ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 19 - 25 เมษายน 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | ยานยนต์ |
ผู้เขียน | สันติ จิรพรพนิต |
เผยแพร่ |
แม้ “บีวายดี” โดยบริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จำกัด ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าตลาดรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV
ทำยอดขายได้สวยหรูในทุกรุ่นที่เปิดตัว ไม่ว่าจะเป็น ATTO 3, SEAL และ Dolphin
ขณะเดียวกันคนไทยเริ่มคุ้นเคยกับข้อจำกัด หรือเงื่อนไขต่างๆ ในการใช้รถยนต์ไฟฟ้า
แต่กระนั้นคนอีกกลุ่มใหญ่ยังรีๆ รอๆ หรือมุ่งไปรถพลังงานทางเลือกอื่นๆ โดยเฉพาะกลุ่มไฮบริด และปลั๊กอินไฮบริด
จึงทำให้ “บีวายดี” ตัดสินใจเปิดตัวรถขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด “BYD SEAL U DM-i” มาเป็นอีกทางเลือกของคนที่ยังไม่สนใจ หรือยังลังเลกับการใช้งานรถ EV
น่าจะทำให้กวาดลูกค้ากลุ่มใหม่เข้ามาเพิ่มยอดขายได้ภายในปีนี้
“BYD SEAL U DM-i” จัดอยู่ในเซ็กเมนต์เอสยูวีขนาดกลาง กลุ่มเดียวกับ “ฮอนด้า CR-V”
บอดี้เดียวกันนี้มีรุ่น “SEAL U” ที่ใช้แบตเตอรี่ล้วน แต่เรเว่ฯ เลือกที่จะนำรุ่นปลั๊กอินไฮบริดมาทำตลาดก่อน
หน้าตาไม่ต่างกัน กระจังหน้าแบบไร้ขอบโค้งมนคล้ายหยดน้ำ เอกลักษณ์ภายใต้คอนเซ็ปต์ OCEAN X
โดย SEAL U DM-i จะเจาะช่องดักลมด้านหน้าคาดด้วยโครเมียม 4 เส้น เพื่อช่วยระบายความร้อนในเครื่อง ต่างจากรถ EV ที่ปิดทึบ
แนวฝากระโปรงลาดเอียง ชุดไฟหน้า LED ต่ำลงมาเป็นไฟเดย์ไทม์รันนิ่งทรงตัว L
ด้านหน้ามองผาดๆ ได้อารมณ์รถจากเมืองเบียร์อยู่นิดๆ
ด้านข้างทำเหลี่ยมสันลากยาวจากไฟหน้าจรดไฟท้าย
แนวหลังคาลาดเอียง สปอยเลอร์หลังคาพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3
เสาอากาศแบบครีบฉลาม
ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า
ล้อแม็กขนาด 19 นิ้ว รัดด้วยยาง 235/50
มิติตัวถัง (กว้าง x ยาว x สูง) 1,890 x 4,775 x 1,670 มิลลิเมตร
ห้องโดยสารกว้างขวาง ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์การผสมผสานความทันสมัยและความเรียบง่าย
พวงมาลัยทรงสปอร์ตพร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น ปรับได้ 4 ทิศทาง
หน้าจอแบบฟูลดิจิทัลขนาดใหญ่เห็นคมชัด
ตรงกลางเป็นหน้าหน้าอินโฟเทนเมนต์แบบทัชสกรีนขนาดใหญ่ สามารถปรับหมุนแนวตั้ง-นอนได้
หัวเกียร์ขนาดเล็กประดับคริสตัลดูหรูหรา แผงเกียร์เป็นปุ่มควบคุมต่างๆ เช่น ปรับโหมดการขับขี่ เปลี่ยนระบบขับเคลื่อน เปิด-ปิดแอร์ ฯลฯ
ติดตั้งไฟแอมเบี้ยนสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร
ลำโพงเสียงดีจากอินฟินิตี้
ที่ชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย 2 ตำแหน่ง อยู่ใต้ช่องแอร์
ที่วางแก้วขนาดใหญ่ 2 จุด พอร์ตชาร์จ USB Type C 2 จุด และ Type A 2 จุด
เจาะช่องแอร์ให้ผู้โดยสารตอนหลัง ขณะที่พื้นเป็นแบบเรียบ
เบาะนั่งใช้สีทูโทนน้ำตาล-น้ำเงินเข้ม ตัดขอบด้วยสีส้ม
