เหรียญพระพุทธ 6 สมัย หลวงพ่อสง่า อุทัยธานี ยอดพระเกจิวัดทัพทันฯ

“พระครูอุฬารธรรมโฆษิต” หรือ “หลวงพ่อสง่า จิตตสังวโร” อดีตเจ้าคณะอำเภอทัพทัน และเจ้าอาวาสวัดทัพทันวัฒนาราม ต.ทัพทัน อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี

พระสงฆ์นักพัฒนาผู้รอบรู้ทางด้านพระปริยติธรรม และสนใจด้านวิทยาคม ศึกษาพุทธาคมกับหลวงพ่อเคลือบ สังวรธัมโม พระเกจิชื่อดังแห่งอุทัยธานีและศึกษาเวทมนตร์ต่างๆ จากตำราของหลวงพ่อเคลือบมาโดยตลอด

เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2515 จัดสร้างวัตถุมงคลรูปหล่อเหมือนลอยองค์หลวงพ่อเคลือบ, เหรียญรูปไข่หลวงพ่อเคลือบ, เหรียญล็อกเกตรูปถ่ายหลวงพ่อเคลือบ และเหรียญ 6 สมัย เพื่อนำรายได้ไปใช้ในกิจกรรมสาธารณประโยชน์ และสนับสนุนการศึกษา

เหรียญ 6 สมัย มีความหมายถึง สมัยเชียงแสน, สุโขทัย, ล้านนา, อู่ทอง, อยุธยา และรัตนโกสินทร์

จำลองพระพุทธรูปทั้ง 6 สมัย ไว้ด้านหน้าเหรียญ จัดสร้างเป็นเนื้ออัลปาก้า 1,000 เหรียญ และเนื้อทองแดงรมดำ 1,000 เหรียญ

ลักษณะเหรียญเป็นเหรียญกลม มีหูห่วง ด้านหน้าเหรียญ มีขอบล้อมรอบ มีพระพุทธรูปแต่ละสมัย นั่ง 5 องค์ ยืน 1 องค์ทรงเครื่อง

ด้านหลังมีขอบล้อมรอบ ตรงกลางเหรียญเป็นยันต์นะ ประจำตัวหลวงพ่อสง่า มีอักขระขอมกำกับ พุท โธ ยะ สะ รอบยันต์ และตรงกลางยันต์นะ มีอักขระขอม คะ สะ ด้านบนเหรียญมีอักษรไทย เขียนว่า “๖ สมัย” ด้านล่างยันต์มีอักษรไทยเขียนว่า “วัดทับทันอุทัยธานี ๑๑ เม.ย. ๑๕”

วันที่ 11 เมษายน 2515 ประกอบพิธีพุทธาภิเษก และนิมนต์พระเกจิคณาจารย์ผู้ทรงธรรมในด้านวิปัสสนาธุระ และพระคณาจารย์ผู้เชี่ยวชาญในด้านวิทยาคมขลังในพระอุโบสถเก่าวัดทัพทันวัฒนารามนั่งปรก

พระคณาจารย์ที่เข้าร่วมพิธี อาทิ พระวิบูลวชิรธรรม (หลวงพ่อสว่าง) วัดคฤหบดีสงฆ์, พระอุดมธรรมภาณ (หลวงพ่อสม) วัดสังกัสรัตนคีรี, หลวงพ่อสมควร วัดถือน้ำ, หลวงพ่อประสิทธิ์ วัดวังม้า, หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง, หลวงพ่อเสน่ห์ วัดสว่างอารมณ์, หลวงพ่อโฉม วัดเขาปฐวี เป็นต้น

รุ่นนี้กล่าวได้ว่ามีพุทธคุณรอบด้าน ทั้งเมตตามหานิยม มหาโชคมหาลาภ แคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันตรายสูง ผู้ที่มีเหรียญ 6 สมัย ไว้ในครอบครอง ต่างมีประสบการณ์หลากหลาย เช่นเดียวกับเหรียญและรูปหล่อเหมือนหลวงพ่อเคลือบ เนื่องจากปลุกเสกพิธีเดียวกัน

เหรียญพระพุทธ 6 สมัย วัดทัพทันฯ

มีนามเดิมว่า สง่า ประวาลวรรณ เกิดเมื่อวันอังคารที่ 7 กรกฎาคม 2468 ที่บ้านเลขที่ 47 ต.หนองสระ อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี ครอบครัวประกอบอาชีพค้าขาย

เข้าพิธีอุปสมบทเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 พฤษภาคม 2488 ที่พัทธสีมา วัดหนองสระ มีพระอุดมธรรมภาณ เจ้าอาวาสวัดทัพทันวัฒนาราม และเจ้าคณะอำเภอทัพทัน เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูอุเทศกัลยานุกุล เจ้าอาวาสวัดวังสาลิกา เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระใบฎีกากลม เจ้าอาวาสวัดหนองสระ เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ได้รับฉายาว่า “จิตตสังวโร” แปลว่า ผู้มีจิตอันสำรวม

มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรม สอบได้นักธรรมชั้นเอกและเปรียญธรรม 4 ประโยค ณ สำนักเรียนคณะจังหวัดอุทัยธานี

พ.ศ.2495 ได้มาจำพรรษาที่วัดทัพทันวัฒนาราม ร่วมกับท่านเจ้าคุณพระอุดมธรรมภาณ ร่วมฒนาวัด ทำคันดินป้องกันน้ำในฤดูฝนไม่ให้ไหลออกไปนอกบริเวณวัด เพื่อให้ต้นไม้ดูดซับน้ำได้มากที่สุด

พ.ศ.2496 ริเริ่มสร้างห้องสุขาแบบใช้หัวส้วมราดน้ำ เป็นกรรมการสงฆ์อำเภอทัพทัน เป็นกรรมการตรวจธรรมสนามหลวงประโยคนักธรรมชั้นตรี เป็นกรรมการคุมกิจการโรงเรียนราษฎร์ (สามัคคีประสาสน์วิทย์) เป็นกรรมการคุมสอบบาลีสนามหลวง

พ.ศ.2502 ได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในราชทินนามที่พระครูอุฬารธรรมโฆษิต

พ.ศ.2508 ท่านเจ้าคุณพระอุดมธรรมภาณ ได้รับอาราธนาให้ไปจำพรรษาที่วัดสังกัสรัตนคีรี อ.เมือง จ.อุทัยธานี เพื่อเป็นผู้ดำเนินการควบคุมการก่อสร้างมณฑปบนยอดเขาสะแกกรังซึ่งถูกเพลิงไหม้

จึงได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดทัพทันวัฒนาราม และเป็นเจ้าคณะอำเภอทัพทัน

หลวงพ่อสง่า จิตตสังวโร

พ.ศ.2517 ได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูเจ้าคณะอำเภอชั้นเอก ในราชทินนามเดิม พ.ศ.2520 เป็นประธานหน่วยอบรมประชาชนตำบลทัพทันและอำเภอทัพทัน

พ.ศ.2532 เป็นพระปริยัตินิเทศก์

พ.ศ.2533 เป็นพระธรรมทูตประจำอำเภอทัพทัน

พระครูอุฬารธรรมโฆษิต ยังดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์กุฏิเก่าที่ชำรุด คิดออกแบบรางน้ำคอนกรีต สร้างฌาปนสถานแบบเตาเผาโดยไม่ยกพื้นสูง เป็นต้น

นับเป็นพระที่มีวัตรปฏิบัติที่งดงามยิ่ง เป็นพระสงฆ์ที่ทำจิตวิญญาณ เพื่อเป็นต้นแบบให้แก่พุทธศาสนิกชนนำไปเป็นแบบอย่างได้เป็นอย่างดี

 

ล่วงเข้าสู่วัยชรา เริ่มมีอาการอาพาธด้วยโรคถุงลมโป่งพอง เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลอุทัยธานี ตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม 2550 เป็นต้นมา โดยคณะแพทย์ได้รักษาเยียวยาอาการอย่างสุดความสามารถมาตลอดเวลา 10 เดือนเต็ม แต่ด้วยสังขารที่ร่วงโรย ทำให้ไม่สามารถยื้ออาการเอาไว้ได้

สุดท้ายได้มรณภาพลงอย่างสงบด้วยโรคชรา ที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลอุทัยธานี เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 10 พฤศจิกายน 2550

สิริอายุ 82 ปี พรรษา 62

ยังความเศร้าสลดแก่ชาวอุทัยธานีเป็นยิ่งนัก •

 

โฟกัสพระเครื่อง | โคมคำ

[email protected]