เผยแพร่ |
---|
วันที่ 9 มกราคม 2562 จากกระแสข่าวกรณี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ประกาศความพร้อมสำหรับทีมงานของพรรคและแสดงความมั่นใจว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หรือ “ทิม” ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อของพรรค จะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นั้น
ล่าสุด ที่บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ตัวแทนพรรคอนาคตใหม่ นำโดย นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค น.ส.กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ รองหัวหน้าพรรค น.ส.ธนภรณ์ สาลีผล ผู้ช่วยเลขาธิการพรรค รวมถึง ทิม พิธา เดินทางมาร่วมอวยพรวันเกิด เนื่องในโอกาสที่หนังสือพิมพ์มติชนก้าวสู่ปีที่ 42
โดย นายปิยบุตร กล่าวว่า เป็นสิ่งที่น่ายินดีสำหรับพรรคอนาคตใหม่ ที่ได้คุณทิม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มาร่วมงานกับพรรคอนาคตใหม่ และเป็นว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ทั้งนี้ ทางพรรควางตัวไว้เป็นเหมือนรัฐมนตรีเงากระทรวงเกษตรฯ ในตอนนี้ เพราะว่าคุณพิธาเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ และทำธุรกิจเกี่ยวกับเรื่องการเกษตร มีประสบการณ์ โดยเฉพาะแนวทางการทำการเกษตรให้เป็น เกษตรก้าวหน้า
ด้าน นายพิธา กล่าวว่า ถ้าถามว่ามีความพร้อมไหมสำหรับตำแหน่งนี้ ตอบว่าพร้อมมาก เป็นความพร้อมที่ได้จากการได้เดินทางไปสัมผัสพบเจอพี่น้องเกษตรกร และพี่น้องเกษตรกรก็พร้อมที่จะทำงานร่วมกัน พร้อมที่จะเปลี่ยนการเกษตรของไทยแบบเดิมๆ มาเป็นเกษตรก้าวหน้าด้วยกัน ตนเองมีประสบการณ์ มีความตั้งใจจริงที่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหา แต่ทั้งหมดทั้งมวลแล้วทำงานคนเดียวไม่ได้ วันนี้ เราหมดยุคที่ใครคนใดคนหนึ่งแก้ป้ญหาได้ทุกอย่าง การทำงานต้องมีองคาพยพ มีพลวัต ต้องร่วมมือกัน ซึ่งนโยบายพรรคอนาคตใหม่ล่าสุดที่นำเสนอ ทั้ง 12 นโยบายนั้น ก็ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาของประเทศอย่างรอบด้าน ไม่ใช่ว่านโยบายหนึ่ง ไปแก้หรือไปอุดปัญหาจุดใดจุดหนึ่ง ขณะที่ปัญหาอื่นก็ตามมา เราคิดนโยบายแบบมองภาพรวม ภาพที่อยากเห็นคือ ความเปลี่ยนแปลงของประเทศ
“สำหรับเกษตรก้าวหน้า คือ เกษตรที่มีการแปรรูป คือเกษตรที่มีการเพิ่มมูลค่า เป็นเกษตรที่ทันสมัยและมีเสน่ห์ในแง่ของวัฒนธรรม อย่างไรก็ตาม เราต้องเข้าใจเรื่องของปัจจัยการผลิตด้วย ไม่ว่าจะเป็น ที่ดิน เมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย น้ำ หรือ ยา ผมมีความตั้งใจที่จะเอาประสบการณ์ของตนเองมาลองดูว่า เราจะพัฒนาเรื่องเมล็ดพันธุ์ ได้อย่างไร พัฒนาเรื่องเครื่องจักร เรื่องคน ได้อย่างไร เพื่อที่จะยกระดับเกษตรกร ทำให้เขาลืมตาอ้าปากได้ และขณะเดียวกัน โซ่ตรวนสำคัญของเกษตรกรอย่าง หนี้สิน ที่ดินทำกิน การชลประทานที่มีอยู่เพียง 20 เปอร์เซ็นต์ในประเทศไทย ล่าสุด อย่างเช่นที่ผมเพิ่งไป จ.บุรีรัมย์ และ จ.สุรินทร์ ในพื้นที่นอกเขตชลประทาน ก็เห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ และต้องทำการปลดโซ่ตรวนนี้” นายพิธา กล่าว
นายพิธา กล่าวอีกว่า เราทำงานร่วมกันทั้งทีมงานในจังหวัด ภูมิภาค ภาคเอกชน ภาคประชาสังคมต่างๆ ไม่ได้มีแค่พรรคอนาคตใหม่เท่านั้น นี่คือการทำงานเป็นทีม นี่คือความพร้อม คือสิ่งที่ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดพร้อมที่จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงกับประเทศนี้ ความเปลี่ยนแปลงระดับโครงสร้าง
พรรคอนาคตใหม่ ไม่เชื่อเรื่องการแก้ปัญหาในลักษณะแบบโปรเจ็คปีต่อปีที่ไม่มีความยั่งยืน เราเป็นพรรคการเมืองระยะยาว เราคิดแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ไม่ใช่แก้อะไรนิดๆ หน่อยๆ หรือแก้แบบระยะสั้น ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องนี้ก็มีความจำเป็น แต่ต้องดูเรื่องความเหมาะสม เช่น มีภัยพิบัติไหม เป็นปัญหานอกเหนือจากการการควบคุมของประชาชนหรือไม่ แต่สำคัญที่สุดคือว่า ประชาชนทุกคนพร้อมเปิดใจว่า ทุกคนเป็นหุ้นส่วนในการแก้ปัญหา หมดยุคแล้วที่ใครคนใดคนหนึ่งจะเก่งและรู้ไปหมดทุกอย่าง