หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๑๗๒)

ฟ้า พูลวรลักษณ์

บทความพิเศษ | ฟ้า พูลวรลักษณ์

 

หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๑๗๒)

 

ระบบทุนนิยม คือระบบที่ต้องการผลตอบแทน จากทุนที่ใส่ลงไป มันจะเป็นไปได้ ถ้าสังคมมีความเจริญเติบโต และต้องเป็นความเจริญเติบโตที่ต่อเนื่อง ไม่สิ้นสุด

ซึ่งในความเป็นจริงของโลก เป็นไปไม่ได้ เท่ากับว่าระบบทุนนิยม วันหนึ่งจะดำเนินต่อไปไม่ได้ มันตายโดยตัวมันเอง

แต่การดับสลายของระบบทุนนิยม หมายถึงความดับสลายของประชาธิปไตยด้วยหรือไม่ หรือว่าระบอบประชาธิปไตย จะสามารถปรับตัวไปเป็นอื่น อันนี้ต้องคอยดูกันต่อไป

แต่ระบบทุนนิยม จะไม่ตายง่ายๆ มันคือกิ้งกือยักษ์ ที่มีขายั้วเยี้ย และขาของมันจะกระดุกกระดิกอีกนานเอาการ

หัวใจของเรื่องอยู่ที่ว่า โลกนี้กำลังเปลี่ยนแปลง สภาวะโลกร้อนกำลังเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ คุณจะปฏิเสธยังไงก็ไม่ได้ มันจะมีผลต่อชีวิตของเรา

ปัญหาสภาวะโลกร้อน ทำให้การท่องเที่ยวไม่ใช่สิ่งดี เพราะมันรบกวนธรรมชาติ เราไม่ควรสนับสนุนการท่องเที่ยว ทำให้เดินทางยากขึ้น แพงขึ้น

เช่น หากใครจะไปเที่ยวเขาใหญ่ ก็ต้องจ่ายค่าบำรุงรักษาเขาใหญ่ ใครจะเที่ยวภูเก็ต ก็ต้องจ่ายราคาบำรุงรักษาทะเลภูเก็ต หากมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น คนจะเที่ยวน้อยลง แต่กองทุนสำหรับดูแลธรรมชาติเพิ่มขึ้น ในทำนองเดียวกันกับที่เขาหิมาลัย ภูเขาเทียนซาน ภูเขาคุนลุ้น หรือป่าเขาลำเนาไพรใดก็แล้วแต่ คนเดินทางจะน้อยลง

แต่จะมีเงินไปสนับสนุน ดูแลธรรมชาติมากขึ้น

 

การท่องเที่ยว ไม่ใช่สิ่งที่ไร้ต้นทุน มันหมายถึงมีการทำทางลึกเข้าไปในธรรมชาติ ถนนสายใหม่ๆ ที่ตัดขึ้นภูเขา สิ่งเหล่านี้ล้วนรบกวนธรรมชาติ มนุษย์เดินทางด้วยความรักธรรมชาติ

แต่ความรักนี้ กลับไปทำลายธรรมชาติ และรบกวนชีวิตของพืชและสัตว์ ฉันมิได้หมายความว่าห้ามท่องเที่ยว แต่หมายถึงให้การเดินทางน้อยลง มีค่าใช้จ่ายมากขึ้น หากมีคนจำนวนมากต้องการไปที่เดียวกัน ก็กำหนดโควต้า จำกัดให้เที่ยวน้อยลง

เช่น หากมีคนหนึ่งล้านคนต้องการขึ้นเขาไท้ซาน ก็กำหนดให้เหลือสักหนึ่งแสนคน หรือหนึ่งหมื่นคน ใครจะได้โควต้า ก็มากำหนดอีกที

เรากำลังเที่ยวให้โลกนี้ดับสลาย

ระบบทุนนิยม แน่นอน ทำให้มนุษย์ฟุ่มเฟือย ทำยังไงมนุษย์จึงจะหยุดเที่ยวเตร่ หยุดความฟุ่มเฟือย หรูหรา หยุดช้อปปิ้ง หยุดการสั่งซื้อสินค้าที่ไม่จำเป็น ที่ระบบทุนนิยมออกแบบมา กลับมาเป็นคนมัธยัสถ์ สงบ ใช้ชีวิตกับการผลิตที่จำเป็น มีประโยชน์ต่อโลก

