E-DUANG : อ่าน ความคิด การเมืองไทย ท่าที ต่อการต้าน รัฐประหาร

ข้อเสนออันมาจาก นายสุทิน คลังแสง ที่จะแก้ไขเพิ่มเติมพรบ.การ จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ก่อให้เกิด”ปฎิกิริยา”ตามามาอย่างน่าศึกษา

แน่นอน ย่อมมีทั้งฝ่ายที่”เห็นด้วย” และฝ่ายที่”ไม่”เห็นด้วยอย่างเป็นเรื่องปรกติของทุกการเคลื่อนไหว

เพียงแต่”ความร้อนแรง”มาจากฝ่ายที่”ไม่”เห็นด้วย

ไม่ว่าจะเป็นความเห็นจาก พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ นาย ทหารที่เคยพยายามก่อการรัฐประหารมาแล้วในกรณีเดือนมีนาคม 2520

ไม่ว่าจะเป็นความเห็นจาก”นักการเมือง”สอบตกที่ห้อยโหนตามแขนแมนของผู้มีอำนาจอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะทหารรุนแรงถึงขั้นระบุว่าเป็น”ข้อเสนอ”ที่กวักมือเรียก”รัฐประหาร”

กระนั้น เมื่อติดตามรับฟังความเห็นจากหลายคนในพรรคก้าวไกล ไม่ว่าที่อยู่ในคณะกรรมาธิการการทหาร ไม่ว่าที่อยู่ในคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง

กลับมากด้วยความอบอุ่น  เป็นน้ำเสียงขานรับและพร้อมให้ ความร่วมมืออย่างเต็มเปี่ยม

ท่าทีอันมากด้วยไมตรีจากพรรคก้าวไกลน่าพิจารณา

 

ต้องยอมรับว่าพรรคก้าวไกลมีความต่อเนื่องมาจากพรรคอนาคตใหม่ และพรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล ถูกมองจากบรรดาผู้อาวุโสในทางการเมืองว่าอ่อนหัด ไร้เดียงสา อยู่ไม่เป็น

แม้กระทั่งผู้อาวุโสอย่าง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว อย่าง นายสุทิน คลังแสง ก็เคยมีความรู้เช่นนั้น

โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่พรรคอนาคตใหม่ถูก”ยุบ”

แต่เมื่อ นายสุทิน คลังแสง ขยับผ่านข้อเสนอว่าด้วยการแก้ไขกฎหมายเพื่อสกัดขัดขวางมิให้มี”รัฐประหาร” หรือดำเนินไปด้วยความง่ายดายราบรื่น

คนที่เคยอยู่เรียงเคียงข้างกับ นายสุทิน คลังแสง กลับเปลี่ยน ระยะและมีความเห็นว่า ข้อเสนอของ นายสุทิน คลังแสง สร้างความไม่พอใจให้กับกองทัพให้กับทหาร

อาจกลายเป็นประเด็นล่อแหลมในทางการเมืองเหมือนกับยั่วเร้าให้ทหารลากปืนขับรถถังออกมาก่อ”รัฐประหาร”

 

เมื่อประสบกับ”ปฏิกิริยา”ด้วยตนเองหากมองจากด้านของ นายสุทิน คลังแสง ท่าทีต่อพรรคก้าวไกลก็อาจจะเปลี่ยนไป

ที่เคยมองว่าพรรคก้าวไกล”อยู่ไม่เป็น”ก็อาจจะไม่ใช่

หากนำเอาเป้าหมายภายในข้อเสนอของ นายสุทิน คลังแสง มาศึกษาอย่างประสานกับนโยบายของพรรคก้าวไกลก็จะเห็นว่าอยู่บนเส้นทางเดียวกัน

นั่นก็คือเป็นส่วนหนึ่งแห่งความต้องการที่จะ”ปฏิรูปกองทัพ”เพื่อให้บทบาทของ”การเมือง”อยู่ในลักษณะนำ”การทหาร”