จิตต์สุภา ฉิน : ถนนสู่ดวงดาวอาจอยู่ในอินสตาแกรม

จิตต์สุภา ฉินFacebook.com/JitsupaChin

คุณผู้อ่านที่รุ่นราวคราวเดียวกับซู่ชิง หรือเป็นผู้ใหญ่ในเจนก่อนหน้านี้สักหน่อย อาจจะพอจำได้ว่าสักประมาณเกือบยี่สิบปีที่แล้วหากเด็กวัยรุ่นคนไหนต้องการเป็นดารา สิ่งแรกในลิสต์ที่จะต้องทำคือต้องแต่งตัว แต่งหน้าสวยๆ เท่ๆ แล้วออกไปเดินเอ้อระเหยลอยชายให้ “แมวมอง” เห็น อย่างเช่นเซ็นเตอร์พอยต์ในสมัยก่อนที่เป็นแหล่งรวมวัยรุ่นหน้าตาดีและก็มีหลายคนที่แจ้งเกิดจากวิธีนี้จริงๆ

แต่ในยุคนี้ ไม่มีใครต้องเหนื่อยออกไปตากแดดให้ผิวไหม้อีกต่อไปแล้ว เพราะเดี๋ยวนี้เขาทาบทามกันผ่านโซเชียลมีเดียนี่แหละค่ะ

และจะมีโซเชียลมีเดียไหนที่จะเหมาะให้แมวมองเข้าไปส่องคนมีศักยภาพที่จะปั้นได้มากไปกว่าโซเชียลมีเดียแชร์ภาพอย่างอินสตาแกรมจริงไหมล่ะคะ

ซู่ชิงหยิบเรื่องนี้มาจากบทความของ AFP ที่เล่าถึงเด็กสาวชาวปากีสถาน-อเมริกัน วัย 17 ปีคนหนึ่ง แต่เชื่อว่าสถานการณ์เดียวกันเป๊ะก็กำลังเกิดขึ้นในบ้านเราอยู่เหมือนกัน

 

ลียา ลิแอซ อาศัยอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเพิ่งจะขึ้นรถไฟมุ่งตรงไปยังปารีสเพื่อไปแคสติ้งเดินแคตวอล์กในงานปารีสแฟชั่นวีก โดยที่เธอถูกทาบทามทางอินบ็อกซ์ของอินสตาแกรม เช่นเดียวกับนางแบบอีก 30 คนที่แคสติ้งพร้อมๆ กับเธอ

ส่วนคนอื่นๆ มาจากเอเยนซี่ตามช่องทางดั้งเดิม ความแตกต่างอยู่ตรงที่ว่าคนที่ได้รับการติดต่อผ่านอินสตาแกรมจะต้องดูแลตัวเอง เป็นเจ้านายของตัวเอง ไม่เหมือนอีกกลุ่มที่จะได้รับการดูแลจากเอเยนซี่ แต่ไม่ว่าจะมาจากช่องทางไหนก็จะได้รับค่าตอบแทนในฐานะนางแบบที่เท่าเทียมกัน

แมวมองที่ทาบทามเด็กผ่านทางอินสตาแกรมซึ่งก็ทำงานให้กับแบรนด์แฟชั่นใหญ่ๆ หลายแบรนด์ เล่าให้ฟังว่าทุกวันนี้เธอเลือกนางแบบที่จะชวนมาแคสติ้งผ่านทางอินสตาแกรมเป็นส่วนใหญ่

หากชอบใครเธอก็จะส่งข้อความไปคุยหลังไมค์

ซึ่งเธอบอกว่าข้อดีของการส่องผ่านอินสตาแกรมคือการได้เห็นในสิ่งที่จะไม่มีเวลาได้มองหากต้องออกไปตามหาบนท้องถนน และให้ความรู้สึกที่ใกล้ชิดกว่า เข้าถึงตัวตนได้มากกว่า เพราะภาพบนอินสตาแกรมจะแสดงให้เห็นถึงรสนิยมและบุคลิกภาพบางส่วนของคนๆ นั้นด้วย

และไม่ต้องกังวลว่าดูจากภาพถ่ายจะไม่รู้สัดส่วนตัวที่แท้จริง เพราะในกรณีของเธอ เธออยากได้ตัวแทนความสวยในแบบที่ “จริง” และ “หลากหลาย” แตกต่างกันไป มากกว่าจะไปจำกัดว่าจะต้องมองหาคนที่มีหุ่นผอมเพรียวสูงเท่านั้น

