ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ | เปิดประเทศให้ต่างชาติ ปิดประเทศจากคนไทย

ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์www.facebook.com/sirote.klampaiboon

และแล้วคุณประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ได้รับรู้ว่าความเบื่อหน่ายที่ประชาชนมีต่อคุณประยุทธ์นั้นมีมากมายเพียงใด

เพราะทันทีที่คุณประยุทธ์ส่งลูกน้องมาประกาศว่ามีการแถลงใหญ่ในวันที่ 11 ตุลาคม กระแสความเชื่อว่าจะแถลงเรื่องลาออกกับยุบสภาก็กระหึ่มทั้งประเทศในทันที

ถ้าคุณประยุทธ์เป็นผู้นำที่ประชาชนรัก ความต้องการให้คุณประยุทธ์ลาออกหรือยุบสภาคงไม่รุนแรงขนาดนี้

แต่เพราะคุณประยุทธ์เป็นผู้นำที่หาใครชื่นชมแทบไม่ได้ ไม่ว่าจะในชีวิตจริง หรือในโพลต่างๆ ความเชื่อเรื่องคุณประยุทธ์จะลาออกจึงกลายเป็นน้ำทิพย์ชโลมใจประชาชนไปทันที

ด้วยความหวังประเทศไทยจะไม่อยู่ภายใต้การปกครองของคุณประยุทธ์อีกต่อไป คำแถลงเรื่องเปิดประเทศจึงกลายเป็นคำแถลงที่สร้างความผิดหวังให้กับคนจำนวนมาก

เพราะเท่ากับคุณประยุทธ์จะเป็นนายกฯ ต่อในเวลาที่คนแทบทนไม่ไหว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม

คนทั่วไปรู้ดีว่าการเปิดประเทศสำคัญต่อการฟื้นฟูประเทศสู่สภาวะปกติ และการกลับสู่สภาวะปกติคือโอกาสเดียวของการฟื้นชีวิตที่ทุกคนเคยมี การเปิดประเทศจึงน่าจะเป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่คนในประเทศเห็นตรงกันอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง ไม่ใช่เป็นเรื่องที่มีคนทักท้วงอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้เลย

คุณประยุทธ์พูดถูกเรื่องธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจกลางคืนหล่อเลี้ยงชีวิตคนนับล้าน รัฐบาลจึงทำถูกเรื่องเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวกลุ่มเสี่ยงต่ำเข้าไทยโดยไม่ต้องกักตัว เช่นเดียวกับการอนุญาตให้ผับบาร์และร้านอาหารเปิดบริการได้อีก หรือแม้กระทั่งการจัดกิจกรรมฉลองปีใหม่ที่ปีที่แล้วงดไป

อย่างไรก็ดี ปัญหาของเรื่องนี้มีอยู่สองข้อ

ข้อแรก ทำอย่างไรที่การเปิดประเทศจะไม่ทำให้เกิดเหตุการณ์เชื้อระบาดอีกระลอก

ข้อสอง ทำอย่างไรที่การเปิดประเทศจะส่งให้เกิดการฟื้นฟูประเทศจริงๆ ไมใช่เป็นการเปิดแบบที่แทบไม่มีผลอะไรเลย นอกจากหากินกันตายไปวันๆ

 

เริ่มต้นที่ข้อแรกก่อน

แน่นอนว่าการเปิดประเทศและผ่อนคลายมาตรการต่างๆ จะทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้น แต่ก็แน่นอนอีกเช่นกันว่าประเทศต่างๆ ที่ทยอยเปิดประเทศล้วนมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทั้งหมด

การเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อเป็นเรื่องปกติ หากรัฐบาลควบคุมได้ และจำนวนผู้ป่วยไม่ลุกลามจนระบบพัง

เฉพาะที่เป็นอยู่ตอนนี้ ไทยกำลังเจอคลัสเตอร์ผู้ติดเชื้อใหม่ในหลายพื้นที่ซึ่งไม่มีวี่แววว่าจะมีมาก่อน ตัวอย่างเช่น เชียงใหม่, อุดรธานี และสามจังหวัดที่ระบาดวันละหลายร้อยมากว่าสัปดาห์ ผลก็คือการไล่ปิดพื้นที่ตั้งแต่กาดเมืองเชียงใหม่ไปจนถึงพื้นที่อื่นๆ อย่างที่เคยทำช่วงเชื้อลุกลาม

มองในแง่ลบ การเกิดคลัสเตอร์ใหม่แบบนี้เป็นสัญญาณว่ารัฐบาลอาจกำลังคุมสถานการณ์ไม่ได้ แต่มองในอีกแง่ ในเมื่อไทยเคยเจอการระบาดที่ขยายตัวรุนแรงกว่านี้มาแล้ว การระบาดในเวลาที่มีคนได้ฉีดวัคซีนมากขึ้นนั้นก็น่าจะมีผลสร้างความเสียหายน้อยลง

