รายงานพิเศษ

 

โผทหารฉบับ 2 ป.

จาก ‘บิ๊กตู่’ สู่ ‘บิ๊กป้อม’

ตึกไทยคู่ฟ้า มาป่ารอยต่อฯ

‘บิ๊กหนุ่ม-บิ๊กจอร์จ’

ตท.23 ยึด ทร.

‘บิ๊กป้อม’ เต็งแม่ทัพฟ้า

 

หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หยุดปฏิบัติหน้าที่ ตั้งแต่ 24 สิงหาคม 2565 ในระหว่างรอศาลวินิจฉัยวาระนายกฯ 8 ปี ส่งผลสะเทือนถึงโผโยกย้ายทหารทันที

แม้ พล.อ.ประยุทธ์จะปฏิบัติหน้าที่ รมว.กลาโหมต่อได้ และประชุมบอร์ด 7 เสือกลาโหมได้ แต่ท้ายที่สุด คนทูลเกล้าฯ โผทหาร คือ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ที่เป็นรักษาการนายกฯ

ต้องไม่ลืมว่า พล.อ.ประวิตรถูกกันออกจากการจัดทำโผทหารมาตั้งแต่หลุดจาก รมว.กลาโหม โดย พล.อ.ประยุทธ์จัดเองทั้งหมด นายทหารสายบิ๊กป้อมไม่ได้ตำแหน่งก็ไม่น้อย

แม้ว่านายทหารในสายอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร จะเป็นพวกเดียวกัน แต่มีความสนิทสนมไม่เท่ากัน และแนวทางของ พล.อ.ประวิตรอาจแตกต่างกับที่ พล.อ.ประยุทธ์ได้จัดทำเอาไว้

เดิม พล.อ.ประยุทธ์นัดประชุมสภากลาโหม 25 สิงหาคม แต่เลื่อนการประชุมบอร์ด 7 เสือกลาโหม เพื่อพิจารณาบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายนายทหาร จะเลื่อนออกไป จาก 25 สิงหาคม เป็น 30 หรือ 31 สิงหาคม

แต่เมื่อสถานการณ์เปลี่ยน เมื่อถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ยังทำหน้าที่ รมว.กลาโหมได้ แต่ก็คงจะมอบหมายให้บิ๊กช้าง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ทำหน้าที่แทน

อีกทั้งในทางปฏิบัติ พล.อ.ประยุทธ์ได้ดูโผที่แต่ละเหล่าทัพส่งมายังกลาโหมแล้ว และได้หารือ ผบ.เหล่าทัพนอกรอบ ในการรับประทานอาหารค่ำด้วยกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วด้วย

จึงรอแค่การประชุม 7 เสือกลาโหม ที่จะพิจารณาพอเป็นพิธี ตามระเบียบกลาโหมเท่านั้น คงใช้เวลาไม่กี่นาทีก็จบ

เหตุที่ต้องเลื่อนการประชุม 7 เสือกลาโหม จากวันเดียวกับการประชุมสภากลาโหม 25 สิงหาคม ที่จะคุยวงเล็กกัน 7 คนก่อน ออกไปนั้น เนื่องจาก ผบ.เหล่าทัพอยู่ไม่ครบ

บิ๊กเฒ่า พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผบ.ทร. เดินทางไปอำลากองทัพเรือในอาเซียน จึงขอเลื่อนการประชุมออกไป เพราะจะให้ใครประชุมแทนไม่ได้ และเกรงว่าโผจะมีปัญหา เพราะรู้ว่าฝ่ายสนับสนุนบิ๊กโต้ง พล.ร.อ.ธีรกุล กาญจนะ รอง ผบ.ทร. ยังคงเคลื่อนไหว และตั้งความหวังไว้ที่ พล.อ.ประยุทธ์

จึงไม่แปลกที่ พล.ร.อ.สมประสงค์จะเก็บโผไว้กับตัวให้นานที่สุด ส่งโผเป็นเหล่าทัพสุดท้าย ที่ยังคงยืนยันแน่วแน่ในการเสนอชื่อบิ๊กจอร์จ พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผช.ผบ.ทร. เป็น ผบ.ทร.คนใหม่

