ก่อสร้างและที่ดิน | รับสร้างบ้านยอดจองพุ่งทำลายสถิติ

รับสร้างบ้านยอดจองพุ่งทำลายสถิติ

 

ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์บ้าน คอนโดฯ ผ่านวิกฤตโควิด-19 ปี 2563-2564 มาได้อย่างแข็งแกร่ง ด้วยโครงสร้างทางการเงินที่ดีหนี้ต่อทุนต่ำ ด้วยโปรดักต์ทาวน์โฮม บ้านแฝด บ้านเดี่ยวที่พัฒนาต่อเนื่องตรงความต้องการตลาด

และที่สำคัญการบริหารจัดการที่ปรับตัวได้อย่างรวดเร็วทันสถานการณ์

ขณะเดียวกันเมื่อการแพร่ระบาดซาลง การฟื้นตัวในปี 2565 ก็ทำได้อย่างสวยงาม ยอดจอง ยอดขาย กำไร การเติบโตมีการทำลายสถิติของวงการอสังหาฯ ทำลายสถิติของตัวเอง ของบรรดาอสังหาฯ รายใหญ่กลุ่มนำตลาด ไม่ว่าจะเป็นเอพี., ศุภาลัย, เอสซี แอสเซ็ท, แสนสิริ และออริจิ้น

หันมาดูธุรกิจใกล้เคียง คือ ธุรกิจรับสร้างบ้าน ซึ่งเป็นธุรกิจที่ให้บริการส่งมอบที่อยู่อาศัยให้กับลูกค้าเช่นกัน เพียงแต่ธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ โครงการบ้าน-คอนโดฯ ใหม่ ขายที่ดินพร้อมบ้านหรือห้องชุดให้แก่ผู้ซื้อ ส่วนธุรกิจรับสร้างบ้าน รับสร้างบ้านบนที่ดินที่มีอยู่แล้วของลูกค้า

งานรับสร้างบ้านและวัสดุ expo 2022 ระหว่างวันที่ 14-18 กันยายน 2565 ที่ผ่านมาซึ่งเป็นงานใหญ่ประจำปีของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน มียอดจองซื้อในงานสูงเป็นประวัติการณ์ มียอดจองในงาน 4,300 ล้านบาท คาดจะมีการจองเพิ่มหลังจากงานอีกประมาณ 2,000 ล้านบาท

ทำลายสถิติสูงสุดรอบ 18 ปีนับแต่มีการจัดงานมา

 

นายวรวุฒิ กาญจนกูล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ให้รายละเอียดว่า สัดส่วนบ้านที่มียอดจองปลูกสร้างในงานครั้งนี้ แบ่งตามระดับราคา ได้แก่ (1) ระดับราคาต่ำกว่า 2.5 ล้านบาท 2.8% (2) ระดับราคา 2.5-5.0 ล้านบาท 40.2% (3) ระดับราคา 5-10 ล้านบาท 34% (4) ระดับราคา 10-20 ล้านบาท 15% และ (5) ราคามากกว่า 20 ล้านบาท 8%

เมื่อเปรียบเทียบกับข้อมูลการจองปลูกสร้างบ้านในงานปี 2021 พบว่ามีความเปลี่ยนแปลง ได้แก่ บ้านระดับราคา 2.5-5.0 ล้านบาท มีการปรับตัวลดลงมากที่สุดถึง 15%

ขณะที่บ้านระดับราคา 10-20 ล้านบาทมียอดจองเพิ่มขึ้นถึง 28% และบ้านระดับราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป มียอดจองเพิ่มขึ้น 13%

นอกจากนี้ ยังพบว่า มีสัญญาณการขยายตัวของความต้องการปลูกสร้างบ้านในต่างจังหวัด โดยเฉพาะภาคอีสานและภาคตะวันออก

 

เห็นได้ชัดเจนว่า ทิศทางตลาดที่อยู่อาศัยประเภทพัฒนาโครงการบ้าน คอนโดฯ ใหม่ กับธุรกิจรับสร้างบ้านในช่วงการฟื้นตัวปี 2565 เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งในภาพรวมของตลาด และส่วนย่อยแต่ละระดับราคา

ผู้ที่ซื้อที่อยู่อาศัยทั้งบ้าน คอนโดฯ โครงการใหม่ หรือรับสร้างบ้าน ระดับราคา 10-20 ล้านบาทและมากกว่าขึ้นไป กำลังซื้อยังคงแข็งแกร่ง

แต่กำลังซื้อระดับราคา 2.5-5.0 ล้านบาท อ่อนกำลังลง ถ้าเป็นตลาดบ้าน คอนโดฯ โครงการใหม่ก็จะมีปัญหากู้ไม่ผ่านมาก

กลุ่มระดับราคานี้ คือกลุ่มผู้ซื้อที่มีรายได้ประจำรายเดือนประมาณ 50,000-100,000 กว่าบาท หรือกลุ่มคนชั้นกลางนั่นเอง

สรุปได้ว่า ธุรกิจที่อยู่อาศัยทั้งพัฒนาอสังหาฯ และรับสร้างบ้านฟื้นตัวหลังโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี

แต่มีประเด็นที่กำลังซื้อคนชั้นกลางที่เป็นคนส่วนใหญ่ที่อ่อนตัวลง และยังถูกกดทับด้วยปัญหาหนี้สินครัวเรือนอัตราสูงเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะกลายเป็นปัญหาทางเศรษฐกิจสังคมในระยะต่อไป •

 

ก่อสร้างและที่ดิน | นาย ต.