แปลกที่ว่า วิธีการมีเพียงหนึ่งเดียว ไม่ใช่ โดยการที่มนุษย์จะปรับเปลี่ยนเอง เปลี่ยนใจเอง หากแต่ด้วยการบังคับ ด้วยวิกฤตการณ์ หากมองแบบนี้ วิกฤตการณ์เหล่านี้ เป็นสิ่งดีในโลก

หากมองเช่นนี้ ไฟป่า พายุ น้ำท่วม โรคระบาด ล้วนเป็นมิตรกับโลก

ดาวเคราะห์น้อยที่วิ่งมาชนโลก ก็เป็นมิตรกับโลก

พวกมันเป็นศัตรูกับมนุษย์ แต่เป็นมิตรกับโลก

 

มีคนพูดมานานแล้วว่า วิธีการช่วยรักษ์โลกแบบง่ายๆ และมีผลฉับพลัน คือการไม่กินเนื้อสัตว์ เพราะมันจะช่วยลดการผลิตคาร์บอนได้มากมาย หากชาวโลกพร้อมใจกันเลิกกินเนื้อสัตว์ ก็ง่ายแค่นี้เอง แต่จะรอถึงวันไหน มนุษย์จึงจะยอมเปลี่ยนพฤติกรรมในการกินอาหาร

หากมีให้เลือก มนุษย์ก็จะเลือกกินเนื้อสัตว์อยู่ดี แต่วิกฤตการณ์ก็สามารถเปลี่ยนนิสัยมนุษย์ได้ มันทะลุทะลวงเหมือนไฟลามทุ่ง แล้ววันหนึ่งมนุษย์ก็จะพบตัวเอง กลายเป็นชีวิตอีกแบบ ที่กินเนื้อสัตว์น้อยมาก

๑๐

ความจำเป็นจะเปลี่ยนมนุษย์ เช่น จากกินเนื้อสัตว์ทุกวัน กลายมาเป็นกินอาทิตย์ละวัน หรือความจำเป็นบังคับให้กลายมาเป็นกินเดือนละวัน เรากำหนดไม่ได้

จากคนที่เคยเดินทางปีละร้อยครั้ง กลายมาเป็นเดินทางปีละสิบครั้ง จากนั้น หากความจำเป็นบังคับอีก กลายมาเป็นเดินทางปีละครั้ง หรือสิบปีครั้ง หรือตลอดชีวิต เดินทางเพียงแค่ครั้งเดียว สิ่งเหล่านี้ปรับเปลี่ยนได้ตามสภาวะ วิกฤตการณ์เปลี่ยนแปลงมนุษย์ได้ รุนแรงหรือไม่อยู่ที่มนุษย์จะรับมัน หากใจคุณไม่ยอมรับ มันก็รุนแรงแข็งกร้าว แทบจะทนไม่ได้ หากใจคุณยอมรับ มันก็นิ่มนวล

๑๑

ฝ่ายซ้ายรักเสรีภาพ แต่เสรีภาพจะนำไปสู่คำถาม ว่าควรหยุด ณ จุดไหน หากไม่มี มันจะล้ำเส้นไปถึงไหน

เช่น เรื่อง Sex การมีขอบเขตจำกัด จะโดนโจมตีว่าปิดกั้นเสรีภาพ เขาไม่ได้ไปผิดลูกผิดเมียใคร ไม่ได้ไปฆ่าใคร การปิดกั้น เป็นความหน้าไหว้หลังหลอกไหม เป็นการยกเอาศีลธรรมมาบีบบังคับมนุษย์อื่นไหม

ทุกวันนี้ ในเน็ต เรามี Porn จำนวนมากมายเป็นอสงไขย สิ่งนี้ดีต่อสังคมไหม ดีต่อจิตมนุษย์ไหม สมควรไหม ที่จะหาจุดหยุดยั้ง หรือว่ามันหยุดไม่ได้

เพราะถ้าหยุด ก็คือการเป็นขวา แปลกแต่จริง หากคุณเป็นซ้าย คุณก็จะหยุดไม่ได้ ต้องไปต่อ จนสุดเส้นทาง แม้ว่ามันจะเป็น Porn สุดโต่ง สุดล้ำ

