เผยแพร่ |
---|
บอกอ ลายจุด นำมูลนิธิกระจกเงา “อาสาดับไฟป่า”ภาคเหนือติดต่อกันเป็นเวลา 5 ปีแล้ว ได้รับความสนใจแต่มิได้ให้ความสำคัญมากนัก
แต่สถานการณ์”อาสาดับไฟป่า”ในเดือนมีนาคม 2567 ชื่อของ”บอกอ ลายจุด”ก็อยู่ในแสงแห่งสปอตไลต์
ได้รับการกล่าวถึงอย่างต่อเนื่อง ไม่ขาดสาย
ไม่ว่าจะเป็นในด้าน”ชมเชย”จากหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นในด้าน”ด้อยค่า”จากหลายฝ่าย
ทั้งจาก”ด้อมส้ม” ทั้งจาก”ด้อมแดง”
นำไปสู่คำถามว่าปัจจัยอะไรทำให้ “บอกอ ลายจุด”ไปดำรงอยู่ในจุดอันแหลมคมเป็นพิเศษ ในสถานการณ์ไฟป่าและพีเอ็ม 2.5 ของเดือนมีนาคม 2567
นั่นเพราะการทำงานอย่างต่อเนื่อง สะสมข้อมูลและความจัดเจนจากการปฏิบัติในลักษณะยกระดับความรับรู้และประสบการณ์อย่างอุดมสมบูรณ์
พื้นฐานเช่นนี้เป็นที่รับรู้ เป็นที่เข้าใจ แต่คำถามก็ยังอยู่ที่ว่าทำไมในปีที่ 6 จึงกลายเป็นข่าวอย่างอึกทึกครึกโครม
นั่นเพราะ”เครือข่าย” นั่นเพราะ”จังหวะ”ในการทำงาน
โดยหลักการ บอกอ ลายจุด ดำรงอยู่เป็น”สะพานเชื่อม”พร้อมต้อนรับผู้คนจากทุกฝ่าย ไม่เลือกว่าจากด้อมส้ม ไม่เลือกว่าจากด้อมแดง ล้วนเป็นเป้าหมาย ล้วนมีการส่งเทียบเชิญ
แต่ที่ทำให้ทุกอย่างอึกทึกครึกโครมก็เมื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เดินทางเข้าร่วมเป็น”อาสาดับไฟป่า”
และบังเอิญอยู่ในห้วงที่ นายทักษิณ ชินวัตร เดินทางไปไหว้ บรรพบุรุษที่เชียงใหม่ และบังเอิญที่ นายเศรษฐา ทวีสิน เข้าร่วม
โต้ะอาหารกับ นายทักษิณ ชินวัตร ที่บ้าน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์
การเดินทางไปเชียงใหม่ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จึงกลายเป็นเรื่องนำไปสู่การเปรียบเทียบบทบาทและการเคลื่อนไหวของแต่ละฝ่าย
ยิ่งมีข่าวว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็รับปากที่จะเดินทางไปร่วมเป็น”อาสาดับไฟป่า”ด้วยอีกคนหนึ่ง
เท่านั้นแหละ บอกอ ลายจุด ก็กลายเป็นตำบลกระสุนตก
โดยประสบการณ์ บอกอ ลายจุด มีภูมิต้านทานสูงยิ่งในทางการเมืองอยู่แล้ว
ไม่ว่าจะเป็น”ด้านดี” ไม่ว่าจะเป็น”ด้านร้าย”
ท่วงทำนองใช้”ความสงบ”สยบ”อีกฝ่ายเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของ บอกอ ลายจุด ตั้งแต่สร้างเนื้อสร้างตัวจาก”พันธุ์ทิพย์” กระทั่งนำการเคลื่อนไหวผ่าน”เสื้อแดง”
ด้านหนึ่ง สร้างความหลากหลายด้าน”เครือข่าย” ด้านหนึ่งเพิ่มความมั่นคงในการ”ตั้งรับ”กับทุกสถานการณ์