แด่ ‘สงเคราะห์-ชาติสุดท้าย’ : สัม รังสี-กึม สกขา/อัญเจียแขฺมร์ อภิญญา ตะวันออก

อภิญญา ตะวันออก

อัญเจียแขฺมร์

อภิญญา ตะวันออก

 

แด่ ‘สงเคราะห์-ชาติสุดท้าย’

: สัม รังสี-กึม สกขา

เบรวิเยร์-งั้นสิ มันรุกล้ำ-ไม่ตรงกันอย่างเห็นได้ กล่าวคือ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีแห่งกัมพูชา ผู้ที่ถูกประเมินว่าไม่เคารพต่อระบอบประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนและเล่นแร่แปรธาตุเหล่านั้นด้านทารุณกรรมโดยเฉพาะผู้ฝักใฝ่การเมืองขั้วตรงข้าม

ในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา การรุกล้ำอย่างเห็นได้ ผู้คนต่างติดคุกจับกุมโดยมากมาย แต่ระบอบฮุนเซนนั้นยังเดินหน้าและรุ่งเรือง-เบรวิเยร์ ที่เริ่มต้นจากการหวนกลับไปสู่การเลือกตั้งทั่วไปในปี 2013 เมื่อ 2 ผู้นำฝ่ายค้าน สัม รังสี-กึม สกขา ประกาศตั้งพรรคการเมืองใหม่วันที่ 17 กรกฎาคม 2012 ณ กรุงมะนิลา

พวกเขาเรียกชื่อพรรคนี้ว่า “สงเคราะห์ชาติ/CNRP”

1 ปีต่อมา ใครเลยจะเชื่อว่า พรรคนี้สามารถตีคู่คะแนนและออกนำไปก่อนในการนับผลคะแนนราว 65+ที่นั่งในการเลือกตั้ง/2013 ก่อนที่มันจะถูกนับและเกลี่ยคะแนนป๊อปปูลาร์โหวตที่ 55 ที่นั่งสำหรับพรรคซีเอ็นอาร์พี

แต่ในที่สุด ก็พ่ายแพ้แก่พรรคประชาชนกัมพูชาอีกครั้ง ทั้งจากคืนหมาหอนและคราว “เบรวิเยร์”-รุกล้ำอย่างเห็นได้ โดยหลังคืนแห่งการนับผลโหวตอยู่นั้น พลัน เกิดมีรถทหารวิ่งลาดตระเวนทั่วเมืองหลวง แต่สถานะที่พ่ายแพ้ไม่กี่ที่นั่งครั้งนั้น กลับทำให้สัม รังสี-กึม สกขา รู้สึกถึงชัยชนะเป็นครั้งแรกของชีวิตทางการเมือง

อย่างน้อยก็ทำให้สภารัฐบาลสมเด็จฮุน เซน มีสภาพเป็นพรรคเสียงข้างน้อยที่ซีพีพีของฮุน เซน ไม่เคยประสบชะตากรรมเช่นนี้มาก่อน กระทั่งปฏิบัติการซื้อ “งูเห่า” ส.ส.กบฏจากสงเคราะห์มากขึ้นเรื่อยๆ

แต่นั่นไม่ใช่จุดจบที่เตโชฮุนต้องการ

เมื่อในที่สุด ผู้นำพรรคและสมาชิกบริหารหลายคนต้องโทษคดีร้ายแรง ในข้อหายุยงปลุกปั่นความมั่นคงในประเทศและสัม รังสี คือเบอร์แรกๆ ที่หนีออกนอกประเทศจนถูกตัดสิทธิ์การเมืองและยึดพรรค

กาลนั้น กึม สกขา จึงเป็นเหมือน “ตัวประกัน” คนสุดท้ายของระบอบฮุนเซนด้วยคดี “สมคบคิดต่างชาติล้มล้างการปกครอง” ในกันยายน 2017

มีปรากฏการณ์ที่บ่งบอกว่า กึม สกขา ซึ่งเป็นสมาชิกสูงสุดของพรรคเพียงคนเดียวที่ยังอยู่ในกัมพูชา เขาถูกทิ้งร้างให้โดดเดี่ยวยาวนานตลอดเวลา 4 ปี 10 เดือนแห่งการถูกคุมขัง กักบริเวณ

กระทั่งไม่กี่วันนี่เองที่สัญญาณบางอย่างบ่งว่า กึม สกขา กำลังได้รับอิสรภาพ

เขาคนนั้น ทำให้ฉันรู้สึกขนพองสยองเกล้า ไปไกลกว่าคำว่า “เบรวิเยร์” ที่หมายอาณาเขต, การรุกล้ำซึ่งเป็นคำนิยามของฉันเอง!

