คุยกับทูต | อาร์ตูร์ ดมอฮอฟสกี นักข่าว นักประวัติศาสตร์ นักการทูตโปแลนด์ (จบ)

การทูตกับความท้าทาย

“ความท้าทายสำหรับผม คือ การพยายามจัดเวลาเข้าร่วมประชุมและทำกิจกรรมต่างๆ ให้ได้ตามแผน การรักษาเครือข่ายความสัมพันธ์กับตัวแทนทางการเมือง ธุรกิจ และวัฒนธรรม การเป็นตัวแทนของประเทศโปแลนด์ในการเข้าร่วมงานที่เป็นทางการ เพื่อให้เกิดความใกล้ชิด ได้รู้จักผู้คน ได้ทำความเข้าใจ ได้มีความรู้ที่ครอบคลุมและถูกต้องเกี่ยวกับโครงสร้างทางการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศไทย”

“ผมเพิ่งเดินทางมาถึงกรุงเทพฯ เมื่อเดือนกรกฎาคมนี้เอง หลังการเลือกตั้งไม่นานนัก เป็นช่วงที่มีการถกเถียงทางการเมืองกันอย่างเข้มข้น และมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในประเทศไทย ดังนั้น เวลาส่วนใหญ่ก็หมดไปกับภาระหน้าที่ที่ผมมีความรับผิดชอบ หลายครั้งจึงไม่สามารถให้เวลากับครอบครัวได้มากเท่าที่ต้องการ”

“แต่เนื่องจากผมมีลูกสาวที่ยังเล็กมากสองคนและเพิ่งเริ่มเข้าเรียนเมื่อเรามาถึงที่นี่ ผมจึงอยากจะมีเวลาได้ดูแลเขาอย่างใกล้ชิดบ้าง”

“ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่อีกด้านหนึ่งก็คือ การทำความรู้จักกับ 77 จังหวัดในประเทศไทย ความอยากรู้อยากเห็นของผมไม่เพียงแต่ในเมืองหลวงซึ่งเป็นมหานครที่ยิ่งใหญ่อันน่าหลงใหลในภาคกลางเท่านั้น แต่ยังเป็นในภูมิภาคอื่นๆ ของประเทศไทยด้วย เพราะมีสถานที่สำคัญที่น่าสนใจให้ไปสำรวจและเยี่ยมชมอีกมากมาย”

อาร์ตูร์ ดมอฮอฟสกี (Mr. Artur Dmochowski) เอกอัครราชทูตโปแลนด์ประจำประเทศไทย ตั้งความหวังว่า “ผมจะหาโอกาสทำความรู้จักประเทศไทยให้ได้มากที่สุดในระหว่างดำรงตำแหน่งอยู่ที่นี่”


นายอาร์ตูร์ ดมอฮอฟสกี (Artur Dmochowski) เอกอัครราชทูตโปแลนด์ประจำประเทศไทย

นักการทูตไม่ใช่แค่อาชีพแต่มันคือไลฟ์สไตล์

“ผมก็มีความรู้สึกอย่างนั้นนะ”

“ลักษณะที่ชัดเจนอย่างหนึ่งของตำแหน่งนี้คือ การได้ไปอยู่อาศัยและทำงานในประเทศอื่น ซึ่งผมชอบอยู่แล้วเพราะเริ่มท่องเที่ยวมาตั้งแต่วัยเด็ก เป็นผลทำให้เวลาครึ่งหนึ่งของชีวิตหมดไปกับการทำงานในต่างประเทศ”

“จากที่ผมมีความเชี่ยวชาญในกิจกรรมทางการทูตและสื่อในกิจการระหว่างประเทศ จึงเป็นเรื่องปกติที่จะทำงานในต่างประเทศ”

“นอกจากนี้ ภรรยาของผม ซึ่งสำเร็จการศึกษาปริญญาเอกด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ก็มีอาชีพเป็นนักการทูตเช่นเดียวกัน จึงช่วยอำนวยความสะดวกในการเชื่อมโยงงานที่มักจะซับซ้อนกับชีวิตครอบครัวของเราได้เป็นอย่างดี”

งานอดิเรกและความสนใจนอกเหนือจากงานในหน้าที่

“เอาจริงๆ มันก็ยากนะที่จะหาเวลาว่าง แต่ผมชอบอ่านหนังสือ โดยเฉพาะประวัติศาสตร์ หรือชมภาพยนตร์ดีๆ ที่แน่ๆ คืออยากจะไปเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ มากกว่า เพราะตั้งแต่มาอยู่ที่นี่เมื่อเดือนกรกฎาคม ผมไปได้เพียง 3 จังหวัดเท่านั้น”

เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ค.ศ. 1364 กษัตริย์คาซิมีร์ที่ 3 (Casimir III) ทรงสถาปนามหาวิทยาลัยขึ้นในเมือง

ในความภาคภูมิใจที่เป็นคนโปแลนด์

“เราชาวโปแลนด์มีความภาคภูมิใจในประเทศของพวกเราจากประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ เรามีเหล่าวีรบุรุษผู้ทรงเกียรติมากมาย ยกตัวอย่าง ชัยชนะในยุทธการแห่งวอร์ซอ (Battle of Warsaw) ปี 1920 ที่สามารถหยุดยั้งการรุกรานยุโรปของคอมมิวนิสต์แห่งสหภาพโซเวียตไว้ได้ ส่งผลให้เกือบทั้งโลกมีสันติภาพที่ยาวนานถึง 2 ทศวรรษในเวลาต่อมา จนกระทั่งเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง”

