ในประเทศ

แป๊ะ “Talent” โชว์คลายคดี 8 ศพ ค้ำเก้าอี้ “ผบ.ตร.”

ชัดเจนว่าผลงานคลี่คลายคดีสังหาร 8 ศพ จ.กระบี่ เป็นเสมือนเกราะคุ้มกัน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ไว้อย่างแข็งแกร่ง

การสวมบท “แม่ทัพสีกากี” ถือธงนำผู้ใต้บังคับบัญชาตั้งแต่ระดับนายพล จนถึงระดับฟันเฟืองตัวเล็กๆ ลงพื้นที่คลี่คลายคดีจนประสบความสำเร็จอย่าง “แม่นยำ” และ “ฉับไว” ภายในเวลา 5 วัน

ไม่เพียงได้รับการชื่นชมจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหม

สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดยังได้รับการยกย่องจากชาว จ.กระบี่ ประชาชนทั่วทั้งประเทศ ตลอดจนสื่อมวลชนที่เฝ้าติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกฝีก้าว

ตั้งแต่วันเกิดเหตุ ผ่านวิธีการสืบสวนไขคดี สอบสวนบุคคลที่เกี่ยวข้อง หาสาเหตุแรงจูงใจการก่อคดี รวบรวมพยานหลักฐาน ตรวจพิสูจน์ด้วยหลักนิติวิทยาศาสตร์ กระทั่งนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด

ย่อมเป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นถึง “ศักยภาพ” และ “ประสิทธิภาพ” ความเป็น “ผู้นำ” ของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา หรือที่สื่อมวลชนเรียกว่า “บิ๊กแป๊ะ” ได้อย่างดี

ถึงแม้ศักยภาพและประสิทธิภาพในลักษณะนี้ จะเคยปรากฏอยู่ในคดีใหญ่ เช่น คดีระเบิดศาลท้าวมหาพรหม สี่แยกราชประสงค์ หรือคดีวางระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า

แต่คดีสังหาร 8 ศพ จ.กระบี่ เป็นการฉายให้เห็นถึงประสิทธิภาพและศักยภาพของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ในฐานะผู้นำสูงสุดขององค์กรตำรวจ ได้ชัดเจนมากที่สุด

เหมือนที่ พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่าเป็นการทำงาน “แบบมืออาชีพ”

ท่ามกลางกระแสการปลุกปั่นจากบุคคลบางกลุ่ม ที่พยายามเรียกร้องกดดันให้รัฐบาล คสช. เร่งรัด “ปฏิรูปตำรวจ” ไปในแนวทางที่กลุ่มพวกพ้องตนเองต้องการ

แน่นอนว่าการคลี่คลายคดีสังหาร 8 ศพ จ.กระบี่ ซึ่งถูกยกเป็นผลงานชิ้น “โบแดง” ไม่เพียงส่งผลบวกต่อภาพลักษณ์องค์กรตำรวจโดยรวม ไม่เพียง “เสริมใยเหล็ก”ให้กับเก้าอี้ ผบ.ตร.

ยังช่วยผ่อนแรงกดดันให้ พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐบาล คสช. ด้วยเช่นกัน

หลังการจับกุมกลุ่มมือสังหารยกครัว 8 ศพ

กระแส “ผบ.ตร.ฮีโร่” เริ่มจากสมาคมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน จ.กระบี่ นำดอกไม้และป้ายข้อความให้กำลังใจมามอบให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา และทีมงานตำรวจชุดคลี่คลายคดี

ตัวแทนสมาคม กล่าวขอบคุณ ผบ.ตร. ที่นำทีมตามจับกุมกลุ่มคนร้ายผู้ก่อเหตุสะเทือนขวัญได้รวดเร็ว สร้างความอุ่นใจให้กำบประชาชนในพื้นที่และครอบครัวผู้เสียชีวิต

ช่วยกอบกู้ภาพลักษณ์ จ.กระบี่ เมืองท่องเที่ยวกลับคืนมา ด้วยการลงพื้นที่ทำงานอย่างจริงจังของ ผบ.ตร. และเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย จนสามารถเรียกความเชื่อมั่นให้คนในพื้นที่ได้