ฮุน เซน ยังทำให้ฉันรำลึกถึงรอยยิ้มครั้งสุดท้ายของสมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์-ผู้ที่จบชีวิตจากวิสัยทางการเมืองในอุบัติเหตุเลือกตั้งของปี 2018 ที่เมืองกำโปด แต่ตลอดชีวิตของเจ้านายเขมรองค์นี้ มีแต่ความช้ำชอกต่อชะตากรรมทางการเมืองครั้งแล้วครั้งเล่า

เช่นเดียวกันกับสงเคราะห์ชาติที่ถูกยุบทิ้ง และสมาชิก 118 ชีวิตถูกห้ามเล่นการเมืองและลี้ภัยในต่างแดน และจบที่สัม รังสี ซึ่งกลับไปฝรั่งเศส-ประเทศที่ตนถือสัญชาติ แต่การกลับครานี้เป็นเสียยิ่งกว่ากับดัก

สัม รังสี ลดคุณค่าในฐานะฮีโร่ผู้ไม่เคยถูกจดจำตลอด 30 ปีชีวิตการเมืองในกัมพูชาที่ “เฉียด” ทั้งความตายและคุกมา แต่ทว่าครั้งนี้ สัม รังสี ยิ่งกว่าถูกลดบทบาทความสำคัญและความล้มเหลวที่หลอกหลอนนั่น ยังตามรังควานให้เขายืนอย่างไร้ตัวตน

ตลอด 5 ปีที่ผู้สนับสนุนต่างเห็นพ้องว่า สัม รังสี ไม่เคยเสียสละในการสู้คดีและไม่หนีลี้ภัยแบบที่กึม สกขา ทำ เพราะนั่นจะเป็นหนทางที่กดดันฮุน เซน แบบเดียวกับออง ซาน ซูจี สมัยพม่าและยุคต่อมาของมิน อ่อง ลาย

การหนีออกนอกประเทศและใช้ชีวิตไปกับการเดินสายทัวร์ยุโรป-ออสเตรเลียและอเมริกาที่กลายเป็นแคมเปญหาทุนเข้าพรรค แต่ตลกร้ายกว่านั้น ที่คราวนี้ ฝ่ายสนับสนุนต่างลงดาบว่า สัม รังสี ไม่เสียสละและขาดความเป็นผู้นำ แล้วใครเล่าจะโอบอุ้มเขาไว้ได้ ในเมื่อเขาอยู่ใน “เซฟโซน” ตลอดมาจนเรื้อรัง

ดังนั้น แม้จะมีอิสรภาพในการพูดและแสดงออกในโซเชียลมากมายอย่างบ่อยครั้ง ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา สัม รังสี ได้ถูกเปิดกว้างด้วยโลกสื่อสารที่ไหลบ่า แต่เขาถูกบดบังไร้น้ำยา ต่างกับกึม สกขา ที่ถูกศาลสั่งห้ามพูด ถูกกักบริเวณภายในบ้านและเคยถูกจองจำ

ทันใดนั้น กึม สกขา กลับมีภาษากายที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพในการสื่อสารอย่างลึกเร้นและสร้างความสั่นสะเทือนในผู้คน จนราวกับว่า โลกเห็นแต่กึม สกขา ยืนโดดเด่นตามลำพัง

และในโอกาสนั้น มีหรือที่สมเด็จฮุน เซน ผู้เชี่ยวกรากทางการเมืองจะมองไม่เห็น? โอ เบรวิเยร์ มันช่างแทงทะลุปรุโปร่งไปถึงเงาของสัม รังสี เสียด้วยซ้ำ

และนั่นล่ะ แบบทดสอบการเมืองของซาตาน

นี่คือเครื่องมือหนึ่งซึ่งเรียกว่า “การทารุณกรรม” ณ “หัวกบาลแมชชีน” และนั่นคือชะตากรรมที่สัม รังสี ได้รับจากน้ำมือคนที่ร่วมสร้างพรรคมากับตน

และเชื่อไหม ในทันทีที่กึม สกขา ถูกเรียกตัวขึ้นไต่สวนในศาลหนล่า ในทันทีนั้น กึม สกขา ประกาศตัดขาดตนเองกับสัม รังสี และพรรคสงเคราะห์ชาติอย่างน่าตกตะลึง

การพรั่งพรูครั้งนี้ ประจักษ์ว่าผู้นำพรรคซีเอ็นอาร์พีได้แตกหักกันมานมนานแล้ว ไม่มีความรักต่อกันแม้แต่อุดมการณ์และความหวัง

สุ้มเสียงกึม สกขา ราวกับผีไม่เผาเงาไม่เหยียบ แต่ที่เกินจะคาดหมาย คลิปเสียงที่ถูกปล่อยออกมาในสื่อโซเชียลมันคือคำพูดต่อหน้าศาล

