หนุ่มเมืองกรุง ฉบับ “ลอยกระทง 66”

วัชระ แวววุฒินันท์
ภาพบรรยากาศข้าราชบริพารทั้งฝ่ายหน้าและฝ่ายในการแต่งกายหมดจดงดงามเข้าร่วมในพระราชพิธีลอยพระประทีปบริเวณท่าราชวรดิฐ จิตรกรรมฝาผนังในพระวิหารหลวง วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม กรุงเทพฯ

ผมเป็นหนุ่มเมืองกรุง ชอบมุ่งแต่การงาน

พอถึงตอนเช้า ก็ก้าวเท้าออกจากบ้าน

วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำก็นองเต็มตลิ่ง

เราทั้งหลายชายหญิง สนุกกันจริงยิ่งย่ำสำราญ

ลอยกระทงกันแล้ว ขอเชิญน้องแก้วออกมารำวง

ปีนี้ขออานิสงส์ ให้ได้รำวงกันไปนานๆ

น้ำปริ่มถึงริมตลิ่ง แต่ชีวิตจริงปิ่มเจียนขาดใจ

หนี้สินที่แบกเอาไว้ มันท่วมอย่างไว…ซมซาน

กระทงนั้นมีความหมาย ว่าลอยสิ่งร้ายไปจากตัวเรา

สงสัยว่าคงต้องเหมา กระทงทุกเจ้าจึงจะพอต้าน

สิ่งร้ายมันมากทวี ตั้งแต่ต้นปีจนถึงบัดนาว

เห็นมีแต่เรื่องรุมเร้า ทุกข์ไม่บรรเทารอบด้าน

 

ฝันว่าจะได้ “เงินหมื่น” ที่เขาหยิบยื่นเป็นเรื่องเด่น

แต่เศร้าเราไม่เข้าเกณฑ์ เป็นพวกยกเว้นตามหลักการ

พอดูที่มาที่ไป เอาเงินจากไหนมาให้กันหนา

คำตอบคือ “กู้เขามา” ก็ตายล่ะหว่า…หนี้บาน

อย่าลืมยังมีหนี้เก่า จากจำนำข้าวค้างไว้

ทุจริตกระบวนการใหญ่ ยังต้องชดใช้กันไปอีกนาน

หลายเสียงออกมาท้วงติง ช่วยคิดให้นิ่งจะดีไหม

ก่อนที่จะนำมาใช้ เกิดผิดพลาดไปใครจะจัดการ

ไหนๆ จะแจกกันแล้ว ขอกระทงแก้วช่วยด้วย

อย่าให้มีเรื่องซวยๆ มาทำไทยป่วยซมซาน

 

จะลอยทิ้งซึ่งความห่วย ก็ต้อง “เรื่องส่วย” ฉาวโฉ่

สติ๊กเกอร์เห็นอยู่ทนโท่ ติดไว้เป็นโล่ผ่านด่าน

บรรทุกวิ่งกันคึกคัก ล้วนแบกน้ำหนักเกินเกณฑ์

แต่ว่าไม่มีใครเล่น เพราะว่ามันเป็นกระบวนการ

จัดทำกันเป็นทอดๆ แกล้งทำตาบอดตาใส

กฎหมายแตะต้องไม่ได้ เพราะว่าเขาใช้เงินหว่าน

กระทงช่วยลอยทีเถอะ ไอ้เรื่องเปรอะๆ “มาเฟีย”

ใช้เงิน ใช้ปืน เข้าเคลียร์ โดยใช้ศาลเตี้ย อันธพาล

คบคิดกับคนมีสี ทำเรื่องไม่ดีซ่อนเร้น

แล้วใช้อำนาจวิ่งเต้น ขอจันทร์วันเพ็ญจัดการ

ส่องแสงสว่างไสว ให้คิดกลับใจและกลับตัว

หากแม้นยังคงทำชั่ว ขอให้มืดมัวอนธการ

 

กระทงถ้าจะสวยงาม ช่วยลอย “สงคราม” ให้สิ้น

ต่อสู้เพื่อชิงแผ่นดิน จนคนดับดิ้นเกินประมาณ

ผู้นำที่บ้าอำนาจ คอยจ้องพิฆาตศัตรู

สั่งคนให้จับปืนสู้ เพื่อขอให้กูได้อยู่นานๆ

หวังจ้องเอาผลประโยชน์ ด้วยความเหี้ยมโหดทำลาย

ทรัพยากรที่มีมากหลาย จำต้องวอดวายอันตรธาน

ใช่แต่บ้านเมืองย่อยยับ ผู้คนนั้นกลับย่อยยับกว่า

เด็กๆ ที่ไร้เดียงสา พลอยถูกเข่นฆ่าน่าสงสาร

ผู้คนต้องทิ้งถิ่นที่ เคยใช้ชีวีมาเก่าก่อน

กลับกลายเป็นคนเร่ร่อน ต้องพเนจรไกลบ้าน

แม้นว่าขอจันทร์ได้จริง ขอให้ทุกสิ่งนิ่งสงบ

ไอ้เรื่องที่มันลบๆ ขอให้มันจบไปกับสายธาร

ไม่มีแล้วซึ่งฆ่าฟัน ให้คนรักกันไม่เขาไม่เรา

ช่วยเหลือเกื้อกูลบรรเทา ให้โลกของเราสุขสราญ

กระทงโปรดจงใจดี หากใครไม่มีคู่ตุนาหงัน

ให้พบกันใต้แสงจันทร์ ได้ครองคู่กันไปนานๆ

ใครไหนที่มีคู่แล้ว ขอให้ผ่องแผ้วสุขสม

ชีวิตมีแต่รื่นรมย์ สนิทสนม สนุกสนาน

 

ขอให้เมืองไทยไปโลด รุ่งเรืองช่วงโชติแจ่มจรัส

ร่วมกันทำตามความถนัด ไม่ว่าฝ่ายรัฐ หรือว่า ฝ่ายค้าน

ที่สุดคือ “ประชาชน” ให้ได้หลุดพ้นความจนยาก

ให้ได้ลืมตาอ้าปาก ข้ามความลำบากกันดาร

ปีหน้าจะได้มีใจ มาลอยกันใหม่เดือนสิบสอง

ความสุขเหมือนน้ำเนืองนอง ที่มีจันทร์ผ่องเป็นพยาน

ผมเตรียมกระทงไว้แล้ว ขาดแต่น้องแก้วตาหวาน

ไปลอยกระทงเคียงข้าง สงสัยต้องอ้างว้างใจไปอีกนาน •

 

เครื่องเคียง ข้างจอ | วัชระ แวววุฒินันท์