นอกเหนือไปจากการถูกทาบทามให้ไปแคสติ้งเป็นนางแบบแล้ว

อินสตาแกรมก็ยังเป็นประตูไปสู่โอกาสอื่นๆ อีกมากมาย

แบบที่เห็นได้ชัดกว่าในบ้านเราก็คือการทำโปรไฟล์อินสตาแกรมให้โดดเด่นมียอดคนติดตามสูงๆ จนกลายเป็นสิ่งที่เราเรียกติดปากว่า “เน็ตไอดอล” เพื่อดึงดูดเอเยนซี่ที่จะจ้างให้โพสต์โฆษณาสินค้าต่างๆ

คุณผู้อ่านทราบไหมคะว่าอัตราค่าตอบแทนของการจ้างดาราหรือเน็ตไอดอลโพสต์อินสตาแกรมในแต่ละครั้งเนี่ยเขาคุยกันที่ราคาหลักหลายหมื่นไปจนถึงเป็นแสนบาทต่อการโพสต์ภาพหนึ่งภาพเลยทีเดียว โดยที่ไม่ต้องการันตีตัวเลขกดไลก์หรือยอดขายที่อาจจะตามมาด้วยซ้ำ

แถมบางครั้งราคาแสนแพงเหล่านี้ตกลงกันภายใต้เงื่อนไขว่าครบกี่สัปดาห์กี่เดือนแล้วจะลบออกด้วย

ก็เพราะว่าเป็นช่องทางการหารายได้ได้มากขนาดนี้ ก็เลยทำให้คนจำนวนไม่น้อยหันมาทุ่มเทสร้างอินสตาแกรมของตัวเองให้มีคนติดตามให้ได้เยอะที่สุด

 

อย่างไรก็ตาม ซู่ชิงไม่ได้ต้องการจะสื่อให้เข้าใจว่าการจะโด่งดังหาเงินได้มากมายจากอินสตาแกรมนั้นจะต้องมาจากการที่ก้มหน้าก้มตาทำอะไรก็ได้เพื่อเพิ่มยอดคนติดตามให้ได้มากที่สุดแต่อย่างใดนะคะ

เพราะสักวันหนึ่งในอนาคตอันใกล้ (หรืออาจจะเกิดขึ้นแล้วด้วยซ้ำ) เอเยนซี่โฆษณาจะเริ่มหันเหความสนใจออกจากแอ็กเคาต์ที่มีคนติดตามเป็นแสนเป็นล้าน ไปเป็นการเลือกที่โปรไฟล์ของปัจเจกบุคคลแทน

แม้จะมีคนตามไม่มากเท่า แต่เป็นคนที่เหมาะสมสำหรับผลิตภัณฑ์ของลูกค้า เสริมสร้างภาพลักษณ์ให้สินค้า มีกลุ่มผู้ตามที่มีคุณภาพ ตรงกลุ่มเป้าหมาย และมีแนวโน้มจะเปลี่ยนให้เป็นลูกค้าได้

ดังนั้น ในระยะยาวแล้วการสร้างโปรไฟล์คุณภาพสูงกับภาพลักษณ์ที่ดีให้กับตัวเองจึงเป็นกลยุทธ์ที่ได้ผลและยั่งยืนกว่าการมุ่งปั๊มยอดไลก์แต่เพียงอย่างเดียวแน่ๆ

แต่สำหรับใครที่มั่นใจว่ามีของ มีความสามารถที่อยากให้โลกได้เห็น และอยากใช้อินสตาแกรมเป็นบันไดให้ไปสู่ความฝันนั้นได้ เรามาดูเคล็ดลับกันสักหน่อยไหมคะว่าพอจะเริ่มต้นทำอะไรกันได้บ้าง

 

เว็บไซต์ Wikihow เว็บแห่งสารพัดสารพันของฮาวทูทุกสิ่งอัน แนะนำวิธีทำให้ตัวเองมีชื่อเสียงบนอินสตาแกรมเอาไว้หลายข้อ

