ปลัด มท. ลงพื้นที่ “บ้านหมากแข้ง” อ.ด่านซ้าย จ.เลย ตามรอยวีรกรรม “สมรภูมิพระราชา” พร้อมเชิญชวนทุกภาคีเครือข่าย หลอมรวมพลังแห่งความจงรักภักดี ร่วมกันขยายผลการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ไทย สร้างความภาคภูมิใจ และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ

ปลัด มท. ลงพื้นที่ “บ้านหมากแข้ง” อ.ด่านซ้าย จ.เลย ตามรอยวีรกรรม “สมรภูมิพระราชา” พร้อมเชิญชวนทุกภาคีเครือข่าย หลอมรวมพลังแห่งความจงรักภักดี ร่วมกันขยายผลการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ไทย สร้างความภาคภูมิใจ และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

วันนี้ (25 เม.ย. 67) เวลา 13.00 น. ที่อุทยานเทิดพระเกียรติบ้านหมากแข้ง หมู่ที่ 4 ตำบลกกสะทอน อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจติดตามการดำเนินงานและการขับเคลื่อนการพัฒนาบ้านหมากแข้ง อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย โดยได้รับเกียรติจาก นายกองเอก ธารณา คชเสนี (ครูป๊อด) และนายหมวดตรี น้ำเพชร คชเสนี สัตยารักษ์ (ครูปั๊ม) วิทยากรจิตอาสา 904 จากศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน และนายขวัญทอง สอนศิริ (อาจารย์โจ้) ร่วมลงพื้นที่ โดยมี นายชัยพจน์ จรูญพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พร้อมด้วย นายบุญเติม เรณุมาศ นายอนุพงศ์ คำภูแก้ว นายกิตติคุณ บุตรคุณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย นายสามารถ หมั่นนอก ปลัดจังหวัดเลย นายธนายุทธ ใยแก้ว นายอำเภอด่านซ้าย หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ ร่วมให้การต้อนรับ

โอกาสนี้ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และคณะ เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์บ้านหมากแข้ง และร่วมรับชมวิดีทัศน์วีรกรรมอนุสรณ์สถานบ้านหมากแข้ง สมรภูมิพระราชา รัชกาลที่ 10 และชมอนุสาวรีย์ประติมากรรมเทิดพระเกียรติบ้านหมากแข้ง และฐานบัญชาการบ้านหมากแข้ง โดยมี ร้อยตำรวจโท สุวิน วิริยวัฒน์ ผู้เคยเป็นนายตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ พร้อมด้วยนายพรมเสก จันทะคีรี ผู้เคยเป็นเยาวชนบ้านหมากแข้ง และกลุ่มประชาชนจิตอาสา เป็นวิทยากรบรรยายสะท้อนเรื่องราวประวัติความเป็นมาของบ้านหมากแข้ง และพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศ ร้อยเอก สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งได้เสด็จราชดำเนินโดยเฮลิคอปเตอร์มาปฏิบัติการในเหตุการณ์ยุทธการสู้รบของบ้านหมากแข้ง จนทำให้ชาวบ้านในพื้นที่หายจากความหวาดกลัวและมีความปลอดภัยจากผู้ก่อการร้ายจวบจนถึงปัจจุบัน และร่วม

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า วันนี้ตนพร้อมด้วยนายกองเอก ธารณา คชเสนี “ครูป๊อด” และนายหมวดตรี น้ำเพชร คชเสนี สัตยารักษ์ “ครูปั๊ม” ทั้ง 2 ท่านเป็นผู้มีคุณูปการต่อประเทศชาติอย่างยิ่งในฐานะเป็นครูจิตอาสาบอกเล่าประวัติศาสตร์ชาติไทย พระราชกรณียกิจและพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง อันเป็นการสนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงอยากให้คนไทยได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทย ซึ่งปัจจุบันกระทรวงมหาดไทยได้รับเกียรติจากท่านเป็นวิทยากรในการจัดโครงการศึกษาอบรมวิทยากรเพื่อทำหน้าที่ผู้ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทยประจำท้องถิ่น ปี 2567 ของกระทรวงมหาดไทย ที่กำลังขยายผลวิชาประวัติศาสตร์ชาติไทยไปทั่วประเทศ โดยการเชิญชวนพี่น้องประชาชนทั่วไปในทุกสาขาอาชีพที่มีจิตใจ อยากเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทย และมีจิตอาสาที่จะไปอาสาบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ชาติไทยให้คนในชาติได้รับรู้รับทราบถึงวีรกรรมของบรรพบุรุษของเรา ทำให้เกิดความซาบซึ้งความกตัญญูกตเวที เช่นเดียวกันกับพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่บ้านหมากแข้งแห่งนี้ ที่พวกเราโชคดีที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินที่ทรงห่วงใยในพสกนิกรของพระองค์ โดยทรงยอมเสียสละมาเผชิญเสี่ยงภยันตราย ทั้งหมดจึงเป็นปฐมเหตุที่ทำพวกเราได้รำลึกเหตุการณ์ดังกล่าวในทุกวันนี้ ซึ่งจะเป็นจุดกระตุ้นให้ภาคราชการ ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้เข้ามามีส่วนสนับสนุนและพัฒนาพื้นที่แห่งนี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติ ในการเสริมสร้างความภาคภูมิใจ ความรักความสามัคคี และความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

