E-DUANG : คำถาม ที่รุกเร้า และรุนแรง คำถาม ต่อ ชลน่าน ศรีแก้ว

ยิ่งภาพของรัฐบาลใหม่ที่นำโดยพรรคเพื่อไทยมีความชัดเจน ยิ่งทำให้คำถามต่อสถานะของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ในตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย มีความอ่อนไหว

เป็นความอ่อนไหวจาก”คำประกาศ” ไม่ว่าบนเวที”ดีเบต” ไม่ว่าบนเวที”ปราศรัย”ในช่วงแห่ง”โค้งสุดท้าย”ก่อนถึงวันที่ 14 พฤษภาคม

นั่นก็คือ คำประกาศที่ปฏิเสธต่อการร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ปฏิเสธต่อการร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ ปฏิเสธต่อการดำรงอยู่ของ 2 ลุง

เด่นชัดอย่างยิ่งว่าพุ่งเป้าไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แห่งพรรครวมไทยสร้างชาติ พุ่งเป้าไปยัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แห่งพรรคพลังประชารัฐ

ในเมื่อเด่นชัดอย่างยิ่งว่า จำนวน 40 เสียงจากพรรคพลังประชารัฐ และจำนวน 36 เสียงจากพรรครวมไทยสร้างชาติ จะเดนไปในแนวทางเดียวกันกับ 71 เสียงจากพรรคภูมิใจไทย

นั่นก็คือ ดำรงอยู่ในสถานะอันเป็น”นั่งร้าน”ให้กับ”แคนดิเดต นายกรัฐมนตรี”แห่งพรรคเพื่อไทย

ไม่ว่า นส.แพทองธาร ชินวัตร ไม่ว่า นายเศรษฐา ทวีสิน

 

ต้องยอมรับว่าการหันหน้าเข้าหากันระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคพลังประชารัฐ กับพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้รับการอธิบาย อย่างสวยงามยิ่งจาก นายภูมิธรรม เวชยชัย

นั่นก็คือ จำเป็นต้องร่วมเนื่องจากยุทธศาสตร์”แลนด์สไลด์” ของพรรคเพื่อไทยไม่ประสบความสำเร็จ

ได้มาเพียง 141 เสียง ห่างไกลยิ่งจาก 310 อันเคยเป็นเป้า

นั่นก็คือ ความพยายามของพรรคเพื่อไทยที่จะผนึกกลังร่วมกับพันธมิตรเดิมกับ 151 เสียงของพรรคก้าวไกล ก็ไม่ประสบ ความสำเร็จ

พรรคเพื่อไทยจึงจำเป็นต้องเสาะหาหนทางใหม่ แนวทางใหม่ นั่นก็คือ ผละจากพรรคก้าวไกล และสร้างความร่วมมือกับ พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ

นี่คือโจทย์ นี่คือคำถามต่อ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว อย่างสำคัญ

 

ความอ่อนไหวของปมมาจากท่าที ไม่ว่าจะมาจาก นส.แพทองธาร ชินวัตร ไม่ว่าจะมาจาก นายเศรษฐา ทวีสิน แสดงความพร้อมอย่างเต็มเปี่ยมในการยอมรับ

ยอมรับโดยมี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ยืนเรียงอยู่เคียงข้างความจริง การตั้งคำถามต่อประเด็นอันกลายเป็นปมขึ้นมาเช่นนี้จะเรียกร้องเพียง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคก็ไม่น่าจะเพียงพอ

แต่ดูเหมือนว่าคำถามจะยังแวดล้อมต่อ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว และทำท่าจะทวีความเร่งเร้าอย่างรุนแรงเป็นลำดับ