งานนี้ พล.ร.อ.สมประสงค์ต้องใช้ความพยายาม และทุกกลยุทธ์ ในการสกัดกั้น พล.ร.อ.ธีรกุล ด้วยการชี้แจงกับ พล.อ.ประยุทธ์ และบิ๊กช้าง พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม และใช้พลังเตรียมทหาร 20 หนุนหลัง

เพราะ ตท.20 มีทั้งบิ๊กหน่อย พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ ปลัดกลาโหม ที่เป็น กก. และเลขานุการบอร์ด 7 เสือกลาโหม และเป็นน้องรักสายตรงนายกฯ เช่นเดียวกับบิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ รองราชเลขาธิการ และอดีต ผบ.ทบ. น้องรักนายกฯ และบิ๊กณัฐ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ อดีตปลัดกลาโหม สายตรงบิ๊กป้อม

จึงยากที่ ตท.21 รุ่นของ พล.ร.อ.ธีรกุลจะสู้พลังได้ แม้จะมีบิ๊กแก้ว พล.อ.เฉลิมะล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทหารสูงสุด และบิ๊กป้อง พล.อ,อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผบ.ทอ.ก็ตาม แต่ในการประชุมบอร์ด ผบ.เหล่าทัพก็มักไม่แสดงความคิดเห็น หรือก้าวก่ายของเหล่าทัพอื่น ให้เป็นอำนาจของ ผบ.เหล่าทัพ และนายกรัฐมนตรี อีกทั้ง พล.อ.เฉลิมพลก็เป็นน้องรักของ พล.อ.อภิรัชต์

แต่ก็เกิดกระแสข่าวสะพัดใน ทร. ว่า จะมี “ม้ามืด” หลังมีข่าวว่าจะมีการปรับหลักเกณฑ์ ผบ.เหล่าทัพ จะต้องมีอายุราชการ 2 ปีขึ้นไป ชื่อของ พล.ร.อ.โกวิท อินทร์พรหม ผู้ทรงคุณวุฒิ ทร. อดีต ผบ.ทัพเรือภาคที่ 1 เตรียมทหาร 23 ที่เกษียณ 2567 ก็ถูกพูดถึง แต่ก็เป็นม้านอกสายตา

ขณะที่บิ๊กวิน พล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข ผบ.กองเรือยุทธการ แม้จะมีอายุราชการเหลือ 3 ปี แต่ก็ยากที่จะได้ขึ้นมา เพราะยังมีรุ่นพี่อยู่ในโผนี้ พล.ร.อ.สุวินก็หวิดถูกเตะออกไปเป็นรอง เสธ.ทหาร บก.ทัพไทย เพราะ พล.ร.อ.สมประสงค์ต้องการวางตัวทายาท ผบ.ทร.คนต่อๆ ไป

แต่ด้วยความอาวุโส เพราะเป็น ผบ.กร. และเป็นพลเรือเอกอยู่แล้ว และเป็นนายทหารโปรไฟล์ดี และมีผลงาน รวมทั้งเป็นน้องชายบิ๊กปั๊ด พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ที่กำลังจะเกษียณ จึงทำให้ยังมีชื่ออยู่ใน 5 ฉลามทัพเรือ ระหว่าง ผบ.กร.ที่เดิม หรือ ผช.ผบ.ทร.

เพราะ พล.ร.อ.สมประสงค์ มีนายทหารน้องรัก ที่ต้องการให้เป็น ผบ.ทร.ต่ออยู่ 3 คน แต่มีว่างแค่ 2 เก้าอี้ จึงต้องเลือกระหว่างบิ๊กโอ๋ พล.ร.ท.ชลธิศ นาวานุเคราะห์ เจ้ากรมยุทธศึกษา ทร. และบิ๊กดุง พล.ร.ท.อะดุง พันธุ์เอี่ยม เจ้ากรมสื่อสารทหารเรือฯ ที่เป็นเตรียมทหาร 23 ทั้งคู่ และบิ๊กน้อย พล.ร.ท.วรวุธ พฤกษารุ่งเรือง เตรียมทหาร 24 หัวหน้าคณะนายทหารฝ่าย เสธ.ประจำ ผบช.

