ยกเครื่อง “ปรับ ครม.” | ลึกแต่ไม่ลับ

จรัญ พงษ์จีน

ลึกแต่ไม่ลับ | จรัญ พงษ์จีน

ยกเครื่อง “ปรับ ครม.”

“จ.เชียงใหม่” ครองแชมป์ค่าฝุ่น PM 2.5 ขั้นวิกฤต ยึดหัวหาดอันดับ 1 เมืองที่มีมลพิษมากที่สุดของโลก คุณภาพอากาศ มีค่าเอคิวไอระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพและทางเดินหายใจอยู่ที่ 200 ไมโครกรัม ใครสูดดม ลงลึกเข้าถึงทางเดินหายใจและปอด มีอันตรายถึงตายได้ง่ายๆ

ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 12-14 เมษายน “คนเชียงใหม่” ยิ่งสะบักสะบอมหนัก ไม่เพียงรมฝุ่น PM 2.5 อย่างเดียว หากแต่ยังโดน “ฝุ่นการเมือง” ฟุ้งตลบอบอวลทั่วทั้งเมือง น่าเอ็นดูไปทุกหย่อมย่าน

ดังที่ทราบกันก่อนล่วงหน้าว่า “นายใหญ่-ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 วางโปรแกรมไป “ปี๋ใหม่เมือง” รดน้ำดำหัวกับญาติพงศ์วงศา ที่บ้านเกิดเชียงใหม่ หลังห่างหายไปถึง 18 ปีเต็ม

สถานการณ์มันจ๊ะกันพอดิบพอดี กับข่าวลือที่ออกมาช่วงเวลาเดียวกัน ว่านายกรัฐมนตรีตัวจริงที่ชื่อ “นายเศรษฐา ทวีสิน” เงื้อง่าราคาแพงมานานพอสมควร ที่จะกดปุ่มปรับปรุงคณะรัฐมนตรี “เศรษฐา 1” รอให้ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2567 ได้ประกาศใช้อย่างเป็นทางการเมื่อไหร่ก็ลงมือเมื่อนั้น ซึ่งคาดการณ์ว่าทุกอย่างน่าจะสะเด็ดน้ำในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม

“นายกฯ นิด” ผ่านการปรึกษาหารือ อนุมัติกับ “บุคคลหลายฝ่าย” ที่เกี่ยวข้อง พร้อมกับส่งสัญญาณให้พรรคร่วมรัฐบาล ทั้ง “ภูมิใจไทย-รวมไทยสร้างชาติ-พลังประชารัฐ-ชาติไทยพัฒนา-ประชาชาติ” รับทราบด้วยมารยาท ว่าใครอยากจะจัดแถว ครม.ใหม่ ก็ให้ปรับคู่ขนานไปในเวลาเดียวกัน มีบางพรรคขานรับ โดยเฉพาะ “พลังประชารัฐ”

ค่าย “ผู้กองธรรมนัส พรหมเผ่า” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขาใหญ่จะดัน “ไผ่ ลิกค์” ขึ้นลิฟต์ ยกมาตรา 160(6) ประกอบมาตรา 98(7) ว่า แม้จะเคยโดนลงโทษจำคุก แต่ความผิด ศาลให้รอการลงโทษ ในคดีเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกาย เมื่อความผิดที่ไม่ร้ายแรง ศาลรอการลงโทษ คุณสมบัติก็น่าจะไม่ขาด

อย่างไรก็ตาม ตุ๊กตาตรายาง ที่ “นายเศรษฐา ทวีสิน” ดีดลูกคิดด้วยความรอบคอบ การปรับ ครม.ในคาบนี้ ที่จะมีรายการล้างป่าช้า มากที่สุดคือสัดส่วนของ “พรรคเพื่อไทย”

แถมใหม่ที่จะยกเครื่อง จะประกอบด้วย

1. “นายเศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี สลับฟันปลาจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

2. “นายพิชัย ชุณหวชิร” ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี-ประธานคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และประธานบริษัทบางจากคอร์ปอเรชั่น เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ทำงานคู่ขนานกับ “นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” รมช. เป้าหมายเพื่อดันดัชนีตลาดหุ้นที่สาละวันเตี้ยลงทุกวันให้กระเตื้อง ไต่ระดับถึง 1800 จุด

3. “นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ควบรองนายกรัฐมนตรีอีกตำแหน่ง

4. “นายสมศักดิ์ เทพสุทิน” รองนายกรัฐมนตรี เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

5. “นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล” มือเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ที่มีความรอบรู้เรื่องดิจิทัลวอลเล็ต และใกล้ชิดกับ “ลุงอ้วน-ภูมิธรรม เวชยชัย” รมว.พาณิชย์ มาช่วยเสริมใยเหล็กร่วมกับ “นายจุลพันธ์” เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

