E-DUANG : สถานการณ์ 8 กุมภาพันธ์ ชะตากรรม ไทยรักษาชาติ

กวีนิพนธ์ของ กวี การเมือง ที่ว่า “หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน จะทานหรือจะทน พิสูจน์ได้เมื่อภัยมา” กำลังเป็นบทพิ สูจน์อันแหลมคม

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับพรรคไทยรักษาชาติ

นี่อาจจะเป็นความจัดเจนซึ่งปราชญ์จีนได้สรุปเอาไว้ แต่เมื่อ ปรากฏผ่านการสร้างสรรค์เป็นภาษาไทยของ กวี การเมือง อันเป็นนามปากกาหนึ่งของ จิตร ภูมิศักดิ์

ก็ทำให้มีความเข้าใจในอุปมาระหว่างความทรหดของม้าและการยืนหยัดของคน

นั่นก็คือ “หนทางพิสูจน์” นั่นก็คือ “กาลเวลาพิสูจน์คน”

เบื้องหน้าสถานการณ์หนึ่งตัวตนและความเป็นจริงก็จะฉายชี้ให้ได้รู้จักว่าเป็นอย่างไร

 

ทำไมสังคมจึงขานรับท่าทีของ ร.ท.ปรีชาพล เสริมพานิช อย่างให้ ความนับถือ

เพราะเขามี”หลักการ”อันเป็นของเขาเอง

ไม่เพียงแต่เท่านั้นเมื่อประสบกับมรสุมทางการเมืองที่ถาโถม เข้ามาอย่างดุเดือด รุนแรง และมากด้วยความแหลมคม ก็ยังกล้าที่จะยืนหยัดเผชิญอย่างหาญกล้า

หลายคนอาจไม่แปลกใจเท่าใดเมื่อเห็นท่าทีอันมาจาก นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายสุธรรม แสงประทุม และ นายณัฐวุฒิ ไสย เกื้อ

เพราะเห็นว่า 3 คนนี้ผ่านร้อนผ่านหนาวทางการเมืองมามาก กว่าเมื่อเปรียบเทียบกับ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช

แต่เมื่อนำเอาพลังของ”คนรุ่นก่อน”ประสานเข้ากับพลังของ”คนรุ่นใหม่”ของ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช และเพื่อนคณะกรรมการ บริหาร

ก็ต้องมองด้วยความเคารพ เพราะเป็นไปตามบทสรุปที่ว่า จะทานหรือจะทน พิสูจน์ได้เมื่อภัยมา

 

สถานการณ์นับแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ เป็นหินลองทองอันคมแหลมยิ่งในทางการเมือง

สังคมได้รู้ในเรื่อง”คน” ได้รู้ในเรื่อง”พรรค”

ใครและพรรคใดกำลังชื่นชมยินดีกับชะตากรรมของพรรคไทยรักษาชาติ ใครและพรรคใดกำลังหาประโยชน์จากชะตากรรมของพรรคไทยรักษาชาติ

และใครที่ยืนหยัดอยู่กับพรรคไทยรักษาชาติอย่างแน่วแน่