หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๑๐๖)/บทความพิเศษ ฟ้า พูลวรลักษณ์

ฟ้า พูลวรลักษณ์

บทความพิเศษ

ฟ้า พูลวรลักษณ์

 

หนังสือเรียนสำหรับเด็ก (๑๐๖)

 

มนุษย์บนโลกนี้ แบ่งออกเป็นสองกลุ่ม นั่นคือ

กลุ่มผู้ต้องการความสำเร็จ

กลุ่มผู้ต้องการความสุข

สองกลุ่มนี้ ก็มีข้อดีและข้อเสียในตัวเอง เหมือนสองก๊กใหญ่ ที่ภายในก็มีคนดีคนเลว มีคนเก่งคนไม่เก่ง

ตัวฉันอยู่ในกลุ่มที่สอง ตั้งแต่เด็ก ฉันให้ความสำคัญกับความสุข อะไรที่ทำแล้วรู้สึกไม่มีความสุข ฉันก็จะไม่ทำ ไม่สนใจว่าค่าตอบแทนของมันจะสูงเพียงไหน

วันหนึ่งฉันเดินเข้าไปในห้องสอบ ฉันทำเพียงแค่สองสามข้อ ก็เดินออกมา อาจารย์ถามฉันว่า ทำไม สิ่งใดมีพลังมากพอที่ทำให้ฉันตัดสินใจได้ ที่จะละทิ้งข้อสอบเหล่านั้น แล้วเดินออกมาอย่างหน้าตาเฉย

เขาไม่แปลกใจว่าฉันจะได้หรือตก เขาแปลกใจว่ามีสิ่งใดทำให้ฉันตัดสินใจได้อย่างนั้น

ฉันตอบว่า ความสุข เมื่อไรที่ฉันรู้สึกไม่มีความสุขอย่างแรง มันมีผลต่อการตัดสินใจของฉันอย่างเฉียบพลัน

แต่แน่ละ ฉันเป็นคนที่อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง ฉันจึงไม่ใช่ loser กล่าวคือ ฉันก็มีความสำเร็จพอสมควร ไม่มากนัก แต่ก็พอสมควร

 

วันหนึ่งฉันอ่านหนังสือของ Ayn Rand เธอเป็นนักเขียน นักปรัชญา ที่เรียกได้ว่า เป็นขุนศึกของกลุ่มแรก เธอตัดสินทุกสิ่งจากความสำเร็จ และเรียกการทำงานว่าคือความสุขที่แท้จริงเพียงหนึ่งเดียว ตัวเอกในนิยายของเธอ เป็นคนแบบนี้ ซึ่งก็สง่างาม และองอาจ และแปลกประหลาด เกือบไม่ใช่มนุษย์ ส่วนคนที่มีหลักการที่ความสุข สำหรับเธอ คือพวกขี้แพ้ พวกลวงโลก หรือคนที่ทำให้มนุษย์ต้องสูญพันธุ์ในที่สุด

เวลาอ่านหนังสือของเธอ ฉันก็ชอบนะ ซึ้งดี และติดตามตัวเอกในเรื่องอย่างใจจดใจจ่อ และอดรักพวกเขาไม่ได้ แต่คิดถึงโลกแห่งความเป็นจริง หากฉันเจอพวกเขาจริงๆ จะเป็นอย่างไรหนอ ฉันอาจไม่ชอบก็ได้ อาจไม่อยากเข้าใกล้ พวกเขาดุดัน หรือพิสดารเกินไป

ตัวเอกของเธอไม่ต้องการการช่วยเหลือ ไม่ต้องการของฟรี ไม่ต้องการความสงสาร พวกเขาอุทิศชีวิตเพื่อความสำเร็จอย่างสูงสุด แล้วความสุขจะมาเอง หลักคิดของเธอคือ ความสุขไม่อาจมีอยู่ได้ หากไม่มีความสำเร็จ

มันทำให้ฉันคิดถึง Steve Jobs เขาน่าจะเป็นตัวเอกคนหนึ่งของเธอได้ บุคคลที่ประสบความสำเร็จ เก่งกาจ เป็นอัจฉริยะ แต่ก็ทำงานหนักมาก จนไม่มีเวลาพักพ่อน ไม่มีเวลาให้ลูกเมีย ไม่มีเวลาให้แม้แต่กับการกินอาหาร

ฉันรู้จักผู้แพ้มากมายในโลก พวกเขามักเป็นคนดี น่ารัก แต่ก็อ่อนแอ ที่จริงพวกเขามีจำนวนมากมายมหาศาล เรียกว่าซุกซ่อนอยู่ในทุกมุมโลก ท่วมโลก เพียงแต่เพราะพวกเขาไม่มีอิทธิพลอะไร มีมากก็เหมือนมีน้อย พวกเขาเหมือนเศษสตางค์ มีมากมาย แต่รวมกันก็ยังเป็นเม็ดเงินไม่เท่าไร คนรวย คือคนที่ประสบความสำเร็จ พวกเขามีน้อยกว่า แต่ทว่า พวกเขาเหมือนแบงก์ใหญ่ แต่ละใบมีค่ามาก รวมกันยิ่งไปกันใหญ่

