‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ออกมาประกาศชัดครั้งแรกถึงที่มานาฬิกาหรู ว่า เพื่อนให้มาใส่ ไม่ได้ซื้อมาฝากและคืนหมดแล้วทุกเรือน พร้อมลั่นวาจาถ้า ป.ป.ช. ชี้ว่าผิด ‘พร้อมออก’ ถือเป็นการออกมาแสดง ‘จุดยืน’ ของ พล.อ.ประวิตร ต่อเรื่องนี้ครั้งแรก

อนาคตทางการเมืองของ ‘บิ๊กป้อม’ จึงอยู่ที่ ป.ป.ช. จะ ‘ตัดสิน’ เรื่องนี้อย่างไร ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ขัดหรือไม่ขัดกฎหมายอย่างไร สิ่งที่ พล.อ.ประวิตร และทัพ คสช. หลีกเลี่ยงไม่ได้ คือ กระแสติดลบต่อเรื่องนี้ที่มีมาแต่ต้น ซึ่งไม่ใช่ครั้งแรกที่ พล.อ.ประวิตร ตกเป็นเป้า ‘ตำบลกระสุนตก’ หลายลูก จนกลายเป็น ‘คนดวงตก 2017’

‘กระแสลบ’ นี้เอง เป็นสิ่งที่ คสช. และ รัฐบาล นำโดย ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้อง ‘ชั่งน้ำหนัก’ ให้ดี ซึ่งเชื่อกันว่า ‘บิ๊กตู่’ มีคำตอบเรื่องนี้บ้างแล้ว เห็นได้ชัดจากการไม่ใช้ ม.44 สั่ง ‘พักงาน’ หรือ ‘สั่งพักงาน’ ตามปกติกับพล.อ.ประวิตร เพื่อเปิดทางให้ป.ป.ช.ตรวจสอบ แม้จะมีแรงสะกิดจาก ‘หัวหน้ามาร์ค’นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ยกเครสสมัยเป็นรัฐบาล เช่น นายวิทยา แก้วภราดัย ลาออกจาก รมว.สาธารณสุข จากกรณีข้อสงสัยการทุจริตในโครงการ ‘ไทยเข้มแข็ง 2555’ หรือกรณี นายวิฑูรย์ นามบุตร ขอลาออกจาก รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อไม่ให้เป็นภาระของรัฐบาลด้วย
.
แต่อีกด้านก็มองว่า ถ้านายกฯสั่งพักงานหรือ ‘บิ๊กป้อม’ ลาออกเองจะเป็นการ ‘ยอมรับ’ โดยอ้อมหรือไม่ อีกทั้งจะยิ่งทำให้ คสช. ตกเป็นเป้าซ้ำและไปกระพือกระแสให้ฝ่ายที่จ้องโจมตีทันที การไม่ ‘พักงาน’ พล.อ.ประวิตร จึงได้รับการ ‘ชั่งน้ำหนัก’ มาไม่น้อยแล้ว แต่เรื่อง ‘พักงาน’ ก็แทงใจ ‘บิ๊กป้อม’ ไม่น้อยด้วย ซึ่งเชื่อได้ว่า ‘บิ๊กตู่’ ได้พูดคุยกับ ‘บิ๊กป้อม’ เรื่องนี้มาบ้างแล้ว
.
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ เผยให้ใช้กลไกทางป.ป.ช.ในการตรวจสอบต่อไป และมองว่าสิ่งที่นายภิสิทธิ์ เสนอเป็นเพียงวาทกรรมการเมืองเท่านั้น โดย พล.อ.ประยุทธ์ อาจให้ พล.อ.ประวิตร ตัดสินใจหรือประกาศอนาคตตัวเองด้วย เพราะได้ชั่งน้ำหนักแล้วว่า ‘สวยงาม’ กว่า และ ‘เสียน้อยกว่า’ นั่นเอง

การประกาศลั่น ‘พร้อมออก’ ของ พล.อ.ประวิตร ก็มีการตีความว่า ถ้าออกไปแล้วจะสะเทือนทัพ คสช.-รัฐบาล หรือไม่ ซึ่งไม่สามารถปฏิเสธได้ถึงแรงสะเทือนนี้ต่อ ‘เสถียรภาพ’ และ ‘ภาพลักษณ์’ ของรัฐบาล อีกด้านถ้า พล.อ.ประวิตร ออกจากครม.ไป ก็สามารถทำหน้าที่ ‘ผู้จัดการรัฐบาล’ ข้างนอกเต็มที่ ไม่ตกเป็นเป้าเท่าอยู่ตำแหน่ง เพราะก่อนหน้านี้ ‘บิ๊กป้อม’ เคยออกมาประกาศชัด พร้อมเป็น ‘กองหนุน’ ให้ ‘บิ๊กตู่’ อยู่แล้ว ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะลงเล่นการเมือง เป็น ‘นายกฯคนนอก’ หรือไม่ แต่อยู่ที่การตัดสินของประชาชนด้วย พร้อมถามกลับรู้ได้อย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นนายกฯคนนอก แต่พล.อ.ประวิตรก็มองว่า พล.อ.ประยุทธ์ ตอบโจทย์การเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่
.
“ผมก็จะสนับสนุนตลอด ทำไมล่ะ ผมจะสนับสนุนไม่ได้หรือ แต่ขอย้ำว่า ผมจะไม่เปลี่ยนสถานะเป็นนักการเมือง” พล.อ.ประวิตร เผย