ซู่ชิงเลือกสรุปที่น่าสนใจมาให้ตามนี้ค่ะ

1. เลือกชื่อแอ็กเคาต์ที่เก๋และจำง่าย อันนี้เป็นขั้นตอนเริ่มต้นเลยค่ะ อินสตาแกรมเราจะต้องมีชื่อที่เห็นปุ๊บ ชอบปั๊บ และจำได้ติดตา ยิ่งถ้าสะท้อนให้เห็นถึงบุคลิกอันโดดเด่นของเราได้ก็ยิ่งดี ในความเห็นของซู่ชิง ชื่ออินสตาแกรมที่จำยากและไม่คิดจะจำให้ปวดหัว คือชื่อที่ใช้ตัวอักษรเดียวซ้ำๆ หลายๆ ตัว อย่างเช่นลงท้ายด้วย nnnnnn หรือ ggggg นอกจากเจ้าตัวแล้วคงไม่มีใครมานั่งนับว่าตกลงแล้วมันมีกี่ตัวกันแน่

2. ภาพโปรไฟล์ต้องโดดเด่น ยิ่งใส่ความเป็นครีเอทีฟเข้าไปด้วยก็ยิ่งดี แน่นอนว่าต้องเป็นภาพตัวเองนะคะ เพราะนี่คือฮาวทูสำหรับการทำให้ตัวเองเกิดในฐานะโมเดลหรืออินฟลูเอนเซอร์ ยังไงก็ต้องเป็นหน้าเราค่ะ

3. เลือกธีมที่อยากให้คนจดจำเรา สนใจเรื่องไหนก็เน้นโพสต์เรื่องนั้น มีอะไรบ้างล่ะ อาหาร แฟชั่น ท่องเที่ยว หนังสือ ภาพวาด งานออกแบบ ฯลฯ เลือกที่ชอบและโพสต์ภาพแนวนั้นอย่างสม่ำเสมอจนคนจำได้ว่าความเป็นแบรนด์ของตัวเราผูกติดอยู่กับอะไร

4. เขียนบรรยายใต้ภาพแบบเจ๋งๆ การเลือกภาพที่สวยที่สุด ด้วยฟิลเตอร์ที่เหมาะที่สุด ก็เป็นเรื่องสำคัญ แต่คำบรรยายใต้ภาพก็ต้องแสดงให้เห็นถึงความมีของของเราด้วยนะคะ และซู่ชิงคิดว่าถ้าเป็นไปได้ควรใช้ภาษาอังกฤษ หรือใส่ภาษาอังกฤษควบคู่ไปด้วย เพื่อให้แอ็กเคาต์เรามีความเป็นสากล มีผู้ชมและติดตามได้มากกว่าหนึ่งประเทศค่ะ

5. ใช้แฮชแท็ก (#) อันนี้สำคัญมากๆ เพราะถ้าทำทั้งหมดที่ว่ามาแล้ว แต่ไม่ใส่แฮชแท็ก ก็เหมือนมีของแต่ไม่เปิดร้าน เปิดร้านแต่ไม่โฆษณา ใครที่ไหนจะเข้ามาดูได้ เช่น อยากโดดเด่นในด้านแฟชั่น ก็ใส่ #fashion เข้าไป เป็นนักวาดภาพทำกราฟิกที่อยากให้โลกรู้ ก็ใส่ #illustrators ต้องลองไปศึกษาเพิ่มเติมนะคะว่าจะเลือกแฮชแท็กอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ

คร่าวๆ เท่านี้ก่อนค่ะ อย่าลืมนะคะว่าการจะสร้างตัวตนบนโลกอินสตาแกรมเนี่ยไม่ได้จำกัดอายุหรอกค่ะ โซเชียลมีเดียไม่ได้เป็นเครื่องมือสร้างโอกาสให้กับเด็กวัยรุ่นเท่านั้น แต่จะเป็นวัยไหนก็ตาม ถ้ามีของที่อยากปล่อย นำเสนออย่างน่าสนใจและทำอย่างสม่ำเสมอ สักวันหนึ่งก็อาจจะได้ขึ้นเครื่องบินไปปารีสแฟชั่นวีกเหมือนน้องลียาคนนั้นก็ได้

ขอแค่ให้เริ่มต้นทำเท่านั้นค่ะ (และติดตามซู่ชิงได้ที่อินสตาแกรม @sueching นะคะ)