33 ปี ชีวิตสีกากี (33) | “คําสั่งยุทธการ” ความลับราชการ หรือความมั่นคงของผู้สั่งการ

พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์

คำสั่ง และปืน

การสอนวิชามนุษยสัมพันธ์ (Human Relations) เพื่อให้นักเรียนนายร้อยตำรวจเข้ากับสังคมภายนอกได้ โดย พ.ต.ท.ปิยะ เจียมไชยศรี, พ.ต.ท.จิรัช ชูเวช, พ.ต.ต.อัมรินทร์ เนียมสกุล และ ร.ต.อ.ดนัย บำรุงกิจ เป็นอาจารย์บรรยาย ใช้ตำราเรียนของอาจารย์ธรรมรส โชติกุญชร หนังสือที่ใช้ชื่อ มนุษยสัมพันธ์, เล่มที่ 2 หนังสือชื่อ หลักมนุษยสัมพันธ์ ของอาจารย์อรุณ รักธรรม และเล่มที่ 3 เป็นหนังสือฝรั่งชื่อ หนังสือ I’m OK., You’re OK. ของ THOMAS HARRIS

กล่าวโดยสั้นเกี่ยวกับวิชานี้ เป็นวิชาที่ว่าด้วยศาสตร์และศิลป์ ในการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีกับบุคคลเพื่อให้ได้มา ซึ่งความรักใคร่ นับถือ ความจงรักภักดี และความร่วมมือ เป็นตำรวจต้องรู้จักการเป็นผู้มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี จะทำให้การทำงานราบรื่น มีประสิทธิภาพ นั่นเป็นความต้องการของทางราชการ

ง่ายๆ คือ พูดจาภาษาคนให้รู้เรื่อง

 

และยังคงเรียนวิชาทหารต่อ ไม่มีการทิ้งวิชานี้ไปโดยเด็ดขาด แม้พวกผมจะเป็นตำรวจ ก็ต้องรู้เรื่องของทหารว่าทหารเขาเป็นกันยังไง คราวนี้เรียนเรื่อง การออกคำสั่งยุทธการ ทหารเขาสั่งการกันอย่างไร และตำรวจนำมาเรียนอย่างไร การสั่งการที่ผิดๆ เราจะเอาผิดกับผู้สั่งการได้แค่ไหน

1. คำสั่งที่เป็นลายลักษณ์อักษร มีทั้ง

การออกคำสั่งตามแบบ

ออกคำสั่งโดยการเขียนเป็นข่าว

ออกคำสั่งบันทึก เพื่อยืนยันภายหลังการสั่งการด้วยวาจาแล้ว

2. คำสั่งที่สั่งด้วยวาจา

สั่งโดยตัวผู้บังคับบัญชา (สั่งเอง, วิทยุ, โทรศัพท์, วิทยุถ่ายทอด, บันทึกเสียง)

สั่งโดยอำนวยการ หรือ นายทหารคนสนิท, นายทหารติดต่อ, นำไปบอกด้วยวาจา, วิทยุ, โทรศัพท์ ฯลฯ

คำสั่งคืออะไร คำสั่งคือ การแจ้งการปฏิบัติ ให้ผู้ปฏิบัติทราบ

– แจ้งด้วยวาจา

– แจ้งด้วยลายลักษณ์อักษร

– แจ้งด้วยสัญญาณ

ชนิดของคำสั่ง

1. คำสั่งการรบ

2. คำสั่งปกติ

3. คำสั่งศาลอาญาศึก

ลักษณะของคำสั่งการรบ

1. ต้องแจ่มแจ้ง

2. ระบุรายละเอียดของการปฏิบัติไว้

3. สั้น

4. ให้เสรีในการปฏิบัติแก่หน่วยรอง

5. ใช้ประโยคบอกเล่าง่าย

6. ไม่ใช้ถ้อยคำที่มีเงื่อนไข

๗. ข้อความที่ใช้ต้องมีความหนักแน่น

๘. ออกมาให้ทันกับการปฏิบัติ

 

คําสั่งยุทธการคืออะไร คือหนทางที่ผู้บังคับบัญชาจะสั่งการ และประสานการปฏิบัติของหน่วยในบังคับบัญชา ไม่ว่าจะเป็นการปฏิบัติการยุทธหรือปฏิบัติการฝึกทางยุทธวิธี

ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ที่เกี่ยวข้องกับทหาร ถ้าเรานำเอกสารข้อสั่งการของผู้บังคับบัญชามาศึกษา เราจะพบความรับผิดทั้งทางอาญาและทางวินัยอย่างชัดเจน แต่ด้วยข้อจำกัดของระบบราชการที่คนนอกจะล้วงเข้าไปได้ นั่นคือ เป็นความลับของทางราชการ และเป็นเอกสารลับ จึงไม่สามารถนำมาเปิดเผยได้ เพราะเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ

นี่เป็นข้ออ้าง แต่โดยข้อเท็จจริงแล้ว เป็นความมั่นคงของผู้สั่งการ

ถ้าขุดคุ้ยกันจริงๆ เอาแต่ละเรื่องมาถกสาธยาย ติดคุกกันเป็นคอกเลย และมีมากด้วย ผมขอยืนยันนั่งยัน แถมนอนยันอีกที

ถ้าใครเคยสนใจและติดตามคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา คงเคยได้ยินกรณีเมื่อผมไปทำคดีค้ามนุษย์ ระหว่างการทำงานกำลังเข้มข้น ป. สั่งให้ จ. โทร.หาผม เรื่อง ขอให้ผม ยอมให้ ม. ได้ประกันตัว กรณีนี้ก็ถือเป็นคำสั่งอย่างหนึ่ง ผมจะไม่ลงรายละเอียด จะไปเล่าเมื่อผมไปทำคดีนี้แล้ว ซึ่งจะได้จาระไนและวิสัชนาให้ละเอียด ใครเป็นใคร ใครคือคนที่โกหกตอแหลเป็นอาจิณ และหลอกประชาชนทั้งประเทศมาตลอด

