เมื่อวันที่ 18 มีนาคม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียง เลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ในฐานะแคนดิเดตนายกฯของพรรคช่วยหาเสียงช่วงโค้งสุดท้ายว่า ตามกระแสความนิยมในช่วงนี้พรรคพปชร.มีสิทธิที่จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลสูงมากและต้องรักษากระแสความนิยมไว้ให้ได้ การที่พล.อ.ประยุทธ์ช่วยหาเสียงให้พรรคและแสดงตัวชัดเจน ประกอบกับนโยบายของพรรคที่ทุกคนช่วยกันคิดช่วยกันทำ ทำให้กระแสของพรรคดีขึ้นไปอีก ส่วนที่บางพรรคบอกว่าการที่พล.อ.ประยุทธ์มาช่วยหาเสียงทำให้ความนิยมของพรรคพปชร.ยิ่งตกลงไปนั้น ตนมองว่าที่เขาพูดแบบนั้นคือการดูถูกดูแคลนประชาชน เป็นการพูดเอาแต่ได้ ปล่อยข่าวให้ประชาชนวิตกกังวล การที่พล.อ.ประยุทธ์จะได้เป็นนายกฯต่ออีกสมัยหรือไม่อยู่ที่การตัดสินใจของประชาชนในวันที่ 24 มีนาคมซึ่งการที่พรรคพปชร.ให้พล.อ.ประยุทธ์ช่วยหาเสียงคือต้องการให้คนที่ยังลังเลเกิดความแน่ใจมาเลือกพรรคเรา

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า เหตุผลที่พล.อ.ประยุทธ์ ควรเป็นนายกฯต่อไปนั้น คือ พล.อ.ประยุทธ์เป็นทางสายกลาง ก่อนหน้านี้เราจะเห็นว่าบ้านเมืองแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย เกิดความขัดแย้งมากมาย ผู้นำพรรคการเมืองใหญ่ก็ไม่ถูกกัน ไม่ร่วมงานกัน พรรคพปชร.เดินทางสายกลาง สามารถร่วมงานได้กับทุกพรรค ไม่มีแบ่งฝักแบ่งฝ่าย และนโยบายของพรรคปรับมาจากนโยบายของรัฐบาลปัจจุบัน ที่สามารถต่อยอดทำต่อได้ทันทีไม่ต้องรอ ไม่ต้องออกกฎหมายใหม่ ทำให้งานเกิดความต่อเนื่องและช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้รวดเร็ว และพล.อ.ประยุทธ์ ยังกระจายอำนาจให้กับทีมงานได้ช่วยกันทำ ไม่ได้รวมอำนาจไว้ที่ตัวเองหรือเป็นเผด็จการอย่างที่หลายคนบอก และไม่ได้บริหารประเทศแบบพ่อค้า นักธุรกิจ ที่หวังผลกำไร และไม่เอนเอียงไปกับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง นอกจากนี้เราจะมั่นใจได้ว่าประเทศจะสงบไม่มีความขัดแย้งหรือแบ่งฝ่ายอีกต่อไป สร้างความมั่นใจในการรักษาประชาธิปไตยเอาไว้ได้อย่างแน่นอน

มติชนออนไลน์