พลัน ทันทีความเชื่อที่ว่า ในไม่ช้า กึม สกขา คงถูกปล่อยตัวอย่างไร้ความผิดและเขาน่าจะเป็นคนเดียวที่เหลือรอดอย่างแท้จริงจากซีเอ็นอาร์พีที่สามารถกลับมาเล่นการเมืองในการเลือกตั้งทั่วไปสมัยหน้า/2023

เพราะวันที่กึม สกขา ได้อิสรภาพ แต่เขาจะไม่ใช่ออง ซาน ซูจี หรือเนลสัน แมนเดลา แห่งกัมพูชา ที่ไม่มีอะไรน่าบูชา เพราะในที่สุดเขาก็เลือกยืนเคียงข้างกับสมเด็จฮุน เซน ผู้ที่ยืมมือกึม สกขา กำจัดสัม รังสี

และปล่อยให้เครื่องมือสังหารกบาลแมชชีนของตน ลงมือกำจัดความนิยมในตัวกึม สกขา อีกทีหนึ่ง

เบรวิเยร์ นี่ช่างเป็นตลกร้ายอย่างไม่เคยมีมาก่อน สำหรับ “ทฤษฎีสัมฤทธิ์สังหารอันแยบยล” ที่เกิดขึ้นตามมาตั้งแต่การพบปะระหว่างฮุน เซน-กึม สกขา ในพิธีเคารพศพฮุน เนง-พี่ชายของฝ่ายหนึ่ง

ผู้คนบางฝ่ายเริ่มหวาดระแวงความไม่ปกตินั่น และมันไม่ผิดเพี้ยนเลย หากการไต่สวนคดีกึม สกขา ถูกขยับร่นขึ้นมา และใครเลยจะคิดว่า จู่ๆ ในคำให้การต่อศาลที่เป็นความลับนั้น กึม สกขา ประกาศกล้าว่าตนไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับนายสัม รังสี และพรรคสงเคราะห์ชาติ

นับเป็นคำพาดพิงต่อสัม รังสี ครั้งแรกที่เปิดเผยออกมาทางสาธารณชน มันยังเจือขุ่นทางอารมณ์ในทางอริมากกว่าจะเป็นมิตรภาพ แต่ที่ผงะกว่านั้น ทันทีที่สารดังกล่าวถึงสัม รังสี เขากลับตีเนียนทันทีว่ากึม สกขา ขาดอิสรภาพในการแสดงความเห็น และมันก็แค่ “ระแบงละครฉากหนึ่ง” ที่มีฮุน เซน อยู่เบื้องหลัง

สัม รังสี ไม่เชื่อว่า กึม สกขา มีความคิดเช่นนั้นไม่ ทั้งที่ในความจริงนั้น สัม รังสี ถูกกล่าวหาตลอดมาว่าเขาขาดความกระตือรือร้นช่วยเหลือกึม สกขา ตลอดเกือบ 5 ปีที่ผ่านมา สัม รังสี ไม่เคยแสดงการรำลึกหรือแม้แต่การ “เรียกร้อง” ให้มีการปล่อยตัวนักโทษคดีการเมืองอย่างจริงจัง

โดยเฉพาะเพื่อกึม สกขา และกึม มโนวิทยา ลูกสาว ซึ่งเธอได้รับการปฏิบัติอย่างเย็นชาในฐานะอดีตสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่สามารถยึดโยงบิดาผู้ก่อตั้งพรรคร่วม แต่สัม รังสี กลับไม่ทำอะไรในทางยกย่องกึม สกขา ในฐานะที่เขา “เสียสละ” แก่พรรคทั้งความทุกข์ยากในเรือนจำและการถูกกักบริเวณ

ที่จริงแล้ว พรรคสงเคราะห์ชาติ ไม่เคยสงเคราะห์แก่กึม สกขา เลย จึงจะแปลกอะไรเล่า หากวันนี้ กึม สกขา จะเป็นฝ่ายเลือกซื้ออิสรภาพและสินทรัพย์ทางการเมืองเพื่อตนเองบ้าง และนายทุนคนที่ว่านั้น ก็ไม่ใช่อื่น แต่เป็นศัตรูหมายเลข 1 ของสัม รังสี

และนี่คือจุดอับปางของพรรคซีเอ็นอาร์พี ที่เคยได้ชื่อว่าเป็นพรรค “ที่ดีที่สุด” ของกัมพูชาเท่าที่เคยปรากฏในประวัติศาสตร์ร่วมสมัย

มันจบแล้วสงเคราะห์ชาติ พวกเขาได้ลงมือสังหารตัวเองอย่างช้าๆ ในเกมที่เตโชฮุนดลบันดาล แต่หากคุณตกหลุมพราง

ก็จงประสบหายนะ

สันทนา ราเชล กับมโนวิเจีย ลูกสาวสัม รังสี กับกึม สกขา