การระบาดแปลว่ารัฐบาลยังคุมสถานการณ์ไม่ได้ แต่คำประกาศเปิดประเทศสะท้อนความเชื่อมั่นของรัฐบาลว่ามาตรการสาธารณสุขจะทำให้การระบาดไม่ลุกลามออกไป ถึงแม้คนจำนวนไม่น้อยจะไม่เชื่อถือในความเชื่อมั่นในตัวเองของรัฐบาลก็ตาม

 

ชมรมแพทย์ชนบทเป็นหนึ่งในคนกลุ่มที่มองเรื่องนี้ต่างจากรัฐบาล เพราะขณะที่รัฐบาลเชื่อว่าทุกอย่างคุมได้ แพทย์ชนบทเห็นว่าผู้ป่วยแบบปกติกับ ATK กว่าสองหมื่นเป็นสถานการณ์ผิดปกติ ซ้ำผู้ป่วยหนัก 3,000 รายสะท้อนว่าผู้ติดเชื้อในแต่ละวันไม่ต่ำกว่า 3 หมื่น เพียงแต่รัฐลดการตรวจลง

ในการประเมินของชมรมแพทย์ชนบท ชุมชนหลายแห่งมีอัตราติดเชื้อสูงถึงร้อยละ 20 โควิดกำลังกลับมาเป็นขาขึ้น พื้นที่สีแดงกำลังขยายตัว แต่มาตรการตรวจของรัฐย่อหย่อนเพราะสาธารณสุขล้า มหาดไทยลดการสนับสนุน และทุกฝ่ายมุ่งเน้นแต่การหาเสียงเพื่อเลือกตั้งเท่านั้นเอง

ไม่มีอะไรเป็นหลักประกันว่าแพทย์ชนบทถูกทุกกรณี เช่นเดียวกับไม่มีอะไรเป็นหลักประกันว่ารัฐถูกทั้งหมด แต่หนึ่งเรื่องที่แพทย์ชนบทถูกแน่ๆ คือการระบาดกำลังลามในระดับชุมชน

ปัญหาที่ยังไม่มีใครรู้คือชุมชนที่เกิดการระบาดนั้นมีสัดส่วนมากแค่ไหนในประเทศไทย

แพทย์ชนบทไม่เสียหายหากประเมินสถานการณ์ผิด แต่รัฐบาลจะเสียหายหนักมาก หากสถานการณ์ไม่เป็นไปตามคาด และประเทศไทยกลับมาเกิดการระบาดกว้างขวางอย่างที่ไม่ควรเป็น

ปฏิเสธไม่ได้ว่าคุณประยุทธ์แถลงให้ต่างชาติเข้าไทยเพื่อรักษาภาพลักษณ์ว่าทำตามคำประกาศเปิดประเทศใน 120 วัน แต่เรื่องแบบนี้ไม่ควรตัดสินใจด้วยเหตุผลทางการเมือง เว้นเสียแต่ว่าการเมืองจะถูกกำกับด้วยความรอบคอบจนการเมืองเป็นเรื่องของการกำหนดนโยบาย ไม่ใช่การเอาใจนาย

คุณประยุทธ์อาจหลงอำนาจจนทำให้รัฐบาลตัดสินใจไม่รอบคอบ และการเปิดประเทศเพื่อรักษาหน้าคุณประยุทธ์คือหนึ่งในความมั่วของการบริหารที่สุด เพราะที่จริงกระทรวงสาธารณสุขออกมาตรการสำหรับ “พิ้นที่นำร่องการท่องเที่ยว” ไว้ตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน แต่คุณประยุทธ์ไม่ฟังเลย

พูดตรงๆ หากคุณประยุทธ์เปิดประเทศตามกรอบกระทรวงที่วางเกณฑ์ด้านความพร้อม, ประชากรฉีดวัคซีนสองเข็มมากกว่า 50%, กลุ่มเสี่ยงต้องฉีดสองเข็มมากกว่า 80% และผู้ป่วยใหม่ต้องมีอัตราส่วนที่ 5-10 คนต่อประชากรแสนคน ความกังวลของประชาชนก็จะไม่ลุกลามอย่างนี้เลย

คุณทักษิณ ชินวัตร และคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พูดตรงกับคนทั้งประเทศว่าเปิดประเทศจำเป็น แต่วิธีเปิดแบบคุณประยุทธ์น่าห่วงเรื่องความไม่รอบคอบ แม้กระทั่ง ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยาจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์ฯ ยังงงว่าไทยจะตรวจโควิดนักท่องเที่ยวอย่างไร หากเข้ามาวันละ 1 แสนคน