จนทำให้มีการขับเคี่ยวกันเอง จากที่ พล.ร.ท.วรวุธจะได้เป็น เสธ.ทร. หรือ ผบ.กร.นั้น แต่มีแนวโน้มว่า พล.ร.อ.สมประสงค์จะเลือก พล.ร.ท.ชลธิศ และ พล.ร.ท.อะดุง ขึ้นมาอยู่ใน 5 ฉลามทัพเรือ เพราะหาก พล.ร.อ.สุวินเป็น ผบ.กร.ต่อเป็นปีที่ 2 พล.ร.ท.อะดุงก็จะเป็น ผช.ผบ.ทร. และ พล.ร.ท.ชลธิศ เป็น เสธ.ทร.

แล้วให้ไปชิง ผบ.ทร.กันปลายปีหน้า ตุลาคม 2566 เมื่อ พล.ร.อ.เชิงชายเกษียณ ถ้าหากผองเพื่อน ตท.23 ตกลงกันได้ พล.ร.ท.อะดุงก็จะขึ้นเป็น ผบ.ทร.ก่อน 1 ปี เพราะเกษียณกันยายน 2567 จากนั้น พล.ร.ท.ชลธิศก็เป็น ผบ.ทร.ต่ออีก 1 ปี

แต่หากต้องการจะสกัด พล.ร.อ.สุวิน ก็อาจจะดัน พล.ร.ท.ชลธิศขึ้น ผบ.ทร. นั่ง 2 ปี เกษียณกันยายน 2568 พร้อมกันเลย

ทั้งนี้ ใน ทร.รู้กันดีว่า พล.ร.อ.สมประสงค์วางตัว พล.ร.อ.เชิงชายเป็น ผบ.ทร.แล้วต่อด้วย พล.ร.ท.ชลธิศนั่นเอง

ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้พูดในตอนหนึ่ง ในการรับประทานอาหารค่ำกับปลัดกลาโหม ผบ.ทหารสูงสุด ผบ.เหล่าทัพ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ให้ พล.ร.อ.สมประสงค์จัดการโผ ทร.ให้เรียบร้อย อย่าให้เกิดปัญหาความขัดแย้ง และให้เลือกคนดี มีความสามารถ

จนทำให้ตีความกันว่า เป็นสัญญาณว่า พล.อ.ประยุทธ์จะเข้ามาแก้ปัญหาใน ทร.เองหรือไม่ เพราะไม่เช่นนั้น ความขัดแย้งภายในก็จะถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น จากการสกัดขั้วอำนาจของบิ๊กลือ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ อดีต ผบ.ทร. จนทำให้ ทร.วุ่นวาย

แต่เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ถูกศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ และ พล.อ.ประวิตรเป็นรักษาการนายกฯ ก็ทำให้สถานการณ์ใน ทร.เปลี่ยน เพราะ พล.ร.อ.สมประสงค์สนิทสนมกับ พล.อ.ประวิตร และโดยเฉพาะ พล.อ.ณัฐ ลูกรักบิ๊กป้อม ที่เป็นเพื่อนรัก ตท.20

ดังนั้น โอกาสที่ พล.อ.ประยุทธ์จะคืนความชอบธรรมให้ พล.ร.อ.ธีรกุล ที่อาวุโสสูงสุด และเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็น ผบ.ทร.มาแล้วครั้งหนึ่ง แต่หลบทางให้ พล.ร.อ.สมประสงค์มาเป็น ผบ.ทร. นั้นจึงยากที่จะเกิดขึ้น และคาดว่า พล.ร.อ.ธีรกุลจะถูกเตะไปเป็นรองปลัดกลาโหม ตามที่ พล.ร.อ.สมประสงค์เสนอมาตั้งแต่ต้น

แต่คาดว่า พล.อ.ประวิตรคงไม่เปลี่ยนแปลงแก้ไขโผทหารมากนัก เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ยังเป็น รมว.กลาโหมอยู่