๑๐

อ่านหนังสือของเธอแล้วก็ทึ่ง และพิศวง เพราะเราอยู่คนละกลุ่ม

ฉันไม่เก่งพอจะเป็นขุนศึกของกลุ่มของฉัน แต่ก็พอตัว เป็นระดับนักรบ อาจจะแค่นายสิบ หรือนายร้อย ฉันเอาตัวรอดได้เสมอ เพราะฉันเองแม้จะไม่เชื่อว่า ความสุขมีอยู่ไม่ได้ หากไม่มีความสำเร็จ แต่ฉันก็หวาดกลัว และหลีกเลี่ยงความล้มเหลวอย่างสุดชีวิตเช่นกัน ฉันต้องการพื้นที่เล็กๆ

๑๑

ฉันเดินออกจากห้องสอบ เพราะฉันรู้สึกไม่มีความสุข แต่ในขณะเดียวกัน ฉันก็ตรวจสอบก่อนว่า ฉันไม่ need มัน ฉันอยู่ได้ในโลกนี้ อย่างสงบและปลอดภัย

๑๒

ตัวเอกของนิยายของ Ayn Rand มีอาการเหมือนคน autistic ไม่รับรู้หลายสิ่งรอบตัว พวกเขาเป็นคนผิดปกติ แต่ก็บริสุทธิ์ งดงามเช่นเดียวกับคนปัญญาอ่อน

คนจริงๆ ที่ยึดในความจริง จากประสบการณ์ของฉัน มักไม่ประสบความสำเร็จ ความธรรมดาจะเอาชนะความเป็นปราชญ์

 

๑๓

เมื่อคืนนี้ฉันดูหนังสองเรื่อง เรื่องหนึ่งเป็นเรื่องของคน superrich ชาวเอเชีย อีกเรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องของคน superrich ชาวยุโรป บังเอิญมันมีส่วนคล้ายกันบางอย่าง ทำให้ฉันหยุดคิด

คนรวยเหล่านี้ มีอะไรน่าสนใจหรือ สำหรับฉันไม่มี อาจเพราะตัวฉันไม่ใช่คนจน ฉันมีฐานะดีพอใช้ ฉันจึงไม่ทึ่งกับไลฟ์สไตล์ของพวกเขาเลย ไม่ตื่นเต้นกับเครื่องบินส่วนตัว คฤหาสน์หลังใหญ่ จะอลังการแค่ไหนก็ตาม อาหารที่หรูเลิศเพียงไหน ของใช้แบรนด์เนมอะไร การใช้เงินราวกับเศษกระดาษ ทุกสิ่งเหล่านี้ ล้วนลดทอนความเป็นมนุษย์ของพวกเขา ยิ่งรวยมาก ยิ่งแปลกประหลาด และยิ่งไร้ค่า ยิ่งขึ้นสู่จุดสูงสุด พวกเขาก็ไม่ต่างกับคนตาย

๑๔

แปลกนะ ทำไมมีหนังแบบนี้ออกมา หากฉันเป็นคนจน ฉันอาจพบว่าพวกเขามีเสน่ห์ก็ได้นะ เพราะพวกเขามีสิ่งที่ฉันไม่มี เป็นได้แค่ฝัน

๑๕

ความเป็นมนุษย์คือความธรรมดา ตัวละครพวกนี้ก็หลีกเลี่ยงพฤติกรรมง่ายๆ เช่น การกินข้าวเปล่า หรือแฮมเบอร์เกอร์ไม่ได้ พวกเขาจะรวยปานใดก็ตาม แต่บางครั้ง พวกเขาก็กินอาหารธรรมดา เช่นเดียวกับคนอื่น คนเราจะกินอาหารได้มากน้อยในหนึ่งมื้อ ก็แค่หนึ่งหรือสองจานเท่านั้น ยิ่งคนที่กินวันละมื้อ ชีวิตช่างเรียบง่ายอะไรเช่นนั้น อาหารหรูเลิศจะเต็มโต๊ะ ก็ไม่เห็นมีประโยชน์อะไร ใครกันจะกินเนื้อตะพาบ เนื้อจระเข้ เนื้อปลาที่ดีที่สุด หรือกินหูฉลามทุกวัน ถึงทำเช่นนั้น ก็ไม่ต่างจากฮ่องเต้โบราณ ซึ่งจากประวัติศาสตร์ พวกเขามีอายุสั้น

๑๖

คฤหาสน์จะใหญ่โตปานใด มีข้อเสียใหญ่หลวง ไม่รู้พวกเขาสังเกตออกหรือไม่ คือมันทำให้พวกเขาห่างไกลจากเพื่อนมนุษย์ ดูแลยาก ทุกวินาทีที่พวกเขาอาศัยอยู่ในคฤหาสน์เหล่านั้น พวกเขาห่างไกลจากโลก มันช่างเป็นชีวิตที่ผิดปกติ และเงียบเหงาอะไรเช่นนั้น

๑๗

พวกเขาจะได้ยินเสียงจิ้งหรีดเรไร หรือแมลงตัวเล็กๆ ที่อยู่แค่นอกคฤหาสน์ของพวกเขาไหมนะ