น่าสังเกตว่าขณะที่คุณประยุทธ์พูดเรื่องเปิดประเทศให้ต่างชาติเข้าโดยอ้างว่าไม่ทำเชื้อลาม รายชื่อประเทศที่อนุญาตให้เข้ากลับสะท้อนความสามารถจ่ายเงินยิ่งกว่าการควบคุมการระบาด ยิ่งกว่านั้นคือการเปิดประเทศเป็นมาตรการที่รัฐปฏิบัติต่อคนต่างชาติเท่านั้น

แต่ไม่มีอะไรเกี่ยวกับคนไทย

แผนการเปิดประเทศของคุณประยุทธ์มีแต่กำหนดการขายชาติให้คนต่างด้าวมาเยือน ถัดจากนั้นคือการเปิดร้านเหล้าหรือร้านอาหารที่รัฐบาลห้ามทำมาหากินมาสองปีแล้ว

แต่ไม่มีสักคำที่พูดถึงถึงกำหนดการเปิดเรียน, เลิกเคอร์ฟิว, เลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน, เลิก ศบค. และเลิกเอานายพลมาคุมโรคระบาด

คุณประยุทธ์ถูกมองว่าเป็นตัวตลกในสายตาประชาชน ภาพลักษณ์คุณประยุทธ์วันนี้ย่อยยับถึงระดับเด็กประถมยังเอาไปล้อ และวิธีที่คุณประยุทธ์เปิดประเทศก็สะท้อนความบ้องตื้นจริงๆ

คุณประยุทธ์เปิดประเทศเพื่อเงิน มาตรการเปิดจึงมุ่งโกยเงินนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มากที่สุด อะไรที่ไม่ได้เงินถือว่าไม่จำเป็น

การเปิดประเทศแบบนี้จึงทำให้ประเทศไทยกลายเป็น “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ที่นักท่องเที่ยวเข้าไทยได้เสรี ขณะที่คนไทยถูกควบคุมเช้าจรดเย็น

ด้วยการไม่เลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินและเคอร์ฟิว การเปิดประเทศทำให้คนไทยเป็นชนชั้นล่างในประเทศตัวเองอย่างที่สุด

คนไทยรวมตัวเกิน 5 คนถูกยัดคดี แต่คุณประยุทธ์ไม่มีทางลงโทษคนต่างชาติที่รวมตัวเกิน 5 แน่ๆ เช่นเดียวกับไม่มีทางบังคับใช้กฎหมายเคอร์ฟิวกับคนต่างชาติอย่างทำกับคนไทย

คุณประยุทธ์สร้างระบบเปิดประเทศทางเศรษฐกิจ แต่ปิดประเทศทางการเมือง คุณประยุทธ์มุ่งสร้างความมั่นใจให้คนต่างชาติว่ามาไทยแล้วจะปลอดภัย แต่คุณประยุทธ์ไม่สนใจเรื่องการทำให้คนไทยมั่นใจว่าไปไหนจะไม่ติดโควิด ฯลฯ จนความเป็นคนไทยธรรมดาๆ ไม่มีความหมายอะไรเลย

เจ็ดปีใต้ระบอบประยุทธ์ทำให้คนไทยทุกคนรู้ว่าคุณประยุทธ์พร้อมทำทุกทางเพื่อกดหัวฝ่ายตรงข้ามตัวเอง

แต่ด้วยวิธีที่คุณประยุทธ์ปล่อยฟรีต่างชาติคู่ขนานกับควบคุมคนไทย คุณประยุทธ์ประจานตัวเองว่าเกลียดคนร่วมชาติที่เห็นต่างขั้นสามารถกดคนเหล่านี้ให้ด้อยกว่าต่างชาติได้โดยไม่ละอาย

ไทยกำลังจะเปิดประเทศบนความหวังว่าจะฟื้นฟูประเทศขึ้นมา แต่ด้วยความอำมหิตที่ฝังอยู่ในคุณประยุทธ์ การเปิดประเทศยังใม่เคยถูกคิดในมุมว่าคนไทยจะได้อะไรโดยตรงบ้าง นอกจากได้เงินค่าห้อง, ค่าข้าว, ทิป ฯลฯ จากนักท่องเที่ยว ส่วนคนทั้งประเทศอาจไม่ได้อะไรเลย

คุณประยุทธ์กำลังสร้างระบบเปิดประเทศทางเศรษฐกิจ ปิดประเทศทางการเมืองที่อันตราย เพราะในที่สุดคือการสร้างระบบที่เปิดประเทศให้ต่างชาติ แต่ปิดประเทศกับคนไทยด้วยกัน โดยเฉพาะคนที่เห็นต่างจากรัฐบาล ซึ่งยิ่งนานก็ยิ่งคือคนส่วนใหญ่ของประเทศ