กรุงเทพฯ 8 กันยายน 2565 – บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เสริมความแข็งแกร่งขยายธุรกิจฮาร์ดไลน์ มุ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายภาคเหนือตอนบน ทุ่มงบกว่า 300 ล้านบาท เปิดไทวัสดุสาขาที่ 63  จังหวัดน่าน ขนาดพื้นที่ 17,000 ตารางเมตร เพื่อตอบรับแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจการท่องเที่ยว การก่อสร้าง และภาคอสังหาริมทรัพย์ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในจังหวัดน่าน และพื้นที่ใกล้เคียง พร้อมสานต่อเป้าหมายยุทธศาสตร์ 5 ปี  CRC Retailligence  ขึ้นเป็นผู้นำค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและของตกแต่งบ้านครบวงจรที่ครอบคลุมความต้องการของคนไทยทั่วประเทศ  

นายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า เป้าหมายหลักตามแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี CRC Retailligence  ที่ตั้งเป้าการเติบโตของธุรกิจปี (2565-2569) อยู่ที่ 18%  หนึ่งในกุญแจดอกสำคัญคือ การมองหาโอกาสเพื่อขยายการลงทุนพร้อมเป็นกลไกลที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษกิจภูมิภาค จึงได้ขยายสาขา ไทวัสดุ จังหวัดน่าน สาขาที่ 63 รองรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อุตสาหกรรมการผลิต และโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่มากมาย โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท หรือสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ รวมทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภายในจังหวัดที่มีความต้องการใช้วัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้านเพิ่มขึ้น โดยครึ่งปีแรก 2565 ที่ผ่านมา ตลาดอสังหาฯ ภาคเหนือมีการเติบโตกว่า 10.1% และคาดการณ์ว่าครึ่งปีหลังตั้งแต่กรกฎาคม – ธันวาคม สถานการณ์กำลังซื้อและเศรษฐกิจมีการปรับตัวดีขึ้น ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ และนักท่องเที่ยวชาวไทยช่วงไฮซีซันจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง  ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจ อาทิ โรงแรม ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ มีการปรับตัวเพื่อรับมือกับการจับจ่ายในด้านบริการและสินค้า เพราะประชาชนจะกลับมาใช้ชีวิตตามปกติมากขึ้น

ไทวัสดุ จังหวัดน่าน สาขาที่ 63  นับเป็นสาขาที่ 7 ของภาคเหนือ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 30 ไร่ พื้นที่อาคารขนาด 17,000 ตารางเมตร และเป็นครั้งแรกของไทวัสดุที่ออกแบบอาคารภายนอกเป็นรูปทรง 2 จั่ว สไตล์โมเดิร์น เพื่อเปิดรับลูกค้าได้หลายช่องทาง สร้างการรับรู้แบรนด์ให้สะดุดตายิ่งขึ้น มาพร้อมด้วยสินค้าวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้านกว่า 40,000 รายการ ที่มีคุณภาพ มากด้วยดีไซน์ ครบครันทั้งสินค้าวัสดุก่อสร้าง สินค้าอุปกรณ์ไฟฟ้า อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ เครื่องมือช่าง กระเบื้อง เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน และการให้บริการ vFIX ช่างมือ 1 เรื่องบ้านคุณ ที่จะสามารถตอบสนองทุกความต้องการของผู้บริโภคที่อาศัยอยู่โดยรอบมากกว่า 115,000 ครัวเรือน รวมถึงธุรกิจโรงแรมกว่า 200  แห่งในจังหวัด

ไทวัสดุ เดินหน้าขยายสาขาให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในทุกมิติเรื่องบ้าน โดย ไทวัสดุ สาขาน่าน ตั้งเป้าเข้ามาเสริมทัพรองรับกำลังซื้อของผู้บริโภคโซนภาคเหนือตอนบน ร่วมกับไทวัสดุสาขาเชียงราย เชียงใหม่ และลำปาง รวมถึงอีก 3 สาขาในกลุ่มภาคเหนือ ได้แก่ สาขาเพชรบูรณ์ ตาก และพิษณุโลก ไม่ว่าจะเป็นความต้องการเรื่องต่อเติม ปรับปรุง หรือซ่อมแซมบ้าน ไปจนถึงผู้รับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ ทั้งนี้ ไทวัสดุ ยังคงเดินเกมตามแผนเปิดสาขาอย่างต่อเนื่อง ในปี 2565 นี้ เพื่อมอบสินค้าที่ดีมีคุณภาพให้ถึงมือคนไทยทั่วประเทศ”

“นอกจากนี้ไทวัสดุยังคงยึดมั่นการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ที่ผ่านมาชาวน่านประสบกับอุทกภัยจากพายุมู่หลาน ถึงแม้ว่าสาขาน่าน จะยังไม่เปิดอย่างเป็นทางการ แต่ไทวัสดุไม่รีรอที่จะลงพื้นที่พร้อมด้วยพนักงานจิตอาสาเข้าไปมอบวัสดุอุปกรณ์ชุดช่วยเหลือให้แก่ผู้ประสบภัยที่ อำเภอท่าวังผา รวมถึงการเข้าไปร่วมปรับปรุงทาสีอาคารเรียน 2 โรงเรียน ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมสูง คือ โรงเรียนบ้านสบหนอง และโรงเรียนชุมชนบ้านดอนตัน ที่เราร่วมด้วยช่วยกันทาสีให้อาคารเรียนกลับมามีสีสันสดใสตามเดิม และร่วมสร้างรอยยิ้มให้คุณครูและนักเรียนอีกครั้ง” นายสุทธิสาร กล่าวปิดท้าย

ติดตามข้อมูลข่าวสาร พร้อมรายละเอียดโปรโมชัน เพิ่มเติม ได้ที่ www.thaiwatsadu.com Facebook Fanpage: Thai Watsadu และ ไลน์ไอดี @Thaiwatsadu หรือ โทร 1308

###

เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล

บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format and Multi-category) ในประเทศไทย และมีการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเป็นผู้นำในประเทศอิตาลีและเป็นหนึ่งในผู้นำในประเทศเวียดนาม เครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีก 3,550 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565) อาทิ ห้างสรรพสินค้า, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Omnichannel โดยธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่  (1) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ และ e-Book ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ไทวัสดุ บ้าน แอนด์ บียอนด์ / บีเอ็นบี โฮม เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส เมพ และเหงียนคิม (2) กลุ่มฟู้ด ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค และสินค้าที่มักพบได้ทั่วไปในร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ท็อปส์ แฟมิลี่มาร์ท บิ๊กซี / GO! ลานชี มาร์ท ท็อปส์ มาร์เก็ต เวียดนาม และ มินิ โก (go!) (3) กลุ่มแฟชั่น ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ซูเปอร์สปอร์ต และ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป และ (4) กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมุ่งเน้นการให้เช่าพื้นที่สำหรับร้านค้าของกลุ่มบริษัทฯ และร้านค้าและบริการของบุคคลภายนอก เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ท็อปส์ พลาซ่า และ บิ๊กซี / GO! เวียดนาม โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 58 จังหวัด, ประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 42 จังหวัดและประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565)