วันที่ 22 มีนาคม 2562 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ช่วยนายวิตต์ ก้องธรนินทร์ ผู้สมัครสส.เขตสะพานสูง-ประเวศ(แขวงประเวศ) หาเสียงที่ตลาดนัดหมู่บ้านเสรีพบปะพูดคุยกับพ่อคัาแม่ค้าและประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอย ขอให้ประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทยให้ถล่มทลายเพื่อให้ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลและได้คะแนนเสียงมากกว่าสว.250คน นอกจากนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ยังได้พูดผ่านเครื่องขยายเสียงตามสายของหมู่บ้านแนะนำผู้สมัครของพรรคที่จะมา ช่วยประสานการทำงานของพรรคแบบมืออาชีพที่จะมาช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจร่วมกันให้ดีขึ้น จากนั้นได้ขึ้นรถแห่ไปตามถนนสายหลักและในชุมชนต่างๆขอคะแนนเสียงโค้งสุดท้าย

คุณหญิงสุดารัตน์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ออกมาระบุว่า พรรคที่รวมเสียงได้มากที่สุด มีสิทธิ์ที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้ ว่ากรณีนี้คงเป็นเพราะพรรคพลังประชารัฐเห็นว่าตนเองจะไม่ได้เสียงลำดับที่ 1 แน่นอน จึงพยายามวางกฎเกณฑ์กติกาหรือมารยาทที่แตกต่างจากอดีต ซึ่งในอดีตเป็นวัฒนธรรมที่ดีทางการเมือง ที่ปกติแล้วจะให้พรรคที่ได้เสียงมากลำดับที่ 1 เป็นผู้นำจัดตั้งรัฐบาล หากพรรคลำดับที่ 1 ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ จึงจะเปิดโอกาสให้แข่งขันกันต่อ ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่ทำมาทุกครั้ง

สะท้อนว่าสิ่งที่พลเอกประยุทธ์พยายามว่าร้ายพรรคการเมืองวันนี้กับไปอยู่ในพรรคพลังประชารัฐทั้งหมด เช่นการออกแบบนโยบายที่กล่าวหาว่าเป็นประชานิยมใช้เงินจำนวนมากวันนี้พรรคพลังประชารัฐ กับใช้เงินจำนวนมหาศาลและไม่มีปัญญาหาเงิน เช่นนโยบายที่ขายฝัน ซึ่งจะนำไปสู่ความล่มจม ดังนั้นพรรคเพื่อไทยจะไม่เล่นเกมการแจก แต่พรรคเพื่อไทยจะลงทุนเพื่อสร้างทรัพย์สินใหม่สร้างรายได้ใหม่ วันนี้พรรคพลังประชารัฐ ได้แสดงตัวตนออกมาแล้วโดยไม่สนกฎเกณฑ์กติกาเพื่อให้ตนเองได้กลับเข้าสู่อำนาจ

“และเชื่อว่าหลังการเลือกตั้งจะมีงูเห่าหรือ ล็อบบี้ส.ส.เกิดขึ้น ในลักษณะเชิญกึ่งอุ้ม ไปหาผู้มีอำนาจ เพื่อบังคับให้ร่วมกับ พรรคพลังประชารัฐ และจะมีเหตุการณ์ ที่พยายามซื้อตัวส.ส.รายบุคคล เพื่อสนับสนุนพลเอกประยุทธ์กลับมาสู่อำนาจให้ได้โดยไม่สนวิธีการ จะผิดกฎหมาย ไม่ถูกต้องตามจริยธรรม และเป็นวิธีการ ผิดธรรมเนียมปฏิบัติ อย่างไรก็ตามเชื่อมั่นว่าวันนี้ประชาชนจะออกมาเลือกตั้งอย่างถล่มทลายแสดงเจตนารมณ์อย่างชัดเจน ดังนั้นหากนักการเมืองคนใด หัวหน้าพรรคการเมืองคนใด ไม่ทำตามยืนยันไว้ว่าจะเคารพเสียงประชาชน ทำตามอำเภอใจ เชื่อว่าประชาชนไม่ยอมประชาชนต้องสั่งสอน” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

พลังของประชาชนเท่านั้นที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศไทยครั้งนี้ พลังของประชาชนเท่านั้นที่จะสู้กับอำนาจยิ่งใหญ่มหาศาล พลังของประชาชนเท่านั้น ที่จะสู้กับความอยุติธรรม การทำสิ่งใดๆ ทั้งที่ผิดกฎหมาย ผิดกติกา ผิดมารยาท ไม่มีคุณธรรมเพื่อกลับสู่อำนาจ

คุณหญิงสุดารัตน์ยังได้เรียกร้องให้คณะกรรมการการเลือกตั้งทำในเรื่องสำคัญ เช่นเรื่องการซื้อเสียง ซึ่งปัจจุบันเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด พร้อมตั้งข้อสังเกตว่ากกต. ไม่จริงจังในการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวหรือไม่ การใช้อำนาจรัฐเข้าไปคุกคามข่มขู่ ผู้สนับสนุนฝ่ายตรงข้ามกับผู้มีอำนาจ เหตุใดกกต.จึงไม่ออกมายุติ รวมถึงการโกงเลือกตั้งโดยเฉพาะการปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง ซึ่งทำให้เกิดผลเสียต่อประชาชนที่ไปออกเสียงลงคะแนน ทำให้ประชาชนเสียสิทธิ์ ดังนั้นก่อนการเลือกตั้งใหญ่ ขอให้กกต.สร้างความมั่นใจในประเด็นดังกล่าว

ทั้งนี้คุณหญิงสุดารัตน์ย้ำว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ต้องออกมาเลือกพรรคเพื่อไทยอย่างถล่มทลาย เพื่อป้องกัน การสืบทอดอำนาจโดยใช้กลไกของส.ว. 250 คน และต้องเลือกพรรคเพื่อไทย เพียงพรรคเดียวเท่านั้นเพราะเป็นพรรคที่มีกำลังมากพอจะสู้กับ ส.ว. 250 คน