เท่ากับว่า คสช. มีทางออกหมด ไม่ว่า พล.อ.ประวิตร จะอยู่หรือไม่อยู่ร่วมรัฐบาล ผ่านคอนเนคชั่นที่ พล.อ.ประวิตร มีมาตั้งแต่ต้น ทั้งสายการเมืองและภาคเอกชน ขณะนี้ก็ยังไม่มีอะไรคอนเฟิร์มได้ว่า พล.อ.ประวิตร จะ ‘อยู่ต่อ’ หรือ ‘ออก’ จนกว่าผลการตรวจสอบของ ป.ป.ช. จะสิ้นสุดนั่นเอง
.
ซึ่งข่าว พล.อ.ประวิตร จะ ‘ลาออก’ มีมาตั้งแต่ปลายปี60 ว่า ‘บิ๊กป้อม’ จะลาออกหลังปีใหม่2561ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีกระแสเรื่อง ‘พักงาน’ หรือ ‘ลาออก’ ถูกเสนอขึ้นมาด้วย โดยตลอด 3 ปีกว่าของ ‘ครม.ประยุทธ์1-5’ มีข่าว พล.อ.ประวิตร จะหลุดจากการ ‘ปรับครม.’ แทบทุกครั้ง และมีข่าวว่า ‘บิ๊กป้อม’ จะฟอร์มทีมตั้งพรรคทหารขึ้น ซึ่งโมเดลนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ได้ออกมาปฏิเสธชัดว่าไม่ตั้งพรรคทหาร ด้วยเหตุผลไม่เคยสำเร็จนั่นเอง แม้จะมีพรรคนอมินีประกาศจุดยืนชัด นำโดยนายไพบูลย์ นิติตะวัน ปธ.เครือข่ายประชาชนปฏิรูป ที่กำลังตั้งพรรคหนุนและปูทางให้ ‘บิ๊กตู่’ เป็น ‘นายกฯคนนอก’ ด้วย
.
อีกทั้ง พล.อ.ประวิตร เคยกล่าวถึงปัญหาสุขภาพก่อนปรับ ‘ครม.ประยุทธ์5’ ว่าตนจะอยู่หรือไม่นั้น อยู่ที่สุขภาพว่าจะรับได้หรือไม่ เพราะไม่เกี่ยงเรื่องงานอยู่แล้ว สะท้อนว่า พล.อ.ประวิตร ก็มีความคิดจะออกจากครม.เพื่อไปพักก่อนหน้านี้ เพราะปี2560 ถือเป็นปีที่ พล.อ.ประวิตร มีสุขภาพที่ไม่แข็งแรงนัก หลังไปทำบายพาสหัวใจ มีอาการเจ็บหู และไปผ่านิ้วล็อคมาด้วย จึงมีการมองว่าเรื่องนาฬิกาหรูจึงเป็น ‘อัตราเร่ง’ ที่อาจมีผลให้ พล.อ.ประวิตร พิจารณาออกจาก ‘ครม.’ เร็วขึ้นหรือไม่ เพื่อไปทำภารกิจให้คสช.แบบเงียบๆแทน

แต่สิ่งที่ถูกจับตาไม่น้อย คือ การวางบุคคลในเหล่าทัพเพื่อเป็นฐานให้คสช.ในอนาคต ถ้า ‘บิ๊กตู่’ กลับมาเป็น ‘นายกฯคนนอก’ อีกครั้ง และรับภารกิจคสช. ‘ลงหลังเสือ’ จัดการเลือกตั้งช่วงปี2562 แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะปฏิเสธตั้งแต่ปีที่แล้วว่า ไม่ต้องตั้งใครมาปกป้องตนก็ตาม
.
ซึ่งแต่ละเหล่าทัพมีแคนดิเดท ผบ.เหล่าทัพ จ่อคิวจำนวนมาก ทั้งกองทัพบกที่มีแคนดิเดท ผบ.ทบ. ถึง 3 คน ทั้ง ‘บิ๊กอ้อม’พล.อ.วีรชัย อินทุโศภน ตท.18 ผู้ช่วยผบ.ทบ. เกษียณฯปี62 ‘บิ๊กแดง’พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ตท.20 ผู้ช่วยผบ.ทบ. เกษียณฯปี63 และ ‘บิ๊กเล็ก’พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เสธ.ทบ. ตท.20 เกษียณฯปี64 แต่จะเป็นสูตร 1-1-1 ปีหรือไม่นั้น ถ้าไม่ใช้สูตรนี้ ‘บิ๊กอ้อม’ จะต้องถูกโยกข้ามห้วยไปเป็น ‘ปลัดกลาโหม’ หรือไป บก.กองทัพไทย แทน เพื่อครองอัตราจอมพล ก่อนเกษียณฯนั่นเอง