ขณะที่ทุ่งดอนเมือง มีเรื่องให้เซอร์ไพรส์อีกครั้ง เพราะการเดาใจ เดาทาง เดาสไตล์บิ๊กป้อง พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผบ.ทอ. แล้วเชื่อกันใน ทอ.ว่า จะดันบิ๊กต้น พล.อ.อ.คงศักดิ์ จันทรโสภา ผบ.คปอ. หรือ Rocket น้องรัก นักบิน F16 ที่อยู่กองบิน 1 ด้วยกันมา รู้ใจกันที่สุด เป็น ผบ.ทอ.คนใหม่

แต่มีข่าวสะพัด ทอ.ว่า พล.อ.อ.นภาเดชเสนอชื่อบิ๊กป้อม พล.อ.อ.ธนศักดิ์ เมตะนันท์ รอง ผบ.ทอ. เป็น ผบ.ทอ.คนใหม่ แบบพลิกความคาดหมาย

แม้ พล.อ.อ.ธนศักดิ์ ไม่ใช่นักบิน F16 เป็นนักบิน OV-10 ก็ตาม

แต่ทว่า เป็นประธานคณะกรรมการศึกษา F35 และมีบทบาทสำคัญในการทำโครงการจัดซื้อ F35 และเป็นอดีต ผช.ทูต ทอ. ประจำวอชิงตัน ดี.ซี. ที่อาจเอื้อต่อการประสานงานโครงการ F35 ด้วย

พล.อ.อ.นภาเดชเคยบอกกับสื่อว่า ปัจจัยในการเลือก ผบ.ทอ.คนใหม่ ไม่ได้เลือกเพราะความสนิทสนมใกล้ชิดส่วนตัว แต่มองภาพรวม ทอ. และให้ความสำคัญกับเรื่องนิสัยใจคอ จิตใจ ซื่อตรงมั่นคง และเรื่องงานในหน้าที่เป็นหลัก และไม่จำเป็นต้องเป็นนักบิน F16

คาดกันว่า พล.อ.อ.นภาเดชให้ความสำคัญกับภารกิจ F35 เป็นหลัก เพราะ พล.อ.อ.ธนศักดิ์มีอายุราชการ 2 ปี จะสามารถทำงานได้ต่อเนื่อง

ดังนั้น บิ๊กไก่ พล.อ.อ.พันธุ์ภักดี พัฒนกุล เสธ.ทอ. ประธานโครงการ F35 และเป็นคนไปชี้แจงงบประมาณ แก้ปัญหาต่างๆ ในสภา ที่โผนี้จะขึ้นมาเป็น ผช.ผบ.ทอ. เตรียมจ่อเป็น ผบ.ทอ.ต่อในปี 2567

 

สําหรับทุ่งดอนเมือง ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เกิดเรื่องเกินคาด ในตำแหน่ง ผบ.ทอ.มาเสมอๆ เพราะก่อนหน้านี้ พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ผบ.ทอ. ก็ผ่าทางตัน เลือกบิ๊กแอร์ พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ จากผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทอ. มาเป็น ผบ.ทอ.แทน ทั้งๆ บิ๊กจ้อ พล.อ.อ.ธรินทร์ ปุณศรี ผช.ผบ.ทอ. เพื่อน ตท.20 เป็นเต็งหนึ่งอยู่

จากนั้น พล.อ.อ.แอร์บูลก็เลือกบิ๊กป้อง พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ เพื่อน ตท.21 เป็น ผบ.ทอ.แทน ทั้งๆ ที่สนิทสนมใกล้ชิดเป็นเพื่อนรักกับบิ๊กตั้ว พล.อ.อ.สฤษฏ์พงศ์ วัฒนวรางกูร อย่างมาก

พอโผนี้ พล.อ.อ.คงศักดิ์ เป็นเต็งหนึ่งมาตลอด แต่ที่สุด ชื่อที่ถูกเสนอขึ้นไปคือ พล.อ.อ.ธนศักดิ์ ที่ก็เป็นเพื่อน ตท.22 ของ พล.อ.อ.คงศักดิ์

เป็นอันยุติการวางทายาทน้องเลิฟ ต่อคิวกันขึ้นมา ตั้งแต่ พล.อ.อ.คงศักดิ์ที่เกษียณ 2566 หรืออาจจะเป็นบิ๊กคุด พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผช.ผบ.ทอ. ที่สนิทสนมกับครอบครัวธูปะเตมีย์ มาตั้งแต่เด็กๆ และบิ๊กณะ พล.อ.อ.ณรงค์ อินทชาติ ที่ปรึกษาพิเศษ ทอ. น้องรัก ตท.23 นักบิน F16 อีกคน ที่อยู่กองบิน 1 มาด้วยกันนั้นลง