“ในปีนี้เป็นปีมหามงคลยิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระผู้ทรงมีพระคุณอันประเสริฐอันล้นเกล้าล้นกระหม่อม จะทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 72 พรรษา ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 ซึ่งพวกเราจะได้มีโอกาสร่วมกันปฏิบัติบูชาทำสิ่งที่ดี และพัฒนาชุมชนร่วมกัน ตลอดจนเผยแพร่พระเกียรติคุณของพระองค์ท่าน โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่บ้านหมากแข้งแห่งนี้ ที่พวกเราทุกคนจะต้องช่วยกันทำให้รอยพระบาทยาตราจนเกิดวีรกรรมอันเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างใหญ่หลวงได้รับการถ่ายทอดให้เป็นที่ปรากฏต่อสากล ซึ่งผลจากการสู้รบครั้งนั้นไม่ได้มีแค่ที่บ้านหมากแข้งเท่านั้น แต่ยังมีผลรวมไปถึงคนในชาติ ที่จะได้เห็นพี่น้องคนบ้านหมากแข้งช่วยกันเผยแพร่พระราชกรณียกิจในช่วงสำคัญที่ประเทศไทยมีพระมหากษัตริย์ทรงออกรบทัพจับศึก เพื่อช่วยเหลือพสกนิกรคนไทย และเมื่อพวกเราทุกคน ได้ช่วยกันพัฒนาพื้นที่แห่งนี้ให้เป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ และมีผู้คนมาศึกษาเรียนรู้เป็นจำนวนมาก ก็จะเป็นโอกาสในการให้พี่น้องประชาชนได้มีอาชีพ มีรายได้ ร่วมกันพัฒนาชุมชนและหมู่บ้านของเรา ทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงต้น

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่อไปอีกว่า ในวันนี้พวกเราดีใจที่ได้มาลงพื้นที่เยี่ยมชมพื้นที่สู้รบของชาวบ้านหมากแข้ง ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญของคนในชาติ ซึ่งพ่อแม่พี่น้องทุกคน ผู้นำชุมชน ทหาร ตำรวจ ต้องช่วยกันพัฒนาต่อยอดจากเดิมที่ดีอยู่แล้ว ด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทำให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเอง มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี นำไปสู่การมีความสุขอย่างยั่งยืน ซึ่งสิ่งสำคัญเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ ต้องอาศัยผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจนภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ช่วยกันพัฒนาพื้นที่บ้านหมากแข้งร่วมกัน โดยมีคุณครูจิตอาสาทั้ง 2 ท่าน ได้ช่วยในการเรียบเรียงพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพื้นที่บ้านหมากแข้ง เพื่อทำให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์สำคัญของจังหวัดเลยและของประเทศไทยในอนาคตต่อไป

“ขอให้ทุกท่านช่วยกันสืบสาน รักษา และต่อยอด ด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่โคก หนอง นา หรือ อารยเกษตร นำศาสตร์พระราชามาประยุกต์ใช้ การปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง รวมถึงการทำให้เกิดหมู่บ้านยั่งยืน “Sustainable Village” ตามแนวพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา มุ่งมั่นทำให้คนในชุมชนมีความมั่นคงในที่อยู่อาศัย รักษาความสะอาดเรียบร้อย ถูกสุขลักษณะและมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งถ่ายทอดวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามสู่ลูกหลานเยาวชน มีการรวมกลุ่มเป็นกลุ่มบ้านร่วมกันทำสิ่งที่ดีให้กับชุมชนด้วยจิตอาสา และขอให้นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชนบ้านหมากแข้ง น้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตามโครงการ “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และ”ทางนี้มีผล ผู้คนรักกัน” ปลูกผักสวนครัว และเลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่เป็นอาหาร สร้างความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งทั้งหมดมีเป้าหมายสูงสุดในการร่วมกันสนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่มีพระราชปณิธานทำให้ “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” เพื่อให้เราคนไทยทุกคนมีความมั่นคงและมีความสุขอย่างยั่งยืน” นายสุทธิพงษ์ฯ กล่าวในช่วงท้าย

นายชัยพจน์ จรูญพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวว่า จังหวัดเลยร่วมกับมณฑลทหารบกที่ 28 อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมกันขับเคลื่อน และพัฒนาบ้านหมากแข้งร่วมกับภาคีเครือข่าย โดยเน้นการพัฒนาที่หมู่บ้าน เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นตามแนวหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และแนวพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เรื่องการพัฒนาหมู่บ้านยั่งยืน โดยได้จัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนและพัฒนาบ้านหมากแข้ง ซึ่งประกอบด้วยคณะทำงาน 12 คณะ ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งการพัฒนาต่อยอดขยายผลเกษตรตามโครงการพระราชดำริฯ การขอใช้ประโยชน์ที่ดิน ความสงบเรียบร้อย การพัฒนาคุณภาพชีวิต สาธารณสุข การจัดการขยะมูลฝอย ซึ่งปัจจุบันคณะทำงานได้ดำเนินการตามภารกิจดังกล่าวและจัดทำแผนพัฒนาในระดับตำบล/หมู่บ้าน เพื่อพัฒนาต่อไป รวมถึงมีคณะทำงานจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมีนายกองเอก ธารณา คชเสนี เป็นที่ปรึกษาในคณะทำงาน ซึ่งจังหวัดเลยจะได้ร่วมกับพี่น้องประชาชน และ 7 ภาคีเครือข่ายในพื้นที่จังหวัดเลย ขับเคลื่อนกิจกรรมด้วยพลังแห่งความความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างเต็มกำลังความสามารถต่อไป

#WorldSoilDay #วันดินโลก
#UN #FAO #GlobalSoilPartnership #MOI
#กระทรวงมหาดไทย #บำบัดทุกข์บำรุงสุข
#SoilandWaterasourceoflife
#SustainableSoilandWaterforbetterlife
#ดินดีน้ำดีชีวีมีสุขอย่างยั่งยืน
#SDGsforAll #ChangeforGood