แม่หวาน ละมุนมัม : ความจำสีรุ้ง บ้านสวนธรรม (29)

คอลัมน์ปรุงในครัวทัวร์นอกบ้าน

ไม่ถึงอึดใจผู้ช่วยหล้าก็มาถึงสวนธรรม เมื่อเธอเดินไปใกล้เธอก็แสดงความมั่นใจออกมาเต็มที่ว่า

–ใช่แน่ๆ พี่ นี่แหละพี่เห็ดโคนเลยละ ดูไกลๆ ก็รู้เพราะสีขาวจะส่องประกายเด่นเลยพี่ ยิ่งกลางคืนมืดๆ นะพี่ดอกเห็ดโคนนี่เป็นประกายขาวชัดเลยละ

–โหพี่ ปกติพวกหนูต้องปีนเข้าป่าหากันเกือบตายนะพี่กว่าจะได้มา แล้วพี่ดูสิ ของพี่นี่เบ่งบานในบ้านเลยนะสุดยอดจริงๆ

ผู้ช่วยหล้าพร่ำพรรณนาไปเรื่อยๆ ด้วยความตื่นเต้น

–พี่หนูตาลายไปหมดแล้ว

เธอตั้งใจเก็บ ตั้งใจขุดทีละน้อย ทีละน้อย ค่อยๆ วางเห็ดทุกดอกลงบนกระด้งไม้ไผ่และจัดวางเรียงอย่างสวยงาม เท้าเธอก็ไม่ได้เหยียบไปบนดินที่เห็ดขึ้น

–พวกหนูหาของป่ากินกันค่ะ เราจะไม่วางเห็ดโคนลงดิน แล้วก็จะไม่เหยียบไปบนดินของเห็ดด้วยพี่

เธอบอกว่าแม่เธอสอนมาตั้งแต่เด็กจนจำได้ขึ้นใจ เห็ดเทวดาให้มาเช่นนี้ต้องมีความเคารพในการเก็บ

–เห็นว่าถ้าเอาข้าวสารโรยแล้วจะขึ้นเยอะในปีถัดไปนะ

ฉันพูดขึ้นตามความรู้ที่มีบ้าง

–โอ้ย ไม่ได้หรอกพี่ เอาข้าวสารไปโปรยในป่าในเขา ชาวบ้านที่แย่งกันหาก็รู้ตำแหน่งหมดสิพี่ เราจะแย่เอานะ

จริงสินะเธอพูดถูก เอาข้าวไปโปรยก็เหมือนการไปชี้ตำแหน่งของเห็ดให้คนอื่นรู้เท่านั้นเอง

ผู้ช่วยหล้าก้มๆ เงยๆ พยายามเดินอ้อมไปอ้อมมาเพื่อไม่ให้เหยียบดินบริเวณที่เห็ดขึ้น เธอเคลื่อนไหวอย่างคล่องตัวและราบเรียบอย่างมีศิลปะที่ฉันเองก็ลอกเลียนแบบไม่ได้

–หนูตาลายหมดแล้วพี่ เยอะไปหมด

เธอพูดด้วยความตื่นเต้นดีใจ เอาผ้าขนหนูที่คล้องคอมาเช็ดเหงื่อบ้าง พลางหัวเราะสนุกสนานและช่วยฉันเก็บเห็ดจนหมดสิ้น

 