“โปแลนด์ก่อตั้งมานานกว่า 1,050 ปี พระมหากษัตริย์ของพวกเรา และประชาชนสามารถสร้างประเทศของเราให้เป็นรัฐมหาอำนาจตลอดช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมา ด้วยเขตดินแดนการปกครองที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ณ เวลานั้น คล้ายคลึงกับ ‘สหภาพยุโรปกลาง’ ซึ่งตลอดช่วงหลายศตวรรษที่ผ่านมา โปล คือ ชาวโปแลนด์ ได้อาศัยอยู่ในรัฐที่สงบสันติ ร่วมกับชาวยูเครน ชาวเบลารุส ชาวลิทัวเนีย ชาวเยอรมัน ชาวเอสโตเนีย ชาวลัตเวีย ชาวยิว และชาวโรมาเนีย”

“พวกเราได้เสนอต่อบรรดาประเทศในภูมิภาคยุโรปกลางบ่อยครั้งในการสร้างความร่วมมือระหว่างกันให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น จากเดิมที่เหินห่างกันในอดีต ภูมิภาคแห่งนี้ซึ่งขยายจากโปแลนด์ตอนเหนือ ลงสู่ทะเลดำและทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตอนใต้ มีศักยภาพที่ซ่อนเร้นอยู่อย่างมหาศาลในเกือบ 20 ประเทศ การร่วมมือระหว่างกันของประเทศเหล่านี้ จะนำมาซึ่งผลประโยชน์อย่างมหาศาลในอนาคต รวมถึงผลประโยชน์ร่วมกันในทางภูมิรัฐศาสตร์”

การไปอยู่ต่างบ้านต่างเมือง เชื่อว่าต้องมีอาการคิดถึงบ้านกันบ้าง

“แน่นอนผมคิดถึงบ้านเกิดที่เมืองคราคูฟ (Kraków) เมืองมรดกทางวัฒนธรรมและเมืองหลวงเก่าที่สวยงาม เต็มไปด้วยอนุสรณ์สถาน โบสถ์และพิพิธภัณฑ์ ผมคิดถึงเพื่อนๆ ในวัยเด็ก รวมทั้งสถานที่เรียนนั่นคือ Jagiellonian University มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป ก่อตั้งขึ้นในยุคกลางโดยพระมหากษัตริย์ของเรา”

งานเลี้ยงเฉลิมฉลองวันชาติโปแลนด์

โปแลนด์ในวันนี้

“ปัจจุบัน โปแลนด์กำลังเติบโตอย่างเข้มแข็ง เราพัฒนาเศรษฐกิจเชิงนวัตกรรมในสหภาพยุโรป (EU) และสร้างเสถียรภาพของภูมิภาคในนาโต (NATO) เมื่อพวกเราเฉลิมฉลองวันชาติ เรารู้สึกได้ถึงความภาคภูมิใจรวมกับความรื่นเริงสนุกสนาน ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้ได้เข้าสู่ทศวรรษที่ 3 แล้ว เราถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีพลวัตรขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจที่ขยายตัวเติบโตมากเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยเป็นรองเพียงประเทศจีนเท่านั้น ด้วยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ที่เติบโตจนแซงหน้าบรรดาประเทศชั้นนำทางเศรษฐกิจของโลกในหลายๆ ประเทศ”

ทูตานุทูตร่วมงานเลี้ยงเฉลิมฉลองวันชาติโปแลนด์

ข้อความถึงผู้อ่าน

“ทุกวันนี้ เรากำลังเผชิญกับการโจมตีอันโหดร้ายต่อเสรีภาพของผู้อื่นโดยรัสเซียซึ่งประกาศอย่างเปิดเผยในการเข้ารุกรานประเทศเพื่อนบ้านซึ่งเป็นมิตรสหายของเราอย่างยูเครน และกำลังคุกคามเสถียรภาพไม่เพียงแต่ในยุโรปเท่านั้น แต่ยังคุกคามระเบียบที่อิงกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศทั้งหมดด้วย”

“โลกเสรี รวมทั้งโปแลนด์และไทยในฐานะสมาชิกของประชาคมระหว่างประเทศที่รักสันติภาพ ควรให้การสนับสนุนยูเครนในการต่อสู้ครั้งนี้อย่างต่อเนื่องและแข็งขัน”

“เราต้องแสดงความคิดเห็นของเราอย่างชัดเจนในสถาบันระหว่างประเทศ เช่น สหประชาชาติ, ให้ความช่วยเหลือยูเครนในการปกป้องบ้านเกิดเมืองนอนของพวกเขา, ต้องแก้ไขปัญหาอุดมการณ์รัสเซียอันจอมปลอม ซึ่งพยายามพิสูจน์ให้เห็นถึงนโยบายเชิงรุกของพวกเขา และเราต้องชี้ให้เห็นถึงความรับผิดชอบของรัสเซีย ที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดการขาดแคลนอาหารและการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในหลายๆ ประเทศ รวมถึงในเอเชียด้วย”

“แต่ผมมีความเชื่อมั่นอย่างมากว่า แม้สถานการณ์ระหว่างประเทศจะมีความยากลำบากเช่นนี้ หากเราพยายามร่วมกันพัฒนาความสัมพันธ์และมีความร่วมมือกันอย่างแข็งแกร่ง ก็จะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ดีในปีต่อๆ ไป ทั้งนี้ ก็เพื่อผลประโยชน์ของเราทั้งสองประเทศนั่นเอง” •

นายอาร์ตูร์ ดมอฮอฟสกี เอกอัครราชทูตโปแลนด์และภริยา ดร.โมนิกา ดโมโชวสกา (Monika Dmochowska)
เอกอัครราชทูตโปแลนด์และครอบครัว

รายงานพิเศษ | ชนัดดา ชินะโยธิน

Chanadda Jinayodhin