ดอยอินทนนท์เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย คือสูง 2,565.3341 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล

ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเชียงใหม่ เป็นอุทยานแห่งชาติในเทือกเขาถนนธงชัยตะวันออกที่มีพื้นที่กว้างขวางครอบคลุมถึง 3 อำเภอ คือ แม่แจ่ม จอมทอง และสันป่าตอง

ว่ากันว่าหากจะเดินโดยรอบเขตดอยอินทนนท์จะต้องใช้เวลานานถึง 10 วันเลยทีเดียว อันเป็นระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร

ทุกวันนี้เรารู้จักดอยอินทนนท์ในแง่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม มีทิวทัศน์ที่สวยงาม ผู้คนชอบไปดูทะเลหมอก และขึ้นไปดู “แม่คะนิ้ง” ที่คนทางเหนือเรียกว่า “เหมยขาบ” โดยเฉพาะในฤดูหนาว ซึ่งอุณหภูมิจะลดลงเกือบใกล้ 0 องศา

ที่แท้ดอยอินทนนท์เต็มไปด้วยชีวิต มีทั้งพืชและสัตว์ อุดมด้วยความหลากหลายทางชีวภาพที่น่าสนใจ

ดอยอินทนนท์เป็นดอยหิน เช่นเดียวกับดอยสุเทพ ดอยปุย มีอายุมากกว่า 600 ล้านปีมาแล้ว มีทั้งหินแปร หินอัคนี และหินตะกอน

 

เขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์เป็นป่าอุดมสมบูรณ์ แม้ว่าครั้งหนึ่งเคยถูกชาวเขาหลายชาติพันธุ์ถางป่าเกิดดอยหัวโล้นไปบ้างประมาณ 50 ตารางกิโลเมตร ป่าที่เหลืออีก 482.40 ตารางกิโลเมตรยังคงหนาแน่นด้วยป่าเต็งรัง ป่าดิบแล้ง ป่าสน ฯ นัยว่าในเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์มีพืชพรรณหลากหลายถึงกว่า 2,000 ชนิด

ป่าบนดอยเป็นต้นกำเนิดของธารน้ำหลายสายซึ่งล้วนไหลลงสู่แม่น้ำแม่ปิง มีน้ำตกขนาดใหญ่มากมายซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเช่นกัน ได้แก่ น้ำตกแม่ยะ น้ำตกแม่กลาง น้ำตกวชิรธาร เป็นต้น

แม้ว่าป่าจะถูกถากถางไป แต่ดอยอินทนนท์ยังมีสัตว์ป่าพอให้เห็น เช่น กวาง เก้ง ชะนี ลิง หมี เสือ สมัยก่อนมีช้างป่าด้วยซ้ำ มีสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำอย่างกบภูเขา แมลง และมีนกบนดอยถึง 230 ชนิด

 

เดิมทีชาวบ้านเรียกดอยอินทนนท์ว่าดอยหลวง หรือดอยกาหลวง หรือดอยอ่างกาหลวง ซึ่งคำว่า “หลวง” แปลว่าใหญ่ หรือสูงใหญ่ การที่เรียกว่าดอยอ่างกานั้นเพราะบนยอดดอยมีแอ่งน้ำตลอดปี เป็นบริเวณที่สัตว์ป่าได้อาศัยดื่มกิน

แต่อีกโสดหนึ่งคำว่า “อ่างกา” ในภาษาปกาเกอญอ แปลว่าดอยใหญ่อยู่แล้ว

แต่เมื่อปี พ.ศ.2440 พระราชชายาเจ้าดารารัศมีได้นำอัฐิของพระบิดาพระเจ้าอินทวิชยานนท์ไปประดิษฐานที่ยอดดอย จึงเปลี่ยนชื่อดอยจากอ่างกาหลวงเป็น “ดอยอินทนนท์” มาจนทุกวันนี้ ทั้งนี้ เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแด่เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่

ทางขึ้นดอยอินทนนท์สะดวกด้วยทางรถยนต์ หากมีโอกาสไปดอยอินทนนท์ น่าจะแวะสักการะพระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดลและนภพลภูมิสิริ และจัดเวลาเดินกิ่วแม่ปาน ซึ่งเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะสั้นก็จะดีไม่น้อย

แต่คงต้องจองล่วงหน้าเพื่อความสะดวก •