–ทั้ง อบต. ตื่นเต้นกันมากเลยนะหวาน

บทสนทนาในโต๊ะอาหารยังคงดำเนินไปอย่างสนุกสนาน ใครคิดอะไรอย่างไรก็ชงกันมาเรื่อยๆ

–เห็ดโคนย่างเนยก็อร่อยนะ

–ข้าวเห็ดโคนที่หวานเคยทำก็อร่อย อยากกินอีก

–เห็ดเทวดาที่ธรรมชาติให้หวานมานี่สุดยอดเลยนะ

–ทำไมมันอร่อยหอม หวาน กรอบ กว่าที่เคยกินก็ไม่รู้นะ

–โชคดีนะที่เจอเห็ดทันเวลา ไม่งั้นเน่าหนอนขึ้นและจะเสียหมด

–หวานมีบุญจริงๆ เลย

–ดินดีนะคงใส่ปุ๋ยเยอะสิ

–หวานดูแลดินได้ดีมากๆ เลย

–ปีหน้าหวานจะทำอย่างไร น่าจะเยอะกว่าปีนี้นะ

–ชาวบ้านรู้แล้วนะว่าบ้านสวนธรรมมีเห็ดโคน ฯลฯ

 

บางเวลาสมองฉันไม่ได้ร่วมอยู่ในบทสนทนาด้วยเลย สายตาฉันได้แต่มองเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ฉันเชิญมาแบ่งปันอาหารร่วมกันนิ่งนาน ฉันดีใจที่ได้แบ่งปัน ดีใจที่เห็นพวกเขาอร่อยและมีความสุข เพราะภาพข้างหน้าก็ทำให้ฉันมีความสุขเช่นกัน ส่วนสมองและวิญญาณฉันนั้นไปไกล

ฉันเดินไปเปิดกล่องข้าวสาร ถือถ้วยใส่ข้าวเดินเข้าไปในสวนผัก ยืนมองเนินดินที่บัดนี้มีแต่สีดำไร้ซึ่งประกายสีขาวที่ทำให้ใจใครต่อใครลิงโลดมาอย่างสุดแสน มือสองข้างพนมขึ้นกลางอกแล้วขึ้นไปบนหน้าผาก กราบขอบคุณพระภูมิเจ้าที่ที่ปกปักรักษาผืนแผ่นดินนี้ กราบขอบคุณเทวดาที่ได้สร้างสรรค์ ธรรมชาติงดงามขึ้นเพื่อมวลมนุษย์

สิ่งดีๆ จะเกิดขึ้นเมื่อมีความสมดุล ความสมดุลที่ฉันควบคุมได้ของสภาพดินที่ฉันหมั่นดูแล ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ และยอมอยู่ร่วมกันกับสรรพสัตว์ ยอมแบ่งปันพืชผักให้กับนกมดแมลง ความสมดุลที่ฉันควบคุมไม่ได้ของอากาศ ความสมดุลของปลวก ทั้งปลวกไม้ชื้น ปลวกใต้ดิน และจอมปลวกที่ไม่ได้ทำลายบ้านเรือน

เมื่อสมดุลในธรรมชาติเกิดความพร้อมก็จะเกิดตามมา สิ่งดีๆ ที่เหล่ามนุษย์สมควรได้รับ สมควรได้สัมผัสก็จะเกิดขึ้น ในทางตรงกันข้ามถ้าเราหมั่นทำลายธรรมชาติ หมั่นทำลายสมดุล ความพร้อมจะไม่เกิด สิ่งดีๆ ที่มนุษย์ควรได้รับก็จะหดหายไป สารพิษในอากาศ ความหลอกลวงของแหล่งอาหาร คือการฆ่าตัวตายที่เราทำอยู่ทุกวี่วัน มนุษย์ไม่สมควรได้รับความทุกข์ทรมานเหล่านี้เลย

ขอเพียงแค่เราเคารพในธรรมชาติ ไม่ทำลายธรรมชาติ อยู่ด้วยกันให้เกิดสมดุล ไม่เห็นแก่ตัว ไม่เห็นแก่ได้ รู้จักความพอเพียงในการใช้ชีวิต ความเอื้อเฟื้อและแบ่งปัน วันนั้นความพร้อม ความสมดุลแห่งความสงบสุขจะกลับมา

แน่นอนคุณก็จะเป็นอีกคนหนึ่งที่มีบุญ ที่จะได้รับอาหารจานพิเศษจากเทวดา