ยามหลับ ยามนอน

พิชัย แก้ววิชิต

“ยามหลับยามนอน ไม่ได้เฝ้า เพียงแค่ฝัน”

เรื่องเล่าหลังป้อมยาม จากแม่ค้าก๋วยจั๊บและผองเพื่อน คำพูดคุยแสดงความคิดเห็นกันอย่างออกรสออกชาติ ต่างกันไกลกับรสชาติน้ำซุปก๋วยจั๊บที่อยู่ในชามของผม คำบ่นระบายอารมณ์ของแม่ค้า มาจากความไม่พอใจ ที่เธอมักผ่านไปเห็น รปภ.ประจำหมู่บ้าน แอบหลับยามในช่วงตี 4 ตี 5 อยู่เป็นประจำ เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับเธอตอนออกไปจ่ายตลาดแต่เช้ามืด

แม่ค้า : แจ้งนิติไปตั้งหลายรอบละ ก็ไม่เห็นทำอะไร ต้องรอให้ขโมยขึ้นบ้านกันก่อนละมั้งกูว่า! ไม่เหมือนลุงยามคนเก่าที่ออกไป แกคอยเป็นหูเป็นตา กระตือรือร้น เป็นการเป็นงานกว่าไอ้คนมาใหม่เยอะเลย ลุงแกเป็นยามมาตั้งหลายสิบปี เสียดาย พอลูกสาวแกไปทำงานเกาหลี แกเลยกลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด สบายไปละตอนนี้

เพื่อนแม่ค้า 1 : แหมเจ๊ สมัยเนี้ย หาคนสมัครเป็น รปภ.ยากจะตาย หนูเห็นบางคนทำงานควง 2 กะเลยนะ คนเรามันก็คงต้องมีงีบกันบางอ่ะ อดนอนซะขนาดนั้น

แม่ค้า : กูรู้! คนเรามันง่วงกันได้ แต่เค้าจ้างมาดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของลูกบ้านนะโว้ย ไม่ใช่จ้างให้มาหลับมานอน มันแอบหลับในเวลางาน แต่ลูกบ้านอย่างพวกกูนี่ละฝันร้าย! โจรยิ่งชุมอย่างกะยุง!

เพื่อนแม่ค้า 2 : ผมว่า ก่อนเจ๊จะไปตลาด แวะป้อมยามสวัสดีตอนเช้า แล้วเอากาแฟให้น้องเค้าสักกระป๋องก็ดีนะ จะได้สดชื่น

แม่ค้า : โถ! ยามหลับยามนอน

“คุณค่าของตัวเอง” สมบัติเพียงชิ้นเดียวและเป็นชิ้นสุดท้าย คงไม่สนุกนักถ้ามันหายไปจากชีวิตน้อยๆ “คุณค่า” ที่เกินราคาควรจะอยู่กับเราเสมอ และใครกันจะเป็นยามดูแลได้ดีเท่ากับการได้เฝ้าดูแลตัวเอง และพร้อมเสมอที่จะเป็นยามกะเดียวให้ทั้งชีวิตของตัวเอง แม้ใน “ยามหลับยามนอน” / เทคนิค : F.6 1/80s ISO400 / สถานที่ : บ้านผู้เขียน

บทสนทนาของแม่ค้าก๋วยจั๊บและผองเพื่อนยังคงดำเนินต่อไป แต่สิ่งใกล้จะจบลงแล้วในยามนี้คือก๋วยจั๊บที่อยู่ในชาม น้ำซุปถูกซดพร้อมกับตับหมูชิ้นสุดท้ายและเป็นชิ้นเดียวที่ได้มา ผมหันหน้าไปมองแม่ค้าที่กำลังอยู่ในอารมณ์ แล้วยกมือซ้ายขึ้นเล็กน้อยแต่พองาม “เก็บตังค์ครับ”

ผมก้าวออกจากร้าน หันหลังให้กับเรื่องราวที่เพิ่งได้ยิน แอบหวังเล็กๆ กับ “ปัญหายามหลับยามนอน” นี้ จะได้รับการแก้ไขและจบลงด้วยดีในเร็ววัน

ระหว่างทางผมยังนึกถึงคำประชดประชันของแม่ค้าที่ได้พูดออกมา “ยามหลับยามนอน” คำแถมท้ายจากร้านก๋วยจั๊บที่ชวนให้คิดตามในความหมายอื่น

บางครั้งกับคำบางคำ ก็ทำให้คิดไปไกลจนออกนอกลู่นอกทาง กับความสงสัยเล็กๆ น้อยๆ ของผม ถ้าหากคนเรามีหน้าที่ต้องดูแลและปกป้องบางสิ่งที่ต่างออกไปจากทรัพย์สินอื่นใดที่มีราคา กับการเฝ้าดูแลไม่ให้หายไป กับสิ่งที่เรียกว่า “คุณค่าของตัวเอง” จะมีใครเป็น “ยามหลับยามนอน” และถูกขโมยไปแล้วบ้างกับสิ่งสำคัญนี้

“คุณค่าของตัวเอง” สมบัติเพียงชิ้นเดียวและเป็นชิ้นสุดท้าย คงไม่สนุกนักถ้ามันหายไปจากชีวิตน้อยๆ “คุณค่า” ที่เกินราคาควรจะอยู่กับเราเสมอ และใครกันจะเป็นยามดูแลได้ดีเท่ากับการได้เฝ้าดูแลตัวเอง และพร้อมเสมอที่จะเป็นยามกะเดียวให้ทั้งชีวิตของตัวเอง แม้ใน “ยามหลับยามนอน”

ขอบคุณมากมายครับ •

 

เอกภาพ | พิชัย แก้ววิชิต