เผยแพร่ |
---|
ข้อเสนอที่จะให้”ครู”และ”นักเรียน”ใช้ห้องน้ำร่วมกันสร้างผลสะเทือนในเชิง”ปฏิกิริยา”อย่างแหลมคม
เห็นได้จากการออกมา”ค้าน”ของอดีต”ผู้บริหาร”
เชื่อได้เลยว่า แม้ว่าผู้ที่กล้าออกมา”ค้าน”จะเป็น”อดีต”ไม่ได้รับราชการแล้ว แต่เสียงค้านก็น่าจะเป็นไปในลักษณะอันเป็น”ตัวแทน”ของคนที่ยังอยู่ในราชการไม่น้อย
ไม่ว่าจะเป็น”ผู้บริหาร” ในกระทรวงศึกษาธิการ ไม่ว่าจะเป็นบรรดา”ครู”ในแต่ละโรงเรียน
เพียงแต่เมื่อเป็นข้อเสนอจาก”รัฐมนตรี”จึงจำเป็นต้อง”เงียบ”
เมื่อมองไปยังภาพของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการซึ่งมาจากพรรคภูมิใจไทย พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ ยิ่งสร้งความประหลาดใจ
ไม่น่าเชื่อ และไม่น่าจะเป็นไปได้เลย
กระนั้น เมื่อมองไปยังนามสกุลของรัฐมนตรีก็จะมองทะลุไปถึง นายเนวิน ชิดชอบ และก็ย่อมมองทะลุไปถึง นายไชยชนก ชิดชอบ ก็อาจจะเริ่มเข้าใจ
ยิ่งเห็นบทบาทของโฆษกกระทรวงศึกษาธิการที่ออกมาชี้แจงและตอบโต้ก็ยิ่งเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงจากภายใน
แม้จะได้ชื่อว่าเป็นคนรุ่นเก่า แต่บทบาทของ นายเนวิน ชิดชอบ ก็อยู่กับกระแสของการเคลื่อนไหวและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าในด้านการกีฬา ไม่ว่าในด้านการเมือง
ในอดีต เขาเคยเป็นคนรุ่นใหม่อยู่ในกลุ่ม 16 สส.และโดดเด่น เป็นอย่างมากในพรรคชาติไทย
ยืนอยู่อย่างเป็นคนละด้านคนละมุมกับ”ผู้อาวุโส”
ยิ่งเมื่อเข้าไปอยู่ในพรรคไทยรักไทยก็กลายเป็นมือทำงานการเมืองให้กับ นายทักษิณ ชินวัตร และร่วมส่วนในการสร้างปรา กฎการณ์”แลนด์สไลด์”ในเดือนกุมภาพันธ์ 2548
หลังสถานการณ์ยุบพรรคพลังประชาชนอาจทำให้ นายเนวิน ชิดชอบ จำเป็นต้องเลือก แต่เมื่อเขามาอยู่”แนวหลัง”ของพรรคภูมิใจไทยก็มีส่วนอย่างสำคัญในการกำหนดทิศทาง
ยิ่งการผลักดันบุตรชาย นายไชยชนก ชิดชอบ เข้าดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรคยิ่งมากด้วยความแหลมคม
กรณี”ห้องน้ำ”โรงเรียนอันเสนอมาโดยรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทยคือตัวอย่างอันทรงความหมายยิ่ง
เป็นความหมายเชิง”วัฒนธรรม”ประสาน”การเมือง”
เป็นการสะท้อนถึงการรุกคืบเข้าไปของความคิดใหม่ในทางวัฒนธรรมที่แม้กระทั่งพรรคภูมิใจไทยก็ได้รับผลสะเทือนและแปรมาเป็นนโยบายใหม่ แนวโน้มใหม่
เป็นการส่งผ่านจาก นายเนวิน ชิดชอบ ถึง นายไชยชนก ชิดชอบ และดำเนินการโดย พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