เสียงชื่นชมการทำงานของตำรวจกลายเป็นกระแสลามเข้าสู่โลกโซเชียล กระจายไปทั่วในเวลาอันรวดเร็ว โดยเฉพาะ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ผบ.ตร. ผู้นำทีมควบคุมการสืบสวนสอบสวน

ประจวบเหมาะกับเหตุการณ์ พล.ต.อ.จักรทิพย์ สั่งหยุดรถขบวน เพื่อช่วยเหลือผู้หญิงประสบอุบัติเหตุจักรยานยนต์ล้มคว่ำ สั่งให้คณะตำรวจติดตามเรียกรถพยาบาล และลงไปช่วยพยุงรถจักรยานยนต์ที่ล้มอยู่ด้วยตัวเอง

ต่อมาเฟซบุ๊กมูลนิธิกระบี่พิทักษ์ประชา ได้โพสต์รูปเหตุการณ์ดังกล่าวพร้อมข้อความ “ผบ.ตร.ครับ เอาใจพี่น้องประชาชนไปเลย” ก่อนมีคนนำภาพไปแชร์ต่อจำนวนมาก

ขณะเดียวกัน ก็ได้มีชาวบ้าน จ.กระบี่ อุ้มลูกจูงหลานมาพบ พล.ต.อ.จักรทิพย์ เพื่อให้กำลังใจ พร้อมกับระบุว่า ตอนนี้ ผบ.ตร. เป็น “ไอดอล” ของเด็กๆ ที่โตขึ้นอยากเป็นตำรวจไปแล้ว

“นี่คือการทำงานแบบมืออาชีพ”

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวถึงเบื้องหลังความสำเร็จของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คดีสังหารหมู่ 8 ศพ

ระบุว่า หลังเกิดเหตุตนเองและรองนายกฯ กำชับขอให้ ผบ.ตร. และตำรวจระดับสูงลงไปในพื้นที่เพื่อกำกับดูแลคดีด้วยตัวเอง

ซึ่ง ผบ.ตร. ก็ลงพื้นที่ อดหลับอดนอนหลายวัน ก็ทำได้ภายใน 5-6 วัน

เนื่องจากคดีใหญ่ๆ ที่มีผลกระทบสูง ผู้บังคับบัญชาต้องลงไปขับเคลื่อนด้วยตัวเอง ก็ได้เห็นว่ามีความสามารถ

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวชื่นชมนายตำรวจระดับสูงที่ร่วมกันลงพื้นที่ รวมถึงทีมงานสืบสวนสอบสวน ว่านี่คือสิ่งดีๆ ที่ตำรวจทำ ให้ไปชั่งน้ำหนักดูว่ามากน้อยแค่ไหน

เพราะส่วนใหญ่มักพูดถึงตำรวจในแง่เลวร้าย แต่เรื่องดีกลับไม่พูดถึง

เช่นเดียวกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่กล่าวชื่นชมการทำงานของตำรวจที่ใช้เวลาไม่กี่วัน ก็สามารถคลี่คลายคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนสำเร็จ สามารถจับกุมคนร้ายได้ทั้งหมด

โดยเฉพาะการทำงานของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ที่ลงไปทำคดีด้วยตัวเอง

กระแสเสียงชื่นชมตำรวจโดยเฉพาะ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ดังมาจากทั่วทุกสารทิศ

กลบเสียงเรียกร้องของคนกลุ่มเดิมๆ ที่ต้องการให้มีการปฏิรูปตำรวจชนิดพลิกเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ และเคลื่อนไหวกดดันเปลี่ยนตัว ผบ.ตร. ให้แผ่วเบาลง

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ได้รับแต่งตั้งเป็น ผบ.ตร. ปลายปี 2558 ขณะที่มีอายุราชการเหลือถึงปี 2563

