การนำเอา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ มาเล่นบทเป็น”ที่จริงแล้ว ผมเป็นประธาน” ในคลิปเพื่อโปรโมทโครงการ “ปงผาง เอสเคป”มากด้วยความยอกย้อน แหลมคม

ความหมายโดยตรงตัวอย่างที่สุดก็คือ การหยิบฉวยเอาสิ่งที่ถือ ว่าเป็น”จุดอ่อน”มาเป็น”เครื่องมือ”

เพราะสังคมตระหนักรู้มาอย่างต่อเนื่องว่าจุด่อน”ด้อย”อย่างยิ่ง ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นอกเหนือจากการร้องเพลงแล้วก็อยู่ที่การแสดง

ภาพที่เห็นใน”ปงผาง เอสเคป”เด่นชัดยิ่งในความแข็งทื่อของการแสดง เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับความเป็นธรรมชาติของ แคน นายิกา และความล้นเกินของ “พี่เพชร”

ความอ่อนด้อย แข็งทื่อและไม่เป็นธรรมชาติด้วยประการทั้งปวงของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จึงเป็นจุดเด่น

ประเด็นของคลิปนี้จึงอยู่ที่ความสมัครใจของ “ผู้แสดง”

ไม่ว่าจะเป็นคนซึ่งเล่นเป็น “บิดา” ผู้ปราดเปรียว “บุตรสาว”ผู้ทันสมัยจากมหานคร หรือ”ท่านประธาน”ผู้เก้งก้าง

 

การที่คลิปว่าด้วย”ปงผาง เอสเคป”ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วมีผู้กดเข้าไปติดตามจำนวน 1 ล้าน 3 แสนภายในเวลาเพียง 1 และ 2 วันจึงถือได้ว่าเป็นผลสำเร็จ

ยิ่งหากติดตามอ่านข้อ”คอมเม้นท์”จากบรรดาแฟนานุแฟน ก็จะยิ่งตระหนักว่าทุกอย่างเป็นไปตามเป้าหมาย

จากนั้นก็อย่าได้แปลกใจหากจะมีการปล่อย”คลิป”ที่ประมวล การร้องเพลงผิดและเตลิดเพริศไม่เป็นไปตามคีย์ ตั้งแต่ยุคพรรคอนา คตใหม่ออกมาอย่างคึกคัก

พร้อมกับเสียงหัวเราะด้วยความพึงพอใจในแต่ละอากัปกิริยาของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ คือความสำเร็จของ”ปงผาง เอสเคป”

ไม่ทราบว่าจำนวน”จอง”การเข้าร่วมโครงการจะเป็นอย่างไร

 

ต้องยอมรับว่า บุคลิกด้านหลักของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ คือการ เป็นคนจริงจัง โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่เวทีแห่งการอภิปรายถกเถียงและในการต่อสู้ทางการเมือง

ขณะที่จุดอ่อนด้อยในเรื่องร้องเพลง การแสดงเป็น”ความลับ”

แต่เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม ความลับอันเป็น”จุดซ่อนเร้น”ที่ดำรงอยู่มาอย่างยาวนานก็ถูกเปิดโปง

เปิดโปงและแปรออกมาเป็นเครื่องมือในการทำ”พีอาร์”