แน่นอนผมต้องมีหลักฐานยืนยันว่า บุคคลเหล่านี้เบื้องหลังคือภัยร้ายแรงต่อประเทศชาติ

 

พูดเกี่ยวกับวิชาทหารที่เรียนไปนิดหน่อย กลับมาว่าด้วยวิชาตำรวจกันต่อ คือ วิชาอาวุธศึกษา เรียนกันหน้าดำคร่ำเครียด อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญอาวุธปืน คือ ร.ต.อ.สรทรง รตารุณ เป็นอาจารย์จาก ตำรวจตระเวนชายแดน สอนเรื่องปืนพกลูกโม่ อาจารย์สอนว่ามีการทำงานแบ่งเป็น 2 แบบ

– แบบการทำงานเดี่ยว (Single Action)

– แบบการทำงานคู่ (Double Action) เหนี่ยวไกลูกโม่จะหมุนตามไปด้วย โดยลูกโม่จะหมุนไป 1/5 หรือ 1/6 รอบ (แล้วแต่ชนิดของลูกโม่)

ถ้าแบ่งตามการบรรจุและคัดปลอก

1. แบบหักลำกล้อง (Break Down Type)

2. แบบเหวี่ยงลูกโม่ (Swing Out Type)

ข้อแตกต่างระหว่าง Semi Automatic กับ Automatic คือ Semi Automatic แบบการทำงาน ลั่นไก รั้งปลอก คัดปลอก ขึ้นนก บรรจุ ลั่นไก

(เมื่อมีการทำงานครบรอบมาถึงขั้นบรรจุกระสุนแล้ว ถ้าปืนไม่เหนี่ยวไก กระสุนจะไม่ลั่นอีก)

ส่วน Automatic แบบการทำงาน ลั่นไก รั้งปลอก คัดปลอก ขึ้นนก บรรจุ ลั่นไก

(เมื่อมีการทำงานครบรอบมาถึงขั้นบรรจุกระสุนแล้ว ปืนก็จะลั่นไกไปโดยอัตโนมัติ เว้นแต่ผู้ยิงจะปล่อยไก ปืนนั้นก็จะไม่ลั่น)

ด้วยแหตุว่าตำรวจต้องอยู่กับอาวุธปืนตลอดเวลา เมื่อมีเหตุก็ต้องใช้อาวุธปืนเพื่อปฏิบัติการให้เกิดความปลอดภัย วิชาความรู้เกี่ยวกับอาวุธปืนจึงหลีกหนีไม่พ้น ใครชอบเรื่องปืนก็จะสนุก แต่บางคนจะเบื่อหน่ายมาก และหนีไม่ได้ ต้องเรียน

เลยต้องย้อนมาดูว่า มีอะไรที่จะต้องรู้บ้าง

 

ข้อเปรียบเทียบระหว่างปืนพกบรรจุเองกับปืนพกลูกโม่

1. จำนวนกระสุนปืนพกบรรจุเองบรรจุได้มากกว่าปืนพกลูกโม่

2. ความเร็วในการยิง ปืนพกบรรจุเองทางทฤษฎีจะยิงได้เร็วกว่าปืนพกลูกโม่

3. การบรรจุกระสุนชุดใหม่ ปืนพกบรรจุเองบรรจุได้เร็วกว่าปืนพกลูกโม่

4. ประสิทธิภาพทางขีปนะวิถี หมายถึงการรั่วไหลของแก๊ส ระหว่างหน้ารังเพลิงกับลำกล้องของปืนพกบรรจุเอง ส่วนปืนพกลูกโม่จะมีแก๊สรั่วไหลระหว่างท้ายลำกล้องกับหน้าลูกโม่

5. ความเชื่อถือ ปืนพกลูกโม่ย่อมเป็นที่ไว้วางใจ ได้ดีกว่าปืนพกบรรจุเอง ในกรณีเช่น เมื่อกระสุนด้าน ปืนพกลูกโม่สามารถจะทำการยิงได้ต่อไปเพียงชั่ววินาที แต่สำหรับปืนพกบรรจุเอง จะต้องดึงลูกเลื่อนคัดเอากระสุนด้านออก แล้วบรรจุกระสุนใหม่ลงไป ทำให้เกิดความล่าช้า

6. การสะท้อนถอยหลัง ปืนพกบรรจุเอง จะมีแรงกระแทก 2 ครั้ง

ครั้งที่ 1 คือ การสะท้อนถอยหลัง เนื่องจากแรงดันแก๊ส

ครั้งที่ 2 แรงสะท้อนเนื่องจากลูกเลื่อนวิ่งกลับเข้าที่

7. ขนาดและรูปร่าง ปืนพกลูกโม่ รูปร่างโตกว่า เนื่องจากขนาดของลูกโม่ ส่วนปืนพกบรรจุเอง จะทำให้มีขนาดเล็กอย่างไรก็ได้

8. ความปลอดภัยในปืนพกลูกโม่ เราจะสังเกตเห็นภายนอกได้ว่ามีกระสุนบรรจุอยู่ในลูกโม่หรือไม่ แต่ถ้าเป็นปืนพกบรรจุเองแล้ว แม้ว่าจะปลดซองกระสุนออก ก็ไม่แน่ว่าจะมีกระสุนบรรจุอยู่ในรังเพลิงหรือไม่