6. “นายจักรพงษ์ แสงมณี” มือขวา “นายกฯ เศรษฐา” โยกจากรัฐมนตรีช่วยต่างประเทศ มาเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

7. “นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

8. “น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล” รัฐมนตรีว่าการทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม สลับที่นั่งกับ “เสริมศักดิ์”

9. “พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์” ขึ้นลิฟต์เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม โดยจะใช้บริการโควต้าพรรครวมไทยสร้างชาติ แทน “นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ที่หลุดออกจากตำแหน่ง

และ 10. “ม้ามืด” มากที่สุดในคณะรัฐมนตรี “เศรษฐา 2” คือ “สาวน้ำ-จิราพร สินธุไพร” รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ส.ส.เขต 5 ร้อยเอ็ด หลายสมัย ดาวสภา จะเบียดแทรกเพื่อนร่วมพรรค “สาวอิ่ม-ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์” ไข่ดาวหนึ่งเดียวสนาม กทม.ของเพื่อไทย เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์

ทีนี้ต้องตามไปดูบุคคลที่จะตกขบวนจาก “ครม.นิดสอง” เบอร์ใหญ่ ระดับต้นไทรที่เอนไหวดุจต้นอ้อ ประกอบด้วย 1. “นายชลน่าน ศรีแก้ว” รมว.สาธารณสุข 2. “นายสุทิน คลังแสง” รมว.กระทรวงกลาโหม 3. “เจ๊แจ๋น-พวงเพ็ชร ชุนละเอียด” เจ้าแม่นครบาล รมต.ประจำสำนักนายกฯ 4. “นายไชยา พรหมา” รมช.เกษตรและสหกรณ์ 6. “นายเกรียง กัลป์ตินันท์” รมช.มหาดไทย และ 7. “นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ”

ด้วยประการดังกล่าว การที่โผปรับคณะรัฐมนตรี “เศรษฐา 2” ที่ส่งสัญญาณออกมาอย่างชัดเจนว่า จะยกเครื่องใหญ่ช่วงต้นเดือนพฤษภาคม คนที่มีข่าวลือกระเด็นออกจากตำแหน่ง ชื่อโผล่ตามสื่อ พากันปอดกระเส่า จริงหรือไม่จริงยังไม่มีใครทราบ แต่ความประมาทเป็นบ่อเกิดแห่งความตาย ความไม่ประมาทเป็นหนทางแห่งความไม่ตาย คนไม่ประมาทไม่มีวันตาย คนประมาทไม่ต่างอะไรกับคนตาย

เทศกาลสงกรานต์ ฝุ่นเชียงใหม่เลยตลบ ถนนทุกสายบายโฉมหน้าเข้าหา “นายใหญ่-ทักษิณ” ที่เดินทางไป “ปี๋ใหม่เมือง” ที่เชียงใหม่ ทั้งเก่าไป-และใหม่จะมา ไปยืนกอดคอ ชักตะพานแหงนรอคอยกันหน้าสลอนดังที่เป็นข่าว ว่าไม่น้อยกว่า 18 คน

หลัง “นายใหญ่” กลับจากเชียงใหม่ ด้วยอารามบายใจเฉิบ และ “นายเศรษฐา ทวีสิน” นายกฯ คนที่ 30 เข้าคารวะพร้อมรดน้ำดำหัว ขอพรเสริมใยเหล็กในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า พร้อมจิบน้ำชา กาแฟ สนทนาวิสาสะกันเป็นที่เรียบร้อยเมื่อวันวาน

โผปรับปรุงคณะรัฐมนตรี มีกระดุกกระดิกบ้างเล็กน้อย บางส่วน บางตำแหน่ง

อาทิ “สุดาวรรณ “ยังอยู่โยงตำแหน่ง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เหมือนเดิม “เสริมศักดิ์” อาจจะกระโดดค้ำถ่อไปช่วยมหาดไทย “เจ๊แจ๋น” พ้นจากสำนักนายกฯ อาจจะว่าการวัฒนธรรม หรือ รมช. ตามคำร้องขอของใครหลายคนต่อ “นายกฯ นิด”

อนึ่ง ในส่วนของ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย แม้เทศกาลสงกรานต์ 2567 จะไม่ได้มาร่วมรดน้ำดำหัวที่เมืองไทย เหมือนผู้เป็นพี่ชาย

แต่ก็สบายอกสบายใจ มีเล่นสงกรานต์ สาดน้ำกับบุคคลใกล้ชิด ที่เดินทางจากประเทศไทยไปจำนวน 11 คน อย่างอบอุ่น สนุกสนาน เหมือนอยู่เมืองไทยยังไงยังงั้น