วิถีแห่งอำนาจ เอี้ยก่วย เสถียร จันทิมาธร / กำลังภายใน เพิ่มพูน (123)

เสถียร จันทิมาธร

วิถีแห่งอำนาจ เอี้ยก่วย/เสถียร จันทิมาธร

กำลังภายใน เพิ่มพูน (123)

เมื่อกราบกรานสุสานต๊กโกวคิ้วป่าย สวมกอดอินทรีอัปลักษณ์ก่อนอำลาด้วยความอาลัย เอี้ยก่วยออกปากหยิบยืมกระบี่หนักไร้คม

หากสะพายหว่างเอว สายรัดเอวต้องขาดผึงแน่นอน

เอี้ยก่วยจึงเลือกคัดเถาวัลย์ที่เชิงเขามา 3 เส้นควั่นรวมเข้าเป็นสายเดียวผูกมัดกระบี่แล้วสะพายที่กลางหลังทุ่มเทใช้วิชาตัวเบา

ปลายทางคือเมืองเสียนหยาง

การเดินทางออกจากหุบเขารกร้างทำให้เอี้ยก่วยได้ประจักษ์ในความคืบหน้าของกำลังภายในเมื่อกระโดดปราดขึ้นเสือกกระบี่แทงใส่กำแพงเมือง กระบี่แม้ไร้คมแต่ก็แฝงสภาวะอันแกร่งกร้าว กำแพงเมืองอันก่อจากหินแกรนิตหนาทึบ

กลับถูกทิ่มแทงเป็นรูใหญ่ขนาดเท่าปากชามรูหนึ่ง

คิดไม่ถึงว่าท่ากระบี่เสือกแทงออกกลับมีอานุภาพถึงเพียงนี้ ในใจทั้งแตกตื่นทั้งยินดี ขณะกระโดดเป็นคำรบ 2 สอดเท้าซ้ายไปในรูยกมือเสือกกระบี่แทงใส่กำแพงเหนือศีรษะเป็นรูขึ้นอีกรูหนึ่ง ครานี้ลงมือเบากว่าเดิม

ด้วยเกรงว่าจะสร้างความแตกตื่นให้กับเหล่าทหารยาม

เมื่อถึงช่วงสุดท้ายใช้วิชาจิ้งจกไต่ผนังพลิกตัวขึ้นกำแพงเมืองซ่อนตัวอยู่ในเงามืด รอจนทหารยามเดินผ่านก็วิ่งปราดลงไปดุจหมอกควัน

เป้าหมายย่อมเป็นตึกที่พำนักของก๊วยเจ๋ง

หลังจากรับประทานดีงูทุกเช้าก็มีกำลังภายในรุดหน้าเพิ่มพูน ร่างกายคล่องแคล่วปราดเปรียว วิชากำลังภายในรุดหน้ากว่ากาลก่อน เมื่ออ้อมผ่านสวนดอกไม้ก็มองเห็นที่เคยพักพิง ดังนั้น ผลักประตูเดินเข้าไปอย่างเบาแผ่ว

ในความมืดมองเห็นโต๊ะ เก้าอี้ ม่านมุ้ง ยังคงสภาพเดิม แต่ผ้าห่ม หมอนหนุนถูกเก็บไปแล้ว

ย่อตัวลงนั่งที่ขอบเตียง หวนนึกถึงแขนของตัวเองถูกฟันขาดตรงนี้ ในใจถึงกับสะทกสะท้อน ทั้งคับแค้นทั้งเดือดดาล

ความเดือดดาลนี่แหละทำให้เอี้ยก่วยหวนคืนมายังเสียนหยาง

เป้าหมายมิได้อยู่ที่ก๊วยเจ๋ง อึ้งย้ง หากต้องการจะมาพบกับก๊วยพู เพื่อลบรอยแค้นที่นางเคยทำกับตน

วันก่อนแขนเพิ่งขาดด้วน ต้องซ่อนตัวพักรักษาบาดเจ็บในหุบเขา นั่นเป็นความอับจน ในยามนี้แขนที่ได้รับบาดเจ็บเพิ่งทุเลา หลังฝีมือกลับรุดหน้าเพิ่มพูน ยากที่จะสะกดระงับความคิดล้างแค้นชำระอาฆาตได้

เมื่อหวนกลับมายังบ้านเคยพำนัก ณ เมืองเสียนหยางอีกครั้ง

กิมย้งบรรยายตามสำนวน น.นพรัตน์ ออกมาว่า มันมีหน้าตาหล่อเหลา มีนิสัยเจ้าสำราญ มาตรแม้นบังเกิดความรักผูกพันต่อเซียวเล้งนึ่งไม่มีความคิดเป็นอื่น แต่มีหญิงสาวมากหลายพอพบเห็นก็อดหลงรักมิได้

เช่น เที้ยเอ็ง เล็กบ้อซัง และกุงซุนเล็กงัก

พวกนางบ้างแอบรัก บ้างแสดงออกอย่างเปิดเผย ยามนี้ยื่นมือลูบคลำขอบเตียงหวนนึกถึงตัวเองกลับกลายเป็นคนพิการ หากพบพานดรุณีมากนักเหล่านั้นในสายตาพวกนางมันคงกลับกลายเป็นคนที่น่าหัวร่อน่าเวทนา

มาตรว่ามีพลังฝีมือกล้าแข็งก็เพียงแต่เป็นตัวประหลาดอันน่าแตกตื่นสะท้านโลกตนหนึ่ง บังเกิดความคิดพลุ่งพล่านดังมรสุม รำลึกถึงสรรพเรื่องราวในชีวิตอดกล่าวเบาๆ ออกมามิได้ว่า “มีแต่โกวโกว มีแต่โกวโกวคนเดียว อย่าว่าแต่เราแขนขาดข้างหนึ่ง

“ต่อให้แขนขาขาดด้วน น้ำใจที่นางมีต่อเราต้องไม่เปลี่ยนผัน”

นึกถึงตอนนี้พลันด้านตะวันออกบังเกิดสุ้มเสียงโต้เถียงของผู้คน 2 คนแว่วมากระทบโสต ฟังแล้วเด่นชัดว่าเป็นก๊วยเจ๋งกับอึ้งย้ง

เหมือนกับเป็นการโต้เถียงอันเนื่องจากกรณีของก๊วยพู และก๊วยเซียง ซึ่งเพิ่งคลอด เหมือนกับเป็นเรื่องภายในครอบครัว

แต่ก็เป็นเรื่องภายในอันมีเรื่องของเอี้ยก่วยเข้าไปเกี่ยวข้อง

นี่ไม่เพียงแต่ทำให้เอี้ยก่วยได้รับรู้ความในใจอันมาจากอึ้งย้ง ก๊วยเจ๋ง หากแต่ยังได้รับรู้ข้อมูลอันเกี่ยวกับการตายของบิดาของมัน เอี้ยคัง นับเป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งอันเป็นตะกอนนอนค้างในความคิดของเอี้ยก่วย

จึงมีผลสะเทือนอย่างลึกซึ้งต่อความคิดของเอี้ยก่วย จึงมีความจำเป็นที่เอี้ยก่วยจะต้องล้างหูแอบฟัง