เมื่อชื่อของ Little Joe พล.อ.อ.ธนศักดิ์ ได้รับการเสนอขึ้นไปเป็น ผบ.ทอ.คนใหม่

คาดว่า แม้ พล.อ.ประยุทธ์หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ระหว่างรอคำวินิจฉัยของศาล รธน.ก็ตาม แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อโผ ทอ.

เพราะถึงอย่างไร ในฐานะ รมว.กลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ต้องประชุมโผทหาร และต้องลงนามตามระเบียบ ร่วมกับ ผบ.เหล่าทัพ แล้วส่งให้รักษาการนายกฯ นำขึ้นทูลเกล้าฯ โดยจะแก้ไขไม่ได้ หากลงนามร่วมกันทั้ง 7 เสือกลาโหม คือ รมว.กลาโหม รมช.กลาโหม ปลัดกลาโหม ผบ.ทหารสูงสุด ผบ.ทบ. ผบ.ทร. ผบ.ทอ.

เพราะตัวเต็งปลัดกลาโหม บิ๊กหนุ่ม พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ รองปลัดกลาโหม นั้นก็เป็นนายทหารสายบูรพาป่ารอยต่อฯ อยู่แล้ว เป็นน้องบิ๊กป้อมอยู่แล้ว

ส่วนโผ ทบ. ในส่วนหน่วยคุมกำลังรบ และทหารคอแดงนั้น รักษาการนายกฯ ไม่อาจไปล้วงลูกได้ แม้ว่าสายสัมพันธ์ระหว่างบิ๊กบี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. กับ พล.อ.ประวิตร จะมีระยะห่างก็ตาม

การที่ พล.อ.ประยุทธ์ถูกศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมในกองทัพไม่น้อย ที่รอลุ้นว่า จะได้กลับมาทำหน้าที่นายกฯ ต่อ หรือว่าจะเป็นหนทางลงจากหลังเสือแบบ fade away ไปเลย

เพราะ พล.อ.ประยุทธ์นั่นก็ผิดคาด ไม่คิดว่าศาลจะสั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่ เพราะเช้าวันที่ 24 สิงหาคม แม้จะไม่ได้เข้าทำเนียบฯ และนั่งทำงานที่บ้าน ร.1 รอ. พล.อ.ประยุทธ์ก็ยังประชุมออนไลน์ ยังปฎิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี เพราะคิดว่าจะได้กลับมาทำหน้าที่ต่อ พร้อมวางตารางงานเต็มเหยียด ทั้งประชุมสภากลาโหม ไปสงขลา งานบรรจุอัฐิป๋าเปรม พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประชุม ก.ตร. ประชุมโผทหาร ในปลายสิงหาคม

ฝ่ายสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ก็เคลื่อนไหวให้ พล.อ.ประยุทธ์ได้กลับมา และมองบวกว่า การหยุดปฏิบัติหน้าที่ เป็นแค่การลดกระแสต้าน พักยกเท่านั้น ก่อนที่จะกลับมาใหม่

ขณะที่นายทหารสายบูรพาป่ารอยต่อฯ สายบิ๊กป้อมนั้น เตรียมตัวที่จะรับสถานการณ์ เมื่อ พล.อ.ประวิตร รักษาการนายกฯ และหาก พล.อ.ประยุทธ์ไม่รอดปม 8 ปี ต้องพ้นเก้าอี้นายกฯ ก็เตรียมเดินเกมให้ พล.อ.ประวิตรเป็นนายกฯ ในช่วงประชุมเอเปค และไปจนกว่าจะยุบสภา เลือกตั้งใหม่ และดัน พล.อ.ประวิตรเป็นนายกฯ หลังเลือกตั้ง

นี่เป็นสัญญาณของการวัดพลัง ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ กับพลังที่มองไม่เห็น แต่รู้ว่ามีอยู่ และยังไม่จบ

สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj

— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022