”สื่อยุโรป” ชื่นชม ”รัฐบาลเศรษฐา” วางรากฐานประชาธิปไตย-ส่งเสริมความเท่าเทียม มีบทบาทนำบนเวทีโลก

”สื่อยุโรป” ชื่นชม ”รัฐบาลเศรษฐา” วางรากฐานประชาธิปไตย-ส่งเสริมความเท่าเทียม มีบทบาทนำบนเวทีโลก

Colin Stevens ผู้สื่อข่าว eureporter ประเทศไอร์แลนด์ เผยแพร่บทความผ่านเว็บไซต์ eureporter เรื่อง ”ความก้าวหน้าเชิงบวกของประเทศไทย: การปฏิรูปการเมือง และประชาธิปไตย” โดยได้กล่าวถึงประเทศไทยยุคใหม่แห่งการปกครองภายใต้แนวร่วม 11 พรรคการเมือง ที่สะท้อนความโปร่งใส ความรับผิดชอบ และความครอบคลุม โดยการนำรัฐธรรมนูญ 2560 มาใช้ ซึ่งได้วางรากฐานการปฏิรูปสำคัญ โดยเฉพาะการให้ความสำคัญกับเสียงของประชาชน และรับประกันการเป็นตัวแทนของประชาชนในกระบวนการประชาธิปไตย

Colin Stevens เห็นว่า รัฐบาลชุดใหม่ในการนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ทำงานอย่างหนัก เพื่อแก้ไขความแตกแยก และสร้างความสามัคคีในสังคมไทย รวมถึงการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ที่จะมีผลสำคัญ และเป็นที่คาดหวังของประชาชนคนไทย ผ่านการพูดคุยอย่างเปิดเผย และกระบวนการมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ พร้อมเห็นว่า นายเศรษฐา เริ่มฟื้นฟูความไว้วางใจของสาธารณชนต่อกระบวนการทางการเมือง และวางรากฐานกระบวนการประชาธิปไตย ที่มีประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น ซึ่งความเป็นผู้นำของนายเศรษฐา ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกที่มีความจำเป็นอย่างมากในการเมืองไทย ซึ่งจะปูทางไปสู่การพัฒนา และความเจริญรุ่งเรืองของประเทศ

Colin Stevens ยังมั่นใจว่า รัฐบาลไทยในปัจจุบันให้ความสำคัญกับการยอมรับ และการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการปฏิรูปการเมืองในประเทศไทย โดยได้ดำเนินการเชิงรุก เพื่อขจัดความอยุติธรรมในอดีต และส่งเสริมความเท่าเทียมสำหรับทุกคน ซึ่งเมื่อไม่นานนี้ สภาผู้แทนราษฎรไทย ได้ให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญ และช่วยให้ประเทศสามารถเติบโตผ่านการตรากฎหมายที่คุ้มครองเสรีภาพขั้นพื้นฐาน และต่อต้านการเลือกปฏิบัติ

ส่วนบทบาทของรัฐบาลไทยในการนำของนายเศรษฐานั้น Colin Stevens ยังเห็นว่า รัฐบาลไทย มีส่วนร่วมอย่างแข็งขันบนเวทีระหว่างประเทศ เพื่อขยายความร่วมมือกับประเทศพันธมิตรระดับโลก และพยายามผลักดันประเด็นสำคัญต่าง ๆ ทั้ง การต่อต้านการละเมิดสิทธิมนุษยชน การช่วยเหลือผู้ลี้ภัย การส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ และการส่งเสริมความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม

Colin Stevens ยังเห็นว่า รัฐบาลไทย ยังมีภาระหน้าที่ในการบริหารราชการแผ่นดิน และยังคงมีความท้าทายอยู่ แต่รัฐบาลในการนำของนายเศรษฐา จะเปิดรับฟัง และเคารพควาหลากหลาย รักษาหลักนิติธรรม และพยายามวางบทบาทประเทศไทย ให้เป็นผู้นำภูมิภาคในเรื่องเหล่านี้ พร้อมเชิญชวนทุกคน ร่วมกันสนับสนุนประเทศไทยในการเดินทางสู่ความก้าวหน้า มั่นคั่งและความเจริญรุ่งเรืองของประเทศต่อไป