เครือข่ายทนายความสิทธิเป็นตัวแทนผู้เสียหายกรณีตากใบเตรียมยื่น ฟ้องจนท. 9 รายวันที่ 25 เม.ย.นี้

21 เม.ย.2567 ทีมทนายความจากมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม มูลนิธิผสานวัฒนธรรมและศูนย์นิติธรรมสมานฉันท์จังหวัดชายแดนภาคใต้ สภาทนายความจะเดินทางไปศาลนราธิวาสเพื่อยื่นฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐจำนวน 9 คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของประชาชนจำนวนมากในระหว่างการขนย้ายหลังถูกจับกุมในการสลายการชุมนุมหน้าสภอ.ตากใบเมื่อ 25 ต.ค. 2547 การฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ 9 รายดังกล่าว ทีมทนายความตั้งข้อหาว่ามีการหน่วงเหนี่ยวกักขัง อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา309 และมาตรา 310 การฆ่าผู้อื่นและกระทำในลักษณะที่โหดร้ายเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 และ 289 (5)และยังเป็นเจ้าพนักงาน ที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ก่อให้เกิดผลเสียหายต่อผู้อื่น เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157

ผู้เสียหายและญาติผู้ตายส่วนหนึ่งที่ได้ร่วมกันเป็นโจทก์และมอบหมายให้ทีมทนายความทำคดีมีความตั้งใจมุ่งมั่นว่า การฟ้องร้องดำเนินคดีครั้งนี้ กระทำเพื่อจะแสวงหาความยุติธรรมให้กับผู้ตาย พวกเขาไม่ได้หวังผลเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ก่อนหน้านี้มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชนของสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ติดตามความคืบหน้าของการดำเนินคดีอันควรมีเนื่องมาจากการสลายการชุมนุมที่หน้าสภ.อ.ตากใบดังกล่าว และคณะ
กรรมาธิการฯได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยการเรียกเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องไปชี้แจงแล้ว ปรากฏจากข้อมูลที่มีการชี้แจงต่อกรรมาธิการว่า ในสำนวนคดีไต่สวนการตาย พนักงาน
สอบสวนได้สรุปว่าไม่รู้ตัวผู้กระทำความผิดและไม่ทราบถึงสถานะและความมีอยู่ของสำนวนคดี ข้อเท็จจริงนี้ทำให้เห็นว่าเส้นทางการดำเนินคดีอาญาที่พึงริเริ่มโดยเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้เกิดขึ้น ใน
ขณะที่อายุความของการเป็นคดีอาญากำลังจะสิ้นสุดลงในอีกไม่กี่เดือนหน้า

แม้เหตุการณ์ตากใบจะผ่านมาแล้วเกือบ 20 ปี แต่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ากรณีดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนขวัญ มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากและด้วยวิธีการที่ทารุณโหดร้าย แม้ญาติผู้เสียชีวิตจะได้รับการเยียวยาจากภาครัฐไปแล้ว แต่ผลพวงของเหตุการณ์ยังคงเป็นที่รับรู้กันทั่วไปทั้งในระหว่างเครือญาติครอบครัวที่สูญเสียและประชาคมที่ติดตามกรณีนี้ที่ต่างต้องการความยุติธรรม แต่ขณะนี้เป็นที่ชัดเจนอย่างมากแล้วว่ากระบวนการทางคดีอาญาไม่สามารถหาผู้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ได้เพื่อจะหาตัวผู้กระทำความผิดให้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดี เพื่อให้มีการค้นหาความจริงและพฤติกรรมที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพื่อให้มีการลงโทษผู้กระทำผิดตามกฎหมาย ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นการเยียวยาความรู้สึกของครอบครัวและผู้เกี่ยวข้อง มูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม ร่วมกับมูลนิธิผสานวัฒนธรรมและศูนย์นิติธรรมสมานฉันท์จังหวัดชายแดนภาคใต้ สภาทนายความได้ร่วมกันรับมอบหมายจากผู้เสียหายและญาติผู้เสียชีวิตบางส่วนให้ดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีอาญากับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุการณ์สลายการชุมนุมและการขนย้ายดังกล่าว ทั้งครอบครัวผู้เสียหายและทีมทนายความเชื่อว่า การทำความจริงให้ปรากฎและสร้างความยุติธรรมโดยอาศัยกระบวนการทางศาลเช่นว่านี้จะส่งผลด้านดีอย่างมากต่อกระบวนการสร้างสันติภาพในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีความขัดแย้งยืดเยื้อมายาวนานถึง 20 ปี