนทหารพม่าต้องถอยร่นลงมาเหมือนกับยอมรับสภาพให้กองกำลังพันธมิตรภราดรภาพ (Brotherhood Alliance) ภาคเหนือครองพื้นที่ไปชั่วคราว
ล่าสุดเมืองเมียวดีก็ถูกตีแตกจากกำลังผสมของฝ่ายต่อต้าน
สภาพสงครามในพม่าขณะนี้กองกำลังของกลุ่มต่างๆ อาจยึดเมืองได้มากขึ้นแต่จะรักษาได้นานแค่ไหน เพราะมีกำลังขนาดเล็ก และเป็นอิสระต่อกัน แต่ละกลุ่มก็มีผลประโยชน์ของตนเอง
การมีอาวุธน้อย กำลังน้อยแม้ชนะทางการเมืองทุกเขต ก็ไม่สามารถเผด็จศึกได้ การปิดล้อมอาจเป็นยุทธวิธีที่ใช้ได้ แต่ทำให้สงครามยืดเยื้อต่อไป
อย่าลืมว่า รัฐบาลทหารพม่า สามารถซื้ออาวุธมาเพิ่มเติมส่งเข้ามาได้ ทั้งทางอากาศและทางเรือ
ไม่รู้ว่ายุทธศาสตร์ของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเป็นอย่างไร? แต่การเข้ายึดเมืองสำคัญ ก็เป็นยุทธวิธีอย่างหนึ่งที่จะทำให้เผด็จการทหารพม่า ปั่นป่วนและมีผลทางจิตวิทยา ทำให้ทหารหนีทัพมากขึ้น ถ้าเป็นน้ำหนักในกระดานหกอาจทำให้ถึงจุดที่พลิกกลับได้ แต่จะเกิดขึ้นเมื่อไร? ยังตอบไม่ได้
ประเมินได้ว่าสงครามยังไม่จบง่ายๆ ยกเว้นมีการเปลี่ยนแปลงภายในของกลุ่มเผด็จการทหารพม่า
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022