คอนโซลหน้าและแผงข้างประตูบุด้วยวัสดุแบบนุ่ม
เพดานโปร่งโล่งด้วยพาโนรามิกซันรูฟ เปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า พร้อมม่านกันความร้อน
ขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า แบบ Permanent magnet synchronous motor
กำลังรวมสูงสุด 311 แรงม้า แรงบิด 435 นิวตัน-เมตร
อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 8.5 วินาที
แบตเตอรี่ขนาด 18.3 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง
ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 92 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC
ระยะทางรวมสูงสุด 1,100 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC
อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยประมาณ 21 กิโลเมตร/ลิตร
ระบบช่วงล่างด้านหน้า MacPherson strut กันสะเทือนแบบ Multi-Link
เอาจริงๆ หากเป็นการใช้งานประจำวัน สำหรับคนทำงานไปเช้า-เย็นกลับ แทบไม่ต้องใช้น้ำมันเลยก็ว่าได้
แน่นอนว่าข้อดีของรถปลั๊กอินไฮบริด ไม่ต้องกังวลเรื่องที่ชาร์จมากนัก
เวลาไปต่างจังหวัดหากเจอที่ชาร์จว่างก็เสียบเข้าไปได้เลย และใช้เวลาชาร์จไม่นาน
แต่หากช่องชาร์จไม่ว่าง ก็ใช้น้ำมันขับเคลื่อนไปต่อไม่ต้องรอแล้วนะ
ความปลอดภัยและตัวช่วยขับขี่จัดเต็ม
ระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ กล้องมองรอบคัน 360 องศา
ระบบช่วยควบคุมการไหลของรถอัตโนมัติ (AVH)
ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมฟังก์ชั่น Stop and Go
เซ็นเซอร์ช่วยตรวจจับวัตถุด้านหน้า 2 ตำแหน่ง และด้านหลัง 4 ตำแหน่ง
ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB) ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ (ESC)
ระบบป้องกันการลื่นไถลขณะขับขี่ (TCS)
ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC)
ระบบช่วยเตือนการชนด้านหน้า (FCW)
ระบบช่วยเตือนการชนด้านหลัง (RCW)
ระบบช่วยเตือนจุดอับสายตา (BSD)
ระบบช่วยเตือนวัตถุเคลื่อนผ่านขณะเปิดประตู (DOW)
ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA)
ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB)
ระบบช่วยเตือนรถเคลื่อนผ่านด้านหน้า (FCTA) ฯลฯ
สีภายนอกทั้งหมด 3 สี Quantum Black, Graphite Grey และ Horizon White
สําหรับผู้สนใจสามารถจองสิทธิ์ “เรเว่ แคร์” รับสิทธิประโยชน์ส่วนลดมูลค่ารวมกว่า 50,000 บาท
เพราะตอนนี้แค่นำมาโชว์และเปิดจองเท่านั้น คาดว่าขายจริงช่วงปลายปี เนื่องจากมีอีกหลายขั้นตอน
ส่วนราคาแม้ยังไม่ประกาศ แต่คาดว่าอยู่ระดับ 1.5 ล้านบาท บวกลบ
เพราะตลาดนี้มีเจ้าเซ็กเมนต์อย่าง “ฮอนด้า CR-V” ราคาเริ่มต้น 1,419,000 บาท
หากนับเฉพาะ 2 รุ่นไฮบริด ราคา 1,589,000-1,729,000 บาท
จึงประเมินกันว่าด้วยชื่อชั้นของแบรนด์ “BYD SEAL U DM-i” ไม่น่าจะตั้งราคาดุเกินไปนัก •
ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022