แต่ขวาสุดโต่ง ก็พร้อมจะฆ่าทุกคนที่เป็น LGBTQ+

๑๒

นี้คือจุดอ่อนของซ้าย ที่หาทางออกไม่ได้ เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เพราะทุกข้อจำกัด คือขวา

ไม่ว่าคุณจะเป็นซ้ายหรือขวา พวกคุณต้องยอมรับที่จะตกขอบ มีขอบมารอรับคุณอยู่ไม่ไกลนัก

 

๑๓

มนุษย์ล้มตายมากๆ ดีไหม

นี้เป็นคำถามหนึ่งที่ยากมาก คุณจะอยู่ฝ่ายมนุษย์หรือฝ่ายดาวเคราะห์โลก เพราะสองสิ่งนี้ บางครั้งก็ขัดแย้งกัน และจำเป็นต้องเลือกข้าง

หากฉันอยู่ฝ่ายดาวเคราะห์โลก ฉันอาจดีใจที่มนุษย์ล้มตายเยอะๆ เพราะดาวเคราะห์โลกนี้จะได้เบาขึ้น หรือหากฉันอยู่ฝ่ายมนุษย์ ฉันจำเป็นต้องยอมให้ดาวเคราะห์โลกนี้ค่อยๆ ถูกกัดกร่อนทำลาย จนแหลกสลาย อย่างมากสุดคือการบอกว่า มันช่วยไม่ได้ และเราจะดิ้นรนหนีไปหาดาวเคราะห์ดวงอื่น

แต่สุดท้ายดาวเคราะห์ดวงใหม่ก็ถูกทำลายอยู่ดี ด้วยนิสัยเห็นแก่ตัว ตามเดิม

๑๔

มีคนบอกว่า ๒๐๐ ล้าน คือจำนวนประชากรของโลกที่น้อยที่สุด ที่จะยังคงดำรงอารยธรรมของมนุษย์ไว้ได้ และยังสามารถมีชีวิตที่สุขสบาย อันเนื่องมาจากอารยธรรมมนุษย์ที่สร้างสมมาช้านาน ถ้าเช่นนั้น วันใดที่มนุษย์ลดลงเหลือเท่านี้ คือวันที่เป็นข่าวดีสูงสุดของดาวเคราะห์โลก หากคุณเป็นฝ่ายดาวเคราะห์โลก คุณก็ต้องมุ่งหวังให้มนุษย์ลดลงเหลือประมาณนี้

คือการเข้าหา Minimum แทนที่จะเข้าหา Maximum

สังเกตว่า ข่าวดีสูงสุดของดาวเคราะห์โลก ก็คือข่าวร้ายสูงสุดของมนุษย์

 

๑๕

พรรค Green ที่แท้จริง ไม่ใช่ซ้าย ไม่ใช่ขวา เพราะมีจุดตัดมาแบ่งแยกไว้ หากคุณเป็น Green ที่รักมนุษย์มากกว่า คุณก็ยังไม่ใช่ Green ตัวจริง ด้วยเพราะดาวเคราะห์โลกกับมนุษย์ มีบางจุดขัดแย้งกันรุนแรง แบบออมชอมกันไม่ได้ ต้องเลือกข้าง

Green ไม่ได้เกลียดมนุษย์ เพียงแต่พวกเขาเห็นความสำคัญของดาวเคราะห์มากกว่า มุมมองนี้ไม่ผิด เหมือนคนบางคนมองชาติสำคัญกว่าปัจเจกชน เพียงแต่ครั้งนี้ คุณแทนที่ดาวเคราะห์ลงไปที่คำว่าชาติ

๑๖

ทั้งซ้ายและขวา ต่างก็รักษ์โลก ทุกคนอยากได้อากาศบริสุทธิ์ สายน้ำใสสะอาด ท้องฟ้าสีคราม สดใส แต่ซ้ายกับขวา ไม่ได้รักษ์โลกเกินกว่ารักตัวมนุษย์เอง ดังนั้น Green จึงเป็นพวกมือที่สาม พวกคนทรยศ แล้วแต่จะเรียก แล้วแต่จะมอง

๑๗

จะมีไหมนะ วันที่ดาวเคราะห์ดวงนี้จะพ้นภัย จนกว่าดาวเคราะห์โลกใบนี้ จะค่อยๆ กลับคืนมามีสีเขียว ทีละน้อย