ส่วนแคนดิเดท ‘แม่ทัพเรือ’ ก็มีหลายคน ซึ่งจับตาว่าจะเป็นสูตร1-1-1ปีหรือไม่ ทั้ง ‘บิ๊กป๋อง’พล.ร.อ.พัชระ พุ่มพิเชฎฐ์ ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพเรือ ตท.19 เกษียณฯปี63 และเพื่อนตท.18 ทั้ง ‘บิ๊กตุ๋ย’พล.ร.อ.พิเชฐ ตานะเศรษฐ เสธ.ทร. ‘บิ๊กนวล’พล.ร.อ.นวพล ดำรงพงศ์ ผู้ช่วยผบ.ทร. ‘บิ๊กโส’พล.ร.อ.โสภณ วัฒนมงคล ปธ.คณะที่ปรึกษากองทัพเรือ (อัตราจอมพล) เกษียณฯปี62 และ ‘บิ๊กลือ’พล.ร.อ.ลืดชัย รุดดิษฐ์ รองผบ.ทร. (อัตราจอมพล) ตท.18 แต่เกษียณฯปี63

มาที่ ‘แม่ทัพฟ้า’ คนต่อไป แคนดิเดท เป็น เพื่อนตท.18 ทั้งหมด ‘บิ๊กต่าย’พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ผู้ช่วยผบ.ทอ. ‘บิ๊กโหน่ง’พล.อ.อ.ชาญฤทธิ์ พลิกานนท์ ผู้ช่วยผบ.ทอ. เพื่อนตท.18 และสวนกุหลาบฯ เกษียณฯพร้อมกันปี62 และ ‘บิ๊กยาว’พล.อ.อ.วันชัย นุชเกษม เสธ.ทอ. เกษียณฯปี63 ซึ่ง ทอ. ก็ต้องจับตาว่าจะเป็น สูตร1-1ปีหรือไม่
.
ส่วน บก.กองทัพไทย แคนดิเดทเต็งหนึ่ง คือ ‘บิ๊กกบ’พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี เสธ.ทหาร ที่เป็นสายของ ‘บิ๊กเจี๊ยบ’พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร อดีตรองนายกฯและอดีตผบ.สส. โดยเป็นรุ่นน้องใน บก.กองทัพไทย คนสุดท้ายที่ ‘บิ๊กเจี๊ยบ’ ว่างไลน์เพื่อคุม บก.กองทัพไทย นับจาก ‘บิ๊กตี๋’พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร ‘บิ๊กเต้’พล.อ.สมหมาย เกาฏีระ และ ‘บิ๊กปุย’พล.อ.สุรพงศ์ สุวรรณอัตถ์ อดีตผบ.สส. ‘บิ๊กต๊อก’พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผบ.สส. ซึ่งต้องดูว่าจะเกิดปรากฏการณ์ ‘ข้ามห้วย’ มาหรือไม่ หลังว่างเว้นมาหลายปี

ส่วน ‘ปลัดกลาโหม’ ต้องจับตา ว่าจะเป็นที่รองรับ ‘คนอกหัก’ หรือไม่ เพราะปีที่ผ่านมาได้รองรับ ‘บิ๊กเข้’พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ สายทหารเสือฯ จากผู้ช่วยผบ.ทบ. มาเป็น ปลัดกระทรวงกลาโหม ครองอัตราจอมพล ก่อนเกษียณฯปี61หลัง ‘บิ๊กเจี๊ยบ’พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท สายรบพิเศษ เป็น ผบ.ทบ. ยาว 2ปี
.
แต่ ‘ผบ.เหล่าทัพ’ ก็ต่างเชื่อมั่นใน ‘บิ๊กป้อม’ หลัง ‘บิ๊กต๊อก’พล.อ.ธารไชยยันต์ ได้ออกมาคอนเฟิร์มว่า “เราเชื่อมั่นในผู้บังคับบัญชาอยู่แล้ว ก็น่าจะผ่านไปได้” เป็นการย้ำถึง ‘ปึกแผ่น’ ของ ‘เหล่าทัพ’ ที่ถูกสั่นคลอนไม่น้อยจากเรื่อง ‘บิ๊กป้อม’ เพราะเป็นทั้ง ‘พี่ใหญ่คสช.’ และ รมว.กลาโหม ของรัฐบาลชุดนี้ด้วย

งานนี้ ‘ไม่ง่าย’ แต่ ‘ไม่เกินมือ’ คสช. แน่นอน !!