แต่ตลอดช่วงเวลาเกือบ 2 ปีบนเก้าอี้ กระแสกดดันให้มีการเปลี่ยนตัว ผบ.ตร. ก็เกิดขึ้นเป็นระยะๆ โดยเฉพาะในช่วงแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจประจำปี ที่มักมี “การเมือง” เข้ามาเกี่ยวข้อง

เป็นการเมืองระดับรัฐบาล และการเมืองภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

พล.ต.อ.จักรทิพย์เคยให้สัมภาษณ์สื่อเมื่อเดือนเมษายน 2559 ว่า

“อย่าไปใส่ใจเรื่องพวกนี้มาก ผมจะถูกปลดทุกเดือนนั่นแหละ อาจจะเป็นสักเดือนก็ได้ อาจจะสมใจนึกพวกท่านก็ได้—”

“—ใครแอบเชียร์ใครอยู่ ผมรู้หมด คนถามประเด็นนี้แอบเชียร์ใคร ก็รู้อยู่ รู้หมดใครไปไหนมาไหน ในเขามีเรา ในเรามีเขา อย่านึกว่าในเขาไม่มีคนของผม คนของผมก็อาจมีคนของเขาอยู่”

และทุกครั้งที่มีกระแสข่าวลือปลด ผบ.ตร. ก็จะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ปฏิเสธว่า ไม่เป็นความจริง

ล่าสุด พล.อ.ประวิตร ยืนยันด้วยว่า ไม่เคยมีสัญญาว่าจะให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์นั่งตำแหน่ง ผบ.ตร. แค่ 2 ปี

ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน หลังมีการปล่อยข่าวปรับ ครม. ที่นอกจากสลับเก้าอี้ รมว.กลาโหมของ พล.อ.ประวิตร กับเก้าอี้ รมว.มหาดไทยของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา

ยังมีการระบุถึงสูตรการดึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ที่เพิ่งโชว์ผลงานคลี่คลายคดีฆ่า 8 ศพ จ.กระบี่ จนกลายเป็น “ผบ.ตร.ฮีโร่” ในสายตาประชาชน มาเป็น รมว.การพัฒนาสังคมฯ

แทน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว เจ้าของเก้าอี้เดิม ที่จะโยกไปเป็นรองนายกฯ คุมงานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

จากนั้นให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ฝ่ายความมั่นคง ที่มีความใกล้ชิดกับทหาร ขยับขึ้นมาเป็น ผบ.ตร. แทนที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์

ตามสูตรปรับ ครม. ที่ปล่อยออกมา เกิดการวิเคราะห์เชิงลึกว่า เป้าหมายน่าจะอยู่ที่เก้าอี้รองนายกฯ คุมสำนักงานตำรวจแห่งชาติของ พล.อ.ประวิตรมากกว่า โดยมีกรณี พล.ต.อ.จักรทิพย์เป็นส่วนพ่วง

ตามแผนยิงกระสุนนัดเดียวได้นก 2 ตัว

สมประโยชน์ทั้งฝ่ายจ้องยึดอำนาจ พล.อ.ประวิตรและฝ่ายจ้องโค่นเก้าอี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์

แต่แล้วผลงานการคลี่คลายคดี 8 ศพ จ.กระบี่ อย่าง “แม่นยำ” และ “ฉับไว”

ก็เหมือนเกราะป้องกันเก้าอี้ ผบ.ตร. ไว้ได้เป็นอย่างดี

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปฏิเสธไม่เคยคิดที่จะปรับ ครม. ตอนนี้ โดยเฉพาะตำแหน่งของ พล.อ.ประวิตร และยังสวนกลับข่าวที่ว่าจะดึงเอา ผบ.ตร. ไปนั่งเป็นรัฐมนตรี

เป็นแค่ความคิด “เพ้อเจ้อ”

เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ยืนยันด้วยตัวเองเช่นนี้ ประกอบกับผลงานการคลี่คลายคดีสังหาร 8 ศพ ทำให้กลายเป็นจุดเปลี่ยน เกิดกระแสตีกลับ ฝ่ายจ้องเขย่าเก้าอี้ ผบ.ตร.

ยังคงต้องเหน